สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 209

ไม่กี่วันต่อมา ทุกครั้งที่หยางกุ้ยเฟินไปก่อกวนที่สตูดิโอ ก็จะถูกขวางทางเอาไว้ด้วยเหตุผลมากมายหลายอย่าง ทำเอาเธอจับต้นชนปลายไม่ถูก

แต่ไม่ว่าจะยังไง เธอก็จะทำเพื่อเงินก้อนนั้นของหลินจืออี้

เมื่อถึงช่วงเย็นวันศุกร์ พอลูกสาวของเธอเลิกเรียน เธอก็ดึงลูกสาวเข้ามาเอ่ยกระซิบอะไรบางอย่าง

เมื่อเด็กหญิงได้ฟัง ใบหน้าก็ฉายชัดถึงความหวาดหวั่น "ไม่....ไม่นะ....แบบนี้ก็จะถูกจับ...."

หยางกุ้ยเฟินออกแรงกระชากพร้อมกับดุด่า "แกมันเลี้ยงเสียข้าวสุก ฉันอุตส่าห์ซื้อของให้กินซื้อเสื้อผ้าให้ใส่ พอฉันสั่งให้ทำอะไร แกก็เอาแต่พูดว่าไม่ได้ๆ ถ้าแกฉลาดสักหน่อย ป่านนี้ฉันกับแกได้กินอาหารดีๆทุกวันไปแล้ว!"

"หนู....."

"หุบปาก ถ้าแกทำไม่สำเร็จ ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!"

เมื่อเห็นฝ่ามือกำลังจะประทับลงมาบนตัว เด็กสาวก็หดตัวสั่นโดยสัญชาตญาณ

หยางกุ้ยเฟินคว้าจับเธอ แล้วโบกมือเรียกแท็กซี่ "ไปมหาวิทยาลัยA"

สองสามวันที่ผ่านมาเธอไปทำความรู้จักใครบางคนเอาไว้ และเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่ให้นังเด็กคนนี้หยุดเรียนก็เท่านั้น

ณ ร้านกาแฟ

ผู้จัดการร้านเอ่ยพูดขึ้นมาว่า "เสี่ยวหร่วน พรุ่งนี้วันหยุด นายไม่มาด้วยเหรอ?"

"พรุ่งนี้ไม่ได้ ผมต้องไปหาพี่สาว"

"ไม่เอาน่า อีกเดี๋ยวก็จะปิดเทอมแล้วนะ สาวๆหลายคนยังอยากเห็นนายอยู่ นายก็ให้เวลาพวกเธอได้มองนายนานๆหน่อยเถอะ"

"......"

หร่วนเฉินวางผ้าเช็ดโต๊ะลง หันมาพูดกับผู้จัดการร้านว่า "ผมทำเสร็จแล้ว ไปก่อนนะ"

ผู้จัดการร้านมองตามแผ่นหลังเขาพร้อมกับถอนหายใจออกมา คนหน้าตาดีนี่ก็น่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ

เมื่อออกมาจากร้านกาแฟ หร่วนเฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดเบอร์โทรออก

เขาขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถาม "ยังไม่มีความคืบหน้าเลยเหรอ?"

อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น "ไอ้เด็ก ฉันว่านายล้มเลิกไปเถอะ นี่มันรูปตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้ว ไม่แน่คนที่นายตามหาอาจจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้วก็ได้"

หร่วนเฉินเม้มริมฝีปาก "ผมเพิ่มเงินให้ได้"

"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินนายก็รู้นี่? นี่มันยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เพิ่มเงินให้ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องไปงมให้นายที่ไหนอยู่ดี อีกอย่างต่อให้นายหาเจอก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก ยอมแพ้เถอะ"

หร่วนเฉินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเล็กๆดังมาจากข้างถนน "มีใครอยู่ไหม ช่วยฉันด้วย....."

เขาเก็บโทรศัพท์ แล้วเดินไปตามเสียง

บริเวณพุ่มหญ้าไม่ใกล้ไม่ไกล มีเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนนั่งกอดเข่าอย่างเจ็บปวดอยู่บนพื้น

หร่วนเฉินนั่งยองๆต่อหน้าเธอ "เธอเป็นอะไร?"

เด็กสาวก้มหน้า "ขาแพลง"

หร่วนเฉินมองขาข้างที่เธอกอดเอาไว้ เอ่ยถามว่า "ลุกขึ้นยืนได้ไหม ฉันจะพาไปโรงพยาบาล"

เธอลองลุกขึ้น ทว่ากลับล้มลงไปดังเดิม

หร่วนเฉินเข้าไปประคองเธอเอาไว้ "ค่อยๆ"

เด็กสาวขยับตัวอีกนิด ก็ตกเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาเต็มๆ

ดูเหมือนจะเจ็บเอามากๆ

ในตอนที่หร่วนเฉินกำลังจะโทรเรียกรถพยาบาล จู่ๆเด็กสาวก็แกะเสื้อของตัวเองออก ตะโกนขึ้นมาว่า "ช่วยด้วย!ช่วยด้วยค่ะ!ช่วยด้วย!"

ช่วงเย็นมีผู้สูงอายุมาเดินเล่นแถวมหาลัยค่อนข้างเยอะ เมื่อได้ยินเสียงร้องของเด็กผู้หญิง ทุกคนก็หันมาสนใจในทันที

คุณปู่ท่านหนึ่งดึงเด็กสาวออกมาจากหร่วนเฉิน ส่งเสียงตะคอกออกมาว่า "แกคิดจะทำอะไรเธอ!"

คิ้วสวยของหร่วนเฉินขมวดเบาๆ เอ่ยเสียงทุ้มว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น เท้าของเธอมีแผล ผมก็แค่ช่วยประคองเธอเท่านั้นเอง"

คุณปู่ไม่สนใจเขา หันมามองเด็กสาวที่กำลังตัวสั่นเทา "ไหนหนูลองเล่ามาซิ!"

เด็กสาวพูดเสียงสะอื้น "เมื่อกี้หนูเดินอยู่ๆ จู่ๆก็มีคนปิดปากแล้วก็ลากหนูเข้าไปในพุ่มไม้ แถมยังถอดเสื้อหนูด้วย....."

ในตอนนี้เอง ก็มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาท่ามกลางคนที่เข้ามามุง "พระเจ้า นี่มันสัตว์ป่าชัดๆ แม้แต่เด็กมัธยมก็ยังทำได้ลงคอ"

เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ก็มีคนเอ่ยเสริมว่า "ไอ้เด็กนี้ก็ดูเป็นคนดีนี่นา คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความคิดสกปรกขนาดนี้ คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ"

"ผู้ชายคนนี้ฉันเคยเห็นบ่อยๆ น่าจะเป็นนักศึกษาที่นี่แหละ ไปๆๆ ไปเรียกอาจารย์กับผู้อำนวยการมาเร็วเข้า ให้พวกเขาได้เห็น ว่าลูกศิษย์ที่เขาพร่ำสอนมาเป็นเด็กเปรตขนาดไหน!"

ท่ามกลางคนเข้ามามุงมีคนส่งเสียงด่าทอขึ้นมาเป็นระยะ ไม่นานรอบด้านก็มีคนมารวมตัวเยอะกว่าเดิม รวมไปถึงนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วย

เห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็มีคนกระซิบขึ้นมาว่า "นั่นมันหร่วนเฉินนี่นา เกิดอะไรขึ้น?"

"ได้ยินมาว่าเมื่อกี้เขาลากเด็กม.ปลายเข้าไปในพุ่มหญ้า เตรียมจะ...."

"คุณพระ ก็ว่าทำไมผู้หญิงมาชอบตั้งมากมายเขาก็ไม่เอา ที่แท้ก็เป็นพวกวางมาดนี่เอง น่ารังเกียจสุดๆ"

หร่วนเฉินไม่สนใจคำพูดวิจารณ์พวกนั้น เขาทำแค่มองมาที่เด็กสาว เอ่ยเสียงเย็นว่า "เธอแน่ใจนะ?"

เด็กสาวก้มหน้าลง เอ่ยพูดอย่างอึกอัก "หนู...."

มีคนเอ่ยขึ้นมาว่า "ดูเข้าๆ เริ่มขู่ผู้เสียหายแล้ว อาจารย์อยู่ไหน ทำไมยังไม่มาอีก"

หร่วนเฉินเอ่ยพูดต่อว่า "แถวนี้มีกล้องวงจรปิด เปิดดูก็ได้"

ทว่ากลับไม่มีใครสนใจคำอธิบายของเขาเลย มีแต่ตะคอกดุด่าอย่างโมโห มีบางคนถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ

ในตอนนี้เอง เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงคน "รบกวนขอทางหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ"

เธอเดินมาหยุดอยู่ข้างๆหร่วนเฉิน พร้อมกับเหลือบมองเขา "ฉันไปซื้อน้ำแค่นี้ นี่ก่อเรื่องอะไรอีก"

หร่วนเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองมาที่เธอเงียบๆ

สวี่วานกวาดตามองผู้คนรอบๆ "คุณลุงคุณป้าผู้เลือดร้อนทั้งหลาย พากันเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณคิด"

เธอเอ่ยพูดขึ้นมาช้าๆว่า "เมื่อกี้ฉันกับเด็กคนนี้กำลังเดินอยู่ดีๆ จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ น้องสาวคนนี้บอกว่าข้อเท้าแพลง เดินไม่ได้ ฉันก็เลยไปซื้อน้ำเย็นมาประคบให้เธอ แต่พอกลับมาก็ได้ยินที่พวกคุณพูดราวกับเป็นคนละเรื่อง มีใครพอจะเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"

สวี่วานพูดออกมาราวกับเป็นเรื่องจริง หลายคนที่เห็นเหตุการณ์จริงๆต่างพากันนิ่ง

แม้แต่หร่วนเฉินเองก็เกือบจะเชื่อ จึงอดหันไปมองท่าทางจริงจังของเธอไม่ได้

ทันใดนั้น ท่ามกลางผู้คนก็มีใครคนหนึ่งส่งเสียงขึ้นมาว่า "แต่เด็กผู้หญิงคนนี้บอกว่า เขาลากเธอเข้าไปในพุ่มไม้....."

"โอเค ฉันเข้าใจความหมายของคุณ แต่ฉันคิดว่า ยังมีเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องอธิบายให้ทุกคนฟังอย่างชัดเจน เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลย" เธอพูดพร้อมกับยิ้มให้เด็กผู้หญิงคนนั้นเล็กน้อย "น้องสาว ช่วงนี้ใกล้สอบ เลยเครียดจนจิตหลอนหรือเปล่า?"

เด็กสาวตัวสั่นไม่ได้พูดอะไรออกมา

สวี่วานเอ่ยขึ้นมาอีกว่า "ไม่เป็นไร พี่ชายคนนี้เขาไม่โทษเธอหรอก ขอแค่เธออธิบายเรื่องราวออกมาให้ชัดเจน"

เด็กสาวกัดริมฝีปากแน่น ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้พูดขึ้นมาว่า "โกหก....พวกเขาไม่ได้มาด้วยกัน....หนูเดินของหนูอยู่ดีๆ ไม่ได้ข้อเท้าแพลงสักหน่อย พวกเขาเป็นพวกเดียวกัน..."

รอยยิ้มของสวี่วานค่อยๆหุบลง ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ "ในเมื่อเธอต้องการอย่างนี้ งั้นก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้วนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย