ข้างในห้อง หร่วนซิงหว่านหานาฬิกาพกออกมาจากกล่อง จากนั้นก็เอาข้อมูลการซื้อขายออกมาจากกระเป๋า แล้วก็มายืนยันว่าเลขที่รุ่นนี้นั้นถูกต้องอีกครั้ง
เธอดูวนไปวนมาหลายรอบ ในที่สุดก็เห็นแล้วว่ามีส่วนหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน
นาฬิกาพกอันนี้มีอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว แล้วก่อนหน้านี้ก็อยู่ในมือหร่วนจุนมาตลอด จึงโดนสึกหรอไปค่อนข้างมาก และมีรอยอยู่หลายแห่ง
และร่องรอยที่โดนเธอละเลยมาตลอดนั้น ที่ด้านล่างของร่องรอยหนึ่งที่จริงแล้วมีตัวอักษรอยู่ตัวหนึ่ง
สามารถดูออกได้เลือนรางว่าเป็นตัวอักษรM
หลินจื้อหย่วนสามตัวอักษร ก็ไม่ใกล้เคียงกับตัวอักษรนี้นี่
แล้วหร่วนซิงหว่านก็เอาบันทึกการซื้อขายมาเปิดดูอีกรอบหนึ่งตั้งแต่ต้นจนจบ ก็พบว่ามีแต่ตรงบันทึกการซื้อขายของหลินจื้อหย่วนนั้น มีเครื่องหมายดอกจันมาร์กเอาไว้
หร่วนซิงหว่านคิดวิเคราะห์ดูเล็กน้อย แล้วก็โทรศัพท์หาผู้รับผิดชอบ
หลังจากที่โทรติดแล้ว เธอก็พูดขึ้นว่า "คุณมู่ ฉันคือหร่วนซิงหว่านค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะดึกขนาดนี้แล้วยังมารบกวนคุณอีก ฉันมีปัญหาอย่างหนึ่งอยากจะถามคุณค่ะ"
"คุณพูดมาเถอะ"
"เมื่อกี้ฉันเพิ่งดูบันทึกการซื้อขายเมื่อกี้ แล้วก็เห็นมีเครื่องหมายดอกจันอันหนึ่งค่ะ แต่อันอื่นต่างก็ไม่มี ฉันอยากจะถามหน่อยว่า อันนี้มันหมายความว่ายังไงคะ?"
"อ๋อ อันนั้นเหรอ อันนั้นน่าจะเป็นลูกค้าพิเศษของเรา สำหรับลูกค้าพิเศษนั้น สามารถสั่งทำนาฬิกาพกได้ แต่ผมจำได้ว่า ลูกค้าพิเศษนั้นน่าจะมีน้อยมากเลยนะ"
หร่วนซิงหว่านกลั้นหายใจไว้ แล้วถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า "งั้นของถามหน่อยนะคะ ว่าลูกค้าพิเศษนั้น ปกติแล้วหมายถึงใครบ้างคะ?"
"ปกติแล้วจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของโรงงานผลิต หรือว่าเป็น......อ๋อ ใช่แล้ว อยู่ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ เหมือนกับว่าคุณหลินเองก็เคยสั่งทำนาฬิกาพกไปสองอันนะ"
หร่วนซิงหว่านถามต่อขึ้นว่า "คุณหลินคือใครคะ?"
"พื้นที่ทั้งแถวโรงงานเป็นของคุณหลินทั้งหมด โรงงานผลิตเขาก็ร่วมลงทุนด้วยเหมือนกัน" พูดแล้ว คนแก่ก็พูดไปเองเรื่อยๆ ขึ้นว่า "ใช่แล้ว ใช่แล้ว คุณหลินจะต้องเคยสั่งทำนาฬิกาพกไปสองอันแน่ ตอนนี้ผมยังเป็นคนรับผิดชอบดูแลเขาด้วย เขาบอกว่านาฬิกาพกอันนี้เขาจะเอาไปมอบให้กับภรรยาเป็นของขวัญวันแต่งงาน......อันหนึ่งแกะเป็นชื่อของเขา อีกอันหนึ่งให้แกะเป็นชื่อภรรยาของเขา"
พอฟังมาถึงตอนนี้ หร่วนซิงหว่านก็ได้รับคำตอบแล้ว เธอพูดขึ้นว่า "ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณมู่มากนะคะ"
พอวางสายไป หร่วนซิงหว่านก็จ้องมองนาฬิกาพกอยู่ตลอด แล้วก็ไม่พูดอะไร
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังเข้ามา จากนั้นประตูก็โดนผลักออก เพ้ยซานซานยื่นหัวอันหนึ่งเข้ามา "ซิงซิง เธอยุ่งอยู่เหรอ? กับข้าวเย็นหมดแล้ว จะไปกินก่อนแล้วค่อยมาทำต่อไหม?"
หร่วนซิงหว่านรวบรวมความคิดกลับมา แล้ววางนาฬิกาพกลงแล้วยิ้มเล็กน้อย "ได้"
ตอนที่กินข้าวนั้น เพ้ยซานซานเห็นหร่วนซิงหว่านมักจะเหม่อลอยอยู่ตลอด ก็เลยนึกว่าเธอยังเป็นกังวลเพราะว่าข้อมูลการซื้อขายอันนั้น จึงพูดปลอบใจขึ้นว่า "ซิงซิง เธออย่าคิดมากขนาดนั้นเลยนะ มีคนซื้อนาฬิกาพกไปตั้งมากขนาดนั้น มันก็ไม่แน่ว่าจะเป็น......บนนั้นก็มีเบอร์โทรติดต่ออยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้ พวกเรามาลองโทรทีละเบอร์ทีละเบอร์ ถ้าโทรไม่ติด พวกเราก็......"
หร่วนซิงหว่านพูดขึ้นว่า "ซานซาน ไม่มีอะไรแล้ว เอาตามนี้ไปก่อนเถอะ อย่างอื่นไว้วันหลังค่อยว่ากัน"
พอได้ยินแบบนี้ เพ้ยซานซานก็พยักหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ไม่พูดหัวข้อนี้ต่ออีก แต่กลับล้วงโทรศัพท์ออกมา "ซิงซิง ฉันดูบ้านมาหลายที่เลยไม่เลวนะ มีอยู่สองแห่งอยู่ตรงหมู่บ้านอพาร์ทเม้นท์ยีกุ้ย สุดสัปดาห์นี้พวกเราสามารถไปดูกันที่นี่ได้"
หลังจากที่เงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้ว หร่วนซิงหว่านถึงพูดขึ้นว่า "ซานซาน ฉันอาจจะไปดูบ้านพร้อมเธอไม่ได้แล้ว ฉันกะว่าจะไปที่แห่งหนึ่งน่ะ"
บนหน้าของเพ้ยซานซานมีรอยยิ้มที่กรุ้มกริ่มโผล่ออกมา "จะย้ายไปอยู่กับประธานโจวใช่หรือเปล่าล่ะ?"
หร่วนซิงหว่านยิ้มแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย "รอให้ผ่านไปช่วงหนึ่งฉันค่อยบอกเธอนะ"
ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี เพราะทุกอย่างเป็นเพียงแค่สิ่งที่เธอคาดเดาขึ้นมาเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง เธอก็ต้องไปหายืนยันให้ได้
เพ้ยซานซานพูดขึ้นว่า "ได้ แต่ถ้าเธอมีเรื่องอะไรจะต้องบอกฉันให้ได้นะ อย่าเก็บไว้ในใจเองคนเดียวเด็ดขาด"
"ได้"
หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วไม่นาน เพ้ยซานซานก็กลับไปนอนที่ห้องแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...