สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 172

ในรถขากลับ ไม่ว่าโจวอานอานจะคิดยังไงก็รู้สึกว่าไม่สามารถกลืนน้ำเสียงและท่าทางการพูดนี้ลงไปได้ เธอจึงถือโอกาสต่อสายโทรศัพท์ไปหาแม่ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แล้วเอ่ยปากพูดด้วยความหงุดหงิดว่า "แม่ แม่บอกพ่อเลยนะ ว่าอย่าให้เขาไปร่วมมือกับคนของบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างห่วยแตกอะไรนั่น เขากับผู้หญิงสารเลวคนนั้นเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันค่ะ!"

แม่ของเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า "อานอาน ลูกกำลังพูดอะไรอยู่?"

และโจวอานอานก็พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดว่า "บริษัทห่วยแตกอะไรนั่นมีความร่วมมือกับเราไม่ใช่เหรอคะ ให้พวกเขาไสหัวไปไกลๆเลยนะ! ไสหัวไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!!"

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ พ่อของโจวอานอานมารับสาย แล้วพูดว่า "อานอาน เมื่อกี้ลูกว่าอะไรนะ บริษัทไหนนะ?"

"บริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างค่ะ" โจวอานอานพูด แล้วหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม "และเขาก็รู้ด้วยว่าตัวเองไม่อาจเอื้อมทำความร่วมมือกับเราได้ ปีนี้มีแต่พวกขยะอะไรเนี่ยคอยตามติดทั้งนั้นเลย หนูจะต้องให้บทเรียนกับพวกมันให้ได้!" พ่อของโจวอานอานขมวดคิ้ว เขาก็รู้อารมณ์และนิสัยนั้นของลูกสาวตัวเองเช่นกัน ในใจของเขาจึงเต้นเสียงดังตึกตักขึ้นมา แล้วเขาก็พูดว่า "อานอาน ลูกทำอะไรลงไปแล้วบ้าง ลูกไปเจอใครที่มาจากบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?"

"ดูเหมือนว่าจะแซ่เฉินหรือเฉิงนี่แหละค่ะ หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน คนแบบนั้นไม่คู่ควรที่จะให้หนูจำชื่อของเขาเอาไว้หรอกค่ะ"

คิ้วของเขาขมวดลึกลงยิ่งกว่าเดิม "เขาชื่อเฉิงเว่ยใช่ไหม?"

โจวอานอานพูดอย่างไม่สนใจอะไรว่า "ดูเหมือนว่าจะใช่นะคะ เขาก็ดูเป็นเด็กหนุ่มที่มีบุคลิกและทัศนคติดีนะคะ น่าเสียดายที่เป็นคนตาบอด ยืนกรานที่จะปกป้องผู้หญิงสารเลวคนนั้นให้ได้"

เมื่อได้ยินดังนั้น พ่อของเธอก็แทบจะหายใจไม่ออก เขาจึงพูดว่า "โจวอานอานแก! แกอยู่ข้างนอกก็ทำแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นเลย! แกรีบไปขอโทษประธานเฉิงซะ ไม่แน่ว่าเราอาจจะยังมีโอกาสกอบกู้สถานการณ์ให้กลับมาเหมือนเดิมได้!"

โจวอานอานตะโกนเสียงสั่นขึ้นมาว่า "มีสิทธิ์อะไร! เขาเป็นใคร ถึงได้คู่ควรให้หนูต้องไปขอโทษเขาด้วย ก็แค่หุ้นส่วนคนหนึ่งเองไม่ใช่เหรอคะ ไม่มีก็ไม่มีสิคะ พวกเราไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าเขาน่ะ ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้มากอดต้นขาโจวซื่อกรุ๊ปแล้ว และแน่นอนว่าเขาจะต้องเสียใจสุดๆไปเลยล่ะค่ะ"

พ่อของเธอพูดด้วยความโมโหว่า "โจวซื่อกรุ๊ปก็คือโจวซื่อกรุ๊ป เกี่ยวอะไรกับแกด้วยหรือไง!"

"หนู......"

ทันทีที่เธอเอ่ยปากพูด โจวอานอานก็นึกถึงอะไรบางอย่าง และสีหน้าของเธอก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอเกือบลืมไปแล้วว่า โจวซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่ลูกนอกสมรสคนนั้นเป็นคนรับผิดชอบดูแลอยู่

ผ่านไปสักพัก โจวอานอานก็พูดขึ้นมาอีกว่า "แล้วยังไงคะ เขาก็แค่ลูกนอกสมรสคนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ช้าก็เร็วสักวันน้าเขยก็จะปลดเขาลงมาอยู่ดีนั่นแหละค่ะ"

"หลังจากที่โจวฉือเซินถูกปลดโจวซื่อกรุ๊ปจะเป็นของแกอย่างนั้นเหรอ อานอาน ลูกก็รู้อย่างชัดเจนแล้วนี่ ว่าเหตุผลที่ลูกสามารถใช้แซ่โจวได้ ก็เพียงเพราะว่าตระกูลโจวรู้สึกเสียใจต่อน้าของลูกเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ลูกไม่ได้ถือว่าเป็นคนของตระกูลโจวเลย และฐานะของลูกยังไม่สูงส่งเท่าลูกนอกสมรสนั่นด้วยซ้ำ"

"พ่อพูดมั่วๆอะไร! หนูแซ่โจว และหนูก็คือคุณหนูของตระกูลโจว! หนูสูงส่งกว่าลูกนอกสมรสนั่นไม่รู้กี่ร้อยเท่า!"

"อานอาน พรุ่งนี้ไปขอโทษประธานเฉิงกับพ่อ"

"ไม่มีทาง ถ้าจะไปพ่อก็ไปเองเลยสิ!"

พูดจบ โจวอานอานก็วางสายไปเลย

เธอกัดฟันแน่น ภายในดวงตาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

โจวอานอานใช้แรงทุบโทรศัพท์ลงไปใต้พื้นรถ แล้วร้องตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งว่า "สารเลวกันหมดทุกคน! คนสารเลว!"

......

ในร้านอาหาร

หลังจากที่รอจนอาหารมาเสิร์ฟแล้ว เพ้ยซานซาน ก็เหลือบตามองไปที่โทรศัพท์มือถือ และไอหนึ่งครั้ง แล้วพูดด้วยท่าทางที่เล่นใหญ่ว่า "ฉันขอตัวออกแบบรับโทรศัพท์ก่อนนะ พวกคุณทานกันก่อนเลย ไม่ต้องรอฉัน"

หร่วนซิงหว่านมองไปทางเธอด้วยสายตาที่มีการเตือนแฝงอยู่เล็กน้อย

เพ้ยซานซานจึงยกโทรศัพท์ขึ้น แล้วหันหน้าจอที่มีหมายเลขและกะพริบไปกะพริบมาไปทางหร่วนซิงหว่าน "ฉันมีธุระจริงๆ"

"......"

หลังจากที่เพ้ยซานซานออกไปแล้ว มุมปากของเฉิงเว่ยก็โค้งขึ้น แล้วมองไปทางหร่วนซิงหว่านและพูดว่า "ปกติสตูดิโอของพวกคุณจะยุ่งเหรอครับ"

หร่วนซิงหว่านยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ก็ถือว่าไม่ยุ่งนะคะ เพียงแต่ฉันกับซานซานสองคนก็มีบางเรื่องที่รับมือไม่ได้อยู่บ้าง ต่อจากนี้ไปถ้าประกาศรับคนเข้ามาช่วยงานเพิ่มสักสองคนก็คงจะดีขึ้นมากเลยล่ะค่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย