ตอนนี้หร่วนซิงหว่านเสียใจจะแย่อยู่แล้ว ถ้ารู้แต่แรกก็ไม่ปากเสียถามคำๆ นั้นแล้ว
หลังจากโจวฉือเซินจอดรถเสร็จ ก็ได้พูดอย่างเรียบเฉยว่า:"ลงรถเถอะ"
หร่วนซิงหว่านเบะปาก ได้แต่ประนีประนอม
หลังจากเดินมาถึงฟู้ดสตรีท โจวฉือเซินได้สั่งของทานเล่นที่คราวก่อนหร่วนซิงหว่านมาแล้วอยากกิน จากนั้นได้พาเธอไปนั่งที่ข้างๆ อย่างชำนาญ
สำหรับเรื่องที่เขาสามารถจำของทานเล่นของคราวก่อนได้อย่างไม่ตกหล่นแม้แต่อย่างเดียว หร่วนซิงหว่านค่อนข้างตกตะลึงอยู่
แต่ตอนนั้นเธอกำลังท้องกำลังไส้อยู่เลยกินค่อนข้างเยอะ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ากินไม่หมด
ในขณะที่เธออยากจะเปิดปากพูด โจวฉือเซินได้สบตากับเธอ:"ไม่พอเหรอ?"
"......พอแล้วค่ะ"
ที่จริงว่าไปแล้วก็แปลกมากเลย มาที่นี่สองครั้ง ทั้งๆ ที่ทุกอย่างไม่เหมือนกัน แต่กลับรู้สึกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
กินถึงตอนท้าย หร่วนซิงหว่านรู้สึกความกังวลของเธอในเมื่อครู่เป็นเรื่องส่วนเกิน
ของทานเล่นที่สั่งมาล้วนกินจนหมด แทบจะไม่เหลือเลย
โจวฉือเซินไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเป็นคนเรื่องมากก็จริง แต่ก็ไม่เคยกินทิ้งๆ ขว้างๆ เลย
นี่ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เขาโตมาตั้งแต่เด็ก
หลังทานข้าวเสร็จ หร่วนซิงหว่านได้ถามหยั่งเชิงว่า:"ประธานโจว เราจะกลับกันหรือยังคะ?"
โจวฉือเซินลุกขึ้น และพูดอย่างชิวๆ :"กินข้าวเสร็จก็ต้องย่อยหน่อยสิ"
พอพูดจบ ก็ได้ก้าวเท้าเดินไปทางวัดเยว่เหล่า
หร่วนซิงหว่านถูกบีบให้เดินตามไป
ตอนนี้เด็กนักเรียนมากมายล้วนปิดเทอมฤดูหนาวกันแล้ว คู่รักวัยใสเยอะมากเป็นพิเศษ คึกคักกว่าคราวก่อนที่พวกเขามาเสียอีก
หร่วนซิงหว่านเดินไปได้ครู่เดียว ก็ได้เดินพลัดกับโจวฉือเซิน
ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะหาที่ๆ หนึ่งนั่งก่อนมั้ย ทันใดนั้นมือได้ถูกฝ่ามือใหญ่ที่อบอุ่นกุมเอาไว้
เธอเงยหน้าขึ้นมามองด้วยจิตใต้สำนึก เห็นไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่สูญหายไปจากหมู่คนไม่รู้ย้อนกลับมาอีกตั้งแต่เมื่อไหร่
หร่วนซิงหว่านอยากดึงมือออกจากฝ่ามือเขา แต่ขัดขืนไปหลายครั้งก็ไม่มีประโยชน์เลย กลับยิ่งกุมแน่นมากขึ้น ไอ้ผู้ชายเฮงซวยยังฉวยโอกาสสอดเข้าไปในซอกนิ้วเธอ กุมมือเธอไว้แน่น
โจวฉือเซินหาข้ออ้างที่ฟังดูสวยหรู:"คนเยอะเกินไป แบบนี้จะได้ไม่พลัดหลงกัน"
ไม่รอให้หร่วนซิงหว่านได้ปฏิเสธ เขาก็ได้จูงมือเธอเดินไปข้างหน้าต่อแล้ว
หร่วนซิงหว่านต่อสู้กับมือข้างนั้นของเขาต่ออย่างเจ็บใจ จนกระทั่งตรงหน้ามีเด็กผู้หญิงเดินมาคนหนึ่ง เธอไม่ได้สังเกตเห็น ถ้าไม่ใช่โจวฉือเซินยื่นมือบังเธอไว้ เธอเกือบจะพุ่งชนเข้าไปแล้ว
ที่นี่คนเยอะมากจริงๆ หร่วนซิงหว่านได้แต่ล้มเลิกความคิดไป
พวกเขาอยู่ท่ามกลางหมู่คน ก็เหมือนคู่รักที่รักกันหวานชื่นปกติคู่หนึ่ง
มาถึงที่หน้าวัดเยว่เหล่า หร่วนซิงหว่านยังไงก็คิดไม่ถึงว่าโจวฉือเซินจะดึงเธอมาต่อแถวที่จุดรับป้ายขอพรความรัก
หร่วนซิงหว่านรักษาสติและความใจเย็นไว้:"ประธานโจว คุณคิดว่าคุณทำแบบนี้มันสมเหตุสมผลเหรอคะ"
"ผมรู้สึกสมเหตุสมผลนะ"
"ฉันรู้สึกไม่สมเหตุสมผลเลย!"
โจวฉือเซินสีหน้าเรียบเฉย:"แสดงว่าปัญหาเกิดจากที่ตัวคุณ"
หร่วนซิงหว่านไม่อยากเล่นเกมส์ที่ไร้สาระแบบนี้กับเขาอีก ในขณะที่เธออยากจะดึงมือออกอีกครั้ง ได้มีผู้ชายสองคนเดินมาที่ข้างกายพวกเขา ผู้ชายหนึ่งในนั้นยังถือกล้องถ่ายรูปไว้ด้วย
"ทั้งสองท่านครับ เราเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดเยว่เหล่า ไม่ทราบว่าพวกคุณคือคู่รักกันใช่มั้ยครับ"
"ไม่......"
โจวฉือเซินตอบอย่างมั่นใจมาก:"เราเป็นสามีภรรยากันครับ"
เจ้าหน้าที่รู้ในทันที:"คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง คืออย่างนี้ครับ พวกเรารู้สึกคุณสองคนรักกันมาก ภาพลักษณ์และบุคลิกต่างก็ดูดีมาก อยากถามดูว่าเรียนเชิญพวกคุณถ่ายรูปสักสองใบได้มั้ยครับ เอาไว้ใส่โปรโมทที่วัดเยว่เหล่า จากความรู้สึกที่มีให้พวกคุณทั้งสองท่านไม่ต้องต่อแถวก็สามารถรับป้ายขอพรความรัก
โดยตรงเลยครับ นอกเหนือจากนี้ เรายังจะมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับทั้งสองท่านด้วยครับ"
หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจ พวกเขาไปเห็นมาจากไหนว่าพวกเขารักกันมาก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...