“ใช่ค่ะ!” ครูใหญ่หวงรับรู้สถานการณ์นี้ เธอโค้งคำนับขอโทษ เฟิงเชียนเสวี่ยและลูกทั้งสามของเธอ “ขอโทษนะคะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันมีตาหาแววไม่ ไปล่วงเกินคุณเสียแล้ว”
“จนถึงตอนนี้คุณยังไม่รู้เลยว่าตัวเองผิดตรงไหน” เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกเกลียดชังครูใหญ่ “คุณซือจัดการให้ความยุติธรรมกับฉัน เพราะนิสัยของเขาดี ไม่ใช่เพราะเรื่องราวในอดีตของฉัน
ไม่ได้ผิดเรื่องคุณมีตาแล้วจะมีแววหรือไม่มี แต่คุณเป็นครู ไม่มีคุณสมบัติพื้นฐานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมีน้ำใจเลย!"
“ใช่ค่ะ คุณพูดถูก” ครูใหญ่หวงก้มศีรษะลงและไม่กล้าพูดอะไรอีก
เฟิงเชียนเสวี่ยชำเลืองมอง ไม่อยากพูดอะไรอีก คนแบบนี้ความจริงแล้วพูดอะไรก็ไม่ฟังหรอก
“ไปให้พ้น” ซือเฮ่าเซวียนถอนหายใจ
“ขอให้คุณซือกรุณาด้วยเถอะค่ะ...”
ครูใหญ่หวงพูดออกมาอย่างอ่อนแรง ก้มหน้าลงและเดินออกไป
คุณครูจางหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจแล้วพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า “คุณซือ ฉัน ฉัน…”
“พักงานหนึ่งเดือน ไปรับการฝึกอบรมมาใหม่ รอให้คุณมีความรู้และประพฤติตัวดีกว่านี้ก่อนค่อยเข้าทำงาน” ซือเฮ่าเซวียนกล่าว
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ” คุณครูจางรู้ว่าการลงโทษของเธอถือว่าเบา มากดังนั้นเธอจึงรีบขอบคุณและกล่าวขอโทษเด็กๆ ทั้งสามคน “เฉินเฉิน หลงหลง เย่ว์เย่ว์ คุณครูขอโทษนะที่ไม่ได้ปกป้องทุกคนให้ดี...”
“คุณครูจาง” เด็กทั้งสามคนมองดูคุณครูจางเดินจากไป
ทุกคนออกไปหมดแล้ว บอดี้การ์ดของตระกูลซือก็กำลังคุ้มกันอยู่ที่หน้าประตู
“แม่จู ผมไม่ได้พบคุณมาหลายปีแล้ว คุณสบายดีไหม” ซือเฮ่าเซวียน ทักทายอย่างสนิทสนม
“สบายดี สบายดี" จูหม่าพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า "ไม่คิดเลยว่าคุณชายซือยังจำดิฉันได้"
“จำได้สิครับ ไม่เคยลืมเลย..."
ขณะที่ซือเฮ่าเซวียนกำลังพูดประโยคนี้ ดวงตาของเขากลับมองไปที่เฟิงเชียนเสวี่ย
เขาอยากให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยลืมเธอและทุกอย่างเกี่ยวกับเธอเลย...
เฟิงเชียนเสวี่ยก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเขา
“ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่า กลับไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่ห้องเรียนกับคุณยายก่อนนะ” แม่จูจูงมือเด็กทั้งสามคน “หม่ามี๊จะปรึกษากับคุณลุงเรื่องคุณครูคนใหม่ อีกเดี๋ยวก็ตามมาจ้ะ"
“หม่ามี๊...” เด็กทั้งสามมองไปที่เฟิงเชียนเสวี่ย
“ฟังคุณยายนะ ไปเถอะลูก” เฟิงเชียนเสวี่ยกอดลูกๆ ทั้งสามคน “หยิบกระเป๋านักเรียนเสร็จแล้วไปรอหม่ามี๊ที่ประตูโรงเรียนนะ หม่ามี๊จะรีบไป”
“อืม” เด็กๆ พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
แม่จู พาเด็กๆ ทั้งสามคนเดินออกไป
กระทั่งเสียงฝีเท้าข้างนอกหายไปแล้ว ซือเฮ่าเซวียนจึงถามออกมาว่า “ใครคือพ่อของเด็ก”
เฟิงเชียนเสวี่ยขมวดคิ้ว หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับอยู่ เธอรู้ว่าเขาจะถามคำถามนี้อย่างแน่นอน...
แต่เธอควรจะตอบอย่างไรดีล่ะ
โฮสต์หนุ่มเมื่อตอนนั้น
เขาจะคิดยังไงกับเธอ
ถึงแม้จะถูกลิขิตไว้แล้วว่าไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันอีก แต่เธอก็ยังหวังที่จะทิ้งความประทับใจที่ดีไว้
“คุณไม่ต้องกังวล...” เสียงของซือเฮ่าเซวียนดูสงบมาก “เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วและก็เป็นผมที่ตำหนิคุณก่อน ผมไม่มีคุณสมบัติที่จะถามอะไรได้เลย ผมก็แค่ ผมก็แค่อยากรู้ "
“พ่อของเด็กเป็นคนธรรมดา” เฟิงเชียนเสวี่ยตอบเลี่ยง ๆ “เราเลิกกันนานแล้ว”
“คุณพบกันหลังจากออกจากไห่เฉิงหรือ” ซือเฮ่าเซวียนถามต่อ “ผมได้ยินว่าหลายปีที่ผ่นมาคุณไปอาศัยอยู่แถบชนบท...”
“ใช่ รู้จักกันในตอนนั้นแหละ” เฟิงเชียนเสวี่ยโกหก “คนเราตอนที่กำลังสิ้นหวังและล้มลง ก็มักจะโหยหาใครสักคนที่จะปกป้องเขาได้…”
“โอเค” ซื่อเฮ่าเซวียนหรี่ตาลง ไม่อยากได้ยินรายละเอียดเหล่านั้นอีก “งั้น ตอนนี้คุณเลี้ยงลูกคนเดียวอยู่หรือ”
“จะเลี้ยงคนเดียวได้ไง ยังมีแม่จูอยู่” เฟิงเชียนเสวี่ยมองไปที่เขาและประชดออกมา “คงเป็นฉันที่ต้องแสดงความยินดีกับคุณมากกว่า ฉันจากไปไม่ถึงเดือน คุณแต่งงานกับภรรยาคนสวยแล้ว และตอนนี้ก็ยังมีลูกที่โตขนาดนี้อีก!"
ซือเฮ่าเซวียนก้มศีรษะลงและไม่กล้าสบตากับเธอ เขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร และไม่สามารถอธิบายออกไปได้...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก