"โอ้ ทำไมเสื้อผ้าของประธานเยี่ยถึงสกปรกซะได้" ในขณะนั้น หมอและพยาบาลอีกคนที่กำลังทำความสะอาดห้องอุทานขึ้น "นี่มันอะไรกัน"
“ขอฉันดูหน่อย” พวกหมอและพยาบาลโน้มตัวไปดูใกล้ๆ “ถ้ามองไม่ผิด น่าจะเป็นมูลนกนะ”
"อาจเป็นจะเป็นของนกแก้วตัวน้อยตัวนั้นสินะ" หมอและพยาบาลทั้งสองมองดูซื่อเป่าน้อยที่สลบไสลด้วยความงงงวย
"ใช่แล้ว ถูกต้องแล้วเป็นมูลของมัน" พยาบาลที่ออกมาจากห้องน้ำพูดอย่างตื่นเต้นว่า "เมื่อคืนนี้ ฉันเห็นนกแก้วตัวน้อยนั้นอุจจาระเป็นกองที่บนไหล่ของประธานเยี่ย ใบหน้าของประธานเยี่ยตอนนั้นก็ดูแย่มาก..."
"หรือว่า..." หมอและพยาบาลหลายคนมองซื่อเป่าน้อนด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ
เฟิงเชียนเสวี่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง เธอจ้องมองซื่อเป่าน้อยอย่างว่างเปล่าและความคิดก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ ซื่อเป่าน้อยโดนเยี่ยเจิ้นถิงบีบคอจนตายแล้วหรือเปล่า
ร่างกายของเฟิงเชียนเสวี่ยอ่อนแรงลงและเธอเกือบจะล้มลงบนเตียง...
"คุณเฟิงคะ..." พยาบาลรีบพยุงเธอทันทีและก็ปลอบเธอเบา ๆ "อย่าเศร้าเกินไปเลย นกแก้วน้อยตัวนี้ยังมีชีวิตอยู่ ไปให้สัตวแพทย์ช่วยดูบางทีอาจจะช่วยชีวิตมันได้นะคะ"
“พวกเรายังมีธุระต้องทำกัน ขอตัวก่อนนะคะ”
พวกหมอและพยาบาลรู้สึกว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยรีบพากันออกไป...
"รอฉันด้วย" ผู้ช่วยหมอก็วิ่งออกไปด้วยพวกเขากลัวว่าเฟิงเชียนเสวี่ยจะโกรธและดึงพวกเขาไปมีเอี่ยวด้วย
เฟิงเชียนเสวี่ยอยู่ในห้องคนเดียว เธอเห็นสภาพที่ใกล้จะตายของซื่อเป่าน้อยและเธอก็เต็มไปด้วยความแค้นต่อเยี่ยเจิ้นถิง
เจตนาดีอะไร ปากแข็งใจอ่อนอะไร เป็นของปลอมเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น...
ซื่อเป่าน้อยแค่ไปอุจจาระบนไหล่ของเขา เขาก็บีบคอซื่อเป่าน้อยอย่างไร้ความปรานีจนตาย
เขาคือปีศาจ ปีศาจร้าย
ยิ่งเฟิงเชียนเสวี่ยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เธอยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดเขาและอยากจะบีบคอเขาให้ตาย...
ในเวลาเดียวกัน เธอนึกถึงอีกคำถามถ้าเยี่ยเจิ้นถิงสามารถลงมือกับนกแก้วตัวเล็กๆได้ แล้วเขาจะสามารถลงมือกับลูกๆทั้งสามคนได้หรือไม่...
เฟิงเชียนเสวี่ยตัวสั่นและตื่นตระหนก...
เยี่ยเจิ้นถิงคิดว่าเด็กทั้งสามคนคือลูกของเธอกับฉู่จือมั่ว ดังนั้นเธอจึงรู้สึกขุ่นเคืองใจมานานและเกรงว่าเขาจะฆ่าพวกเด็กจริงๆ...
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฟิงเชียนเสวี่ยก็กลัวมากขึ้นและเธอก็เดินไปเดินมาในห้อง
ในเวลานี้ จู่ๆเธอก็พบว่าประตูห้องปิดไม่สนิทมันแง้มอยู่ เธอเลยรีบไปที่ประตูเพื่อแอบดูพยาบาลหญิงยืนเฝ้าอยู่ข้างนอกที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่
บอดี้การ์ดของตระกูลเยี่ย รีบออกไปด้วยเหตุผลบางอย่าง...
เฟิงเชียนเสวี่ยใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้แอบออกไปกับซื่อเป่าน้อย เธอเดินเท้าเปล่าและไม่มีเวลาทันใส่รองเท้า วิ่งไปทีลิฟต์อย่างเต็มกำลัง
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เฝ้าอยู่ก็รีบตะโกน "พระเจ้าช่วย คุณเฟิง..."
เฟิงเชียนเสวี่ยรีบก้าวเข้าไปในลิฟต์และรีบกดปุ่ม
ในเวลานี้ บอดี้การ์ดสองคนของตระกูลเยี่ยก็เห็นเธอเช่นกัน พวกเขารีบไล่ตามเธอ แต่ประตูลิฟต์ปิดไปแล้ว
เฟิงเชียนเสวี่ยจ้องไปที่หมายเลขลิฟต์อย่างใจจดใจจ่อ โดยหวังว่าจะหลุดจากเงื้อมมือของเยี่ยเจิ้นถิงไปได้...
โชคดีที่เธออยู่บนชั้นสี่และลิฟต์ก็ลงมาอย่างรวดเร็ว
พอประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็รีบวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ วิ่งให้สุดฝีเท้า
"คุณเฟิง... " บอดี้การ์ดของตระกูลเยี่ยตะโกนมาจากด้านหลัง
เฟิงเชียนเสวี่ยทำได้แค่เมินพวกเขา ตอนนี้เธอแค่ต้องการหนีจากเงื้อมมือของเยี่ยเจิ้นถิง...
บอดี้การ์ดเหล่านั้นเคลื่อนไหวเร็วมากและพวกเขากำลังจะตามเธอทัน
เฟิงเชียนเสวี่ยกระวนกระวายมากและในวินาทีนี้ ก็มีรถแลมโบกินี่จอดอยู่ข้างถนนโดยเปิดประทุนไว้และฉู่จือมั่วที่อยู่ในรถก็ตะโกนว่า "เชียนเสวี่ย ขึ้นมา"
"จือมั่ว?" เฟิงเชียนเสวี่ยหยุดและลังเล เธอไม่อยากให้ฉู่จือมั่วมาเกี่ยวข้อง...
"รีบขึ้นรถเร็ว" ฉู่จือมั่วรีบปลดเข็มขัดนิรภัยและลากเฟิงเชียนเสวี่ยเข้าไปในรถ
"คุณเฟิงงง..." พอบอดี้การ์ดทั้งสองออกมา รถแลมโบกินี่ก็เร่งออกไปและหนึ่งในนั้นเห็นก็ฉู่จือมั่วและรีบพูดว่า "รีบโทรหาพี่ฮุย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก