"คุณชายเยี่ยแค่ปากแข็งใจอ่อน "เหลยอวี่ถอนหายใจอย่างปลงๆ "เขาส่งคนไปตามหาเด็กชัดๆ แต่เขากลับบอกว่าจะจับเด็ก..."
“จริงเหรอ” เฟิงเชียนเสวี่ยสงสัย “เขาใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ”
"เมื่อคืนนี้เขาไปที่บ้านคุณเพื่อตามหาคุณแล้วก็เห็นคุณเป็นลมอยู่ เขาเลยอุ้มคุณและรีบวิ่งลงมาที่ชั้นล่าง แล้วก็รีบส่งคุณมาโรงพยาบาลของฉันอย่างด่วน ตอนที่คุณยังไม่ได้สติ เขาก็เฝ้าคุณทั้งคืนหรือว่าคุณไม่รู้สึกอะไรสักนิดเลยงั้นเหรอ”
หลังจากที่เหลยอวี่พูดเรื่องทั้งหมดนี้ในลมหายใจเดียว เฟิงเชียนเสวี่ยก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เฟิงเชียนเสวี่ยมองไปที่โซฟาข้างๆ เธอ บนโซฟามีเสื้อคลุมของเยี่ยเจิ้นถิงวางไว้
บนโต๊ะกาแฟขนาดเล็กมีแก้วไวน์ลายลิมิเตดและจานลายครามหยกประจำตระกูลเยี่ย รวมถึงของว่างและผลไม้ที่ยังกินไม่เสร็จ...
เธอจำได้ว่าเมื่อเช้าพอเธอตื่นมาเขาก็รีบรุดตัวมาหาเธอแล้วก็กุมมือเธอไว้ สีหน้าและคำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง...
ตอนที่เธอขอร้องให้เขาช่วยตามหาลูกๆ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้บอกปฎิเสธ
แต่พอได้ยินเสียงของฉู่จือมั่วเท่านั้นสีหน้าเขาก็เริ่มเปลี่ยน...
บางที มันอาจจะจริง...
"คุณชายเยี่ยมีความรักคุณสุดหัวใจ" เหลยอวี่พูดอย่างจริงจัง "แม้แต่คนนอกอย่างฉันก็ยังรู้สึกประทับใจ ทำไมคุณถึงเมินเฉยล่ะ ถึงเขาจอารมณ์ร้ายและหัวรั้นไปหน่อย แต่เขาเป็นคนเรียบง่ายมาก ถ้าคุณเข้าใจเขาและใช้ใจของคุณลองสัมผัสเขา เรื่องต่างๆ จะไม่กลายเป็นแบบนี้”
เฟิงเชียนเสวี่ยคิดตามคำพูดของเหลยอวี่ มันก็ดูสมเหตุสมผลแฮะ แต่ตอนนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจที่จะคิดเรื่องพวกนี้ " ตราบใดที่เขาสามารถ ช่วยฉันหาลูกของฉันและไม่ทำร้ายคนในครอบครัวฉันอีก ฉันถึงจะขอบคุณเขามาก"
"เยี่ยฮุยเป็นคนจัดการ ไม่นานก็จะต้องหาเด็กๆเจอแน่" เหลยอวี่ไม่พูดอะไรมาก "รีบนอนเถอะ ฉันจะให้ยาแก่คุณ ตอนนี้ ครอบครัวของคุณวุ่นวายมาก ถ้าสุขภาพของคุณแย่ลง คุณจะไม่มีแรงดูแลพวกเขาเอาได้”
"ขอบคุณ..."
เฟิงเชียนเสวี่ยถูกเหลยอวี่พูดปลอบทำให้เธอสบายใจขึ้น
เหลยอวี่ออกไปหลังจากสั่งยาให้เธอ จากนั้นพยาบาลก็นำอาหารเช้ามื้อเบาๆ มาให้
หลังจากเฟิงเชียนเสวี่ยรับประทานอาหารเช้าแล้ว เธอก็อยากจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาแม่จู แต่เธอกลับพบว่าโทรศัพท์มือถือไม่ได้อยู่ที่เธอ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงยืมโทรศัพท์มือถือของพยาบาลโทรไป
พอแม่จูรับสาย แม่จูก็รู้สึกตื่นเต้นมากและหลังจากยืนยันว่าเฟิงเชียนเสวี่ยปลอดภัยแล้ว เธอก็รู้สึกโล่งอก
พอเฟิงเชียนเสวี่ยรู้ว่าแม่จูรักษาอาการป่วยอยู่ที่นี่ เธอก็สบายใจขึ้น ดูเหมือนว่าที่เหลยอวี่พูดจะเป็นความจริง เยี่ยเจิ้นถิงเป็นพวกปากแข็งแต่ใจอ่อนเขาไม่ได้ลงไม้ลงมือกับแม่จู
เฟิงเชียนเสวี่ยกำชับแม่จูให้รับการรักษาด้วยความสบายใจ ไม่ต้องคิดมากและก็บอกว่าเด็กๆ จะกลับบ้านเร็วๆนี้
แม่จูยังคงกังวลและบอกเฟิงเชียนเสวี่ยให้ระวังปีศาจเยี่ยเจิ้นถิงผู้นั้น
เมื่อเฟิงเชียนเสวี่ยได้ยินแบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่เคยต้องการให้แม่จูเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ว่าเธอจะมีปัญหาเยี่ยเจิ้นถิงขนาดไหน แม่จูกับเด็กๆก็ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
แต่คราวนี้แม่จูบังเอิญรู้ว่าเด็กๆหายไปและโทรหาฉู่จือมั่วเพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วฉู่จือมั่วก็เข้าใจเยี่ยเจิ้นถิงผิดไปมากเลยทำให้แม่จูเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเยียเจิ้นถิงผิดไปอย่างมาก
ตอนนี้เรื่องต่างๆ ซับซ้อนมากขึ้น
เฟิงเชียนเสวี่ยกลัวจริงๆ ว่า แม่จูจะหุนหันพลันแล่นอีก เธอกลัวว่าแม่จูจะพูดจาหยาบคายหรือทำร้ายเยี่ยเจิ้นถิงอีกและผลที่ตามมาก็คือหายนะ...
เธอคิดว่าถ้าพาลูกๆกลับมาได้แล้ว เธอจะต้องหาโอกาสคุยกับแม่จู
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับนกแก้วตัวน้อยตัวนี้”
หมอและพยาบาลหลายคนที่กำลังทำความสะอาดห้อง หนึ่งในนั้นก็พบซื่อเป่าน้อยสลบอยู่
และเฟิงเชียนเสวี่ยก็รีบเดินไปมองแล้วก็เห็นซื่อเป่าน้อยนอนนิ่งอยู่ใต้หมอน เธอตกใจและรีบตบตัวซื่อเป่าน้อย เรียกชื่อมัน "ซื่อเป่าน้อย เจ้าซื่อเป่าน้อย"
ซื่อเปาน้อยไม่ตอบสนอง...
“มันตายแล้วหรือเปล่า” พยาบาลผู้ช่วยเผลอพูดออกมาและรีบปิดปาก
เฟิงเชียนเสวี่ยหน้าซีดด้วยความตกใจ เธอจับซื่อเป่าน้อยขึ้นมาอย่างระมัดระวังและก็สำรวจอย่างละเอียด แม้หัวใจของซื่อเป่าน้อยจะยังคงเต้นอย่างอ่อนๆ แต่ลมหายใจเหมือนจะสิ้นใจและก็หมดสติไป...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก