เนื่องจากเมื่อสักครู่ในสนามแข่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้รับผิดชอบจึงไม่กล้าปล่อยม้าออกมาให้ลูกหลานเศรษฐีขี่ และได้นำม้าทั้งหมดเข้าไปขังในคอกเพื่อทำการตรวจสอบ
เจียงย่านไม่มีอะไรทำ เขานั่งรอดูความตื่นเต้นที่น่าจะเกิดขึ้น
ส่วนคนอื่นๆ ได้ยินมาว่ามีคนถูกม้าชน แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าคนที่ถูกชนคือใคร ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาไม่สามารถขี่ม้าได้ แต่พวกเขาก็ยังคงรอฟังผลที่จะออกมา
หลังจากที่โจวฉือเซินกับหร่วนซิงหว่านเดินกลับเข้ามา ผู้รับผิดชอบรีบวิ่งเข้าไปต้อนรับทันที จากนั้นก็พาพวกเขาเข้าไปในห้องรับแขกเพื่อพักคอย "ประธานโจว ท่านนี้......คุณนายโจว ขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย พวกคุณทั้งสองได้รับความเสียหาย มันอยู่ในความรับผิดชอบของพวกเรา"
"สิ่งที่ผมต้องการฟังไม่ใช่เรื่องพวกนี้"
ผู้รับผิดชอบรีบเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของเขา "ครับ ครับ......ประธานโจวพูดถูก ผลการตรวจสอบได้ออกมาแล้ว มัน......ที่ก้นของม้ามีตะปูยาวปักอยู่ วันนี้ตอนบ่าย สนามม้าก็เพิ่งจะทำรั้วใหม่ ไม่รู้ว่าตะปูยาวดอกนั้นมัน......"
โจวฉือเซินพูดออกมาอย่างเยือกเย็น "คุณคิดจะพูดว่าตะปูนั่นมันมาปักที่ก้นของม้าเอง หรืออยากจะพูดว่าม้ามันจงใจไปนั่งทับตะปู?"
ผู้รับผิดชอบขาสั่นไม่รู้ว่าจะตอบคำถามยังไง
เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจทำ
คนที่มาที่สโมสรแห่งนี้ล้วนแต่เป็นคนรวยและมีชื่อเสียง เขาไม่กล้าแม้แต่ขัดขืน นับประสาอะไรกับการคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ม้าตกใจแค่นี้ก็ลำบากแล้ว แต่มันจะโชคร้ายอะไรขนาดที่วิ่งไปชนพวกเขา
โจวฉือเซินพูดออกมาว่า "ตอนบ่ายที่สนามม้ามีใครอยู่บ้าง เอารายชื่อมาให้ฉันดู"
เมื่อผู้รับผิดชอบได้ยินอย่างนั้นก็ไม่กล้าปฏิเสธ เขารีบไปหยิบใบลงทะเบียนมาให้ทันที
เมื่อเห็นชื่อของหลินจืออี้ในใบรายชื่อ โจวฉือเซินก็ไม่ได้แปลกใจ
ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น "ตอนนี้หลินจืออี้อยู่ที่ไหน?"
มีพนักงานคนหนึ่งพูดออกมาว่า "เมื่อสักครู่คุณผู้หญิงเพิ่งจะไปที่โรงพยาบาล น่าจะกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน"
ดวงตาของโจวฉือเซินสั่นไหว เสียงของเขาได้ความรู้สึก "ไปเรียกเธอกลับมา"
เห็นได้ชัดว่าผู้รับผิดชอบไม่กล้าที่จะไปเรียกหลินจืออี้ เขาพึมพำออกมาว่า "ประธานโจว คือ......"
"ไปบอกเธอว่าถ้าหากเธอไม่กลับมาตอนนี้ พรุ่งนี้ผมจะไปหาหลินจื้อหย่วนที่หลินซื่อกรุ๊ปด้วยตัวเอง"
ในตอนนั้นผู้รับผิดชอบยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา
ครั้งนี้เขาไม่ต้องไปทำให้เธอโกรธแล้ว เขาแค่เอาคำพูดของโจวฉือเซินไปบอกเธอก็พอ
ตั้งแต่ต้นจนจบ หร่วนซิงหว่านไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
การที่ม้าตกใจและวิ่งออกมา ที่จริงแล้วโดยทั่วไปมันก็เป็นแค่อุบัติเหตุ
แต่ที่ก้นของม้ามีตะปู นี่เป็นได้แค่ฝีมือของคนเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าเธอมองหลินจืออี้ในแง่ร้าย แต่ว่าเมื่อเอามาคิดกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลายๆ ครั้ง มันเป็นไปได้มากว่าจะเป็นเธอ
หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า เรื่องนี้นอกจากเธอแล้วก็คงไม่มีคนอื่นทำ
หลังจากที่ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง หลินจืออี้ก็ค่อยๆ เดินเข้ามา
เธอนั่งลงตรงด้านหน้าของโจวฉือเซินและหร่วนซิงหว่าน พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น "เรียกฉันมามีธุระอะไร?"
โจวฉือเซินหยิบตะปูที่ปักอยู่ที่ก้นของม้าโยนไปด้านหน้าของเธอ
หลินจืออี้กลอกตาและพูดออกมาเหมือนไม่เข้าใจ "นี่มันอะไร?"
หร่วนซิงหว่านพูดออกมาว่า "ที่ม้าตัวนั้นมันตกใจและวิ่งออกมาเพราะว่ามีคนไปรังแกมัน และของสิ่งนี้ก็ได้มาจากร่างกายของมัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย
ไม่เชื่อใจคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองเก่ง แต่ก็เอาตัวเองไม่เคยจะรอด ก็มั่นหน้าให้คนรอบตัวเดือดร้อนต่อไปค่ะซิงซิง...
ใครที่อ่านเรื่องนี้อยู่ไปอ่านต่อให้จบได้ ในชื่อเรื่อง สามีเก่า....มาขอแต่งงานอีกแล้ว นะคะเป็นเรื่องดียวกันค่ะ...
รออัพเดทตอนต่อไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบทีค่ะ...
รออ่านตอนไปอยู่นะคะ ช่วยลงให้จบด้วยค่ะ...
เรื่องนี้สนุกค่ะ แต่ทำไมลงไม่จบเรื่องคะ ช่วยลงให้จบได้ไหมคะ รอติดตามอยู่นะ...