สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย นิยาย บท 396

พอถึงตอนบ่าย คนที่ด่าหลินจืออี้ก็ยังไม่ได้ลดน้อยลง แต่กลับยิ่งอยู่ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น และราคาหุ้นของหลินซื่อกรุ๊ปก็ตกลงมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

แต่ว่าในเวลานี้เอง ก็มีสื่อถ่ายรูปหลินจืออี้แอบเข้าไปในสำนักงานทนายความได้

พอสองชั่วโมงให้หลัง ตัวแทนทนายความของหลินจืออี้ก็ประกาศหนังสือออกมาฉบับ บอกว่าข่าวลือทั้งหมดในโซเชียล เป็นเรื่องที่มีการสร้างขึ้นมาทั้งนั้น ไม่เป็นความจริง และบอกว่าเป็นการใส่ร้าย ขอให้ทุกคนหยุดกระจายข่าวลือ ไม่งั้นพวกเขาจะดำเนินการตามกฎหมาย

หลังจากที่ทนายของหลินจืออี้ประกาศหนังสือออกมาแล้ว หร่วนซิงหว่านเองก็ใช้เวยป๋อทางการของสำนักงานโพสต์หนังสือชี้แจงออกไปฉบับหนึ่ง บอกว่าเรื่องที่หยางกุ้ยเฟินมาโวยวายที่ร้านเป็นเรื่องจริง รวมทั้งเรื่องที่หร่วนเฉินพบเจอก็เป็นความจริง แต่ว่าก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่ชี้ไปที่ตัวหลินจืออี้

คำชี้แจง มาถึงตรงนี้ก็จบลงแล้ว

ส่วนเรื่องอื่นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องไปสนใจแล้ว

ทำมาจนถึงขั้นนี้ ก็คงพอประมาณแล้ว

หลังจากนั้น ก็มีคนออกมาเปิดเผยไม่หยุด บอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนบ้านของหยางกุ้ยเฟิน สรุปคือก็มีแต่คนที่มีความเกี่ยวข้องกับเธอทุกรูปแบบ

สุดท้ายมีบล็อกเกอร์ออกมาสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด ว่าปกติแล้วหยางกุ้ยเฟินก็พึ่งการหลอกลวงมาหลอกเอาเงิน คิดว่าหล่อนน่าจะจ้องสำนักงานของหร่วนซิงหว่านเข้าให้แล้ว หลังจากที่ไปโวยวายครั้งใหญ่แล้วไม่ได้เงิน และไม่รู้ว่ายังไงถึงได้เอาความหวังไปอยู่ที่ตัวหลินจืออี้ได้ จึงได้สร้างกลโกงกรรโชกเงินครั้งใหญ่แบบนี้ออกมาได้

ความจริงแล้ว พวกเขาต่างก็โดนหยางกุ้ยเฟินหลอกเข้าให้แล้ว

เรื่องนี้ติดอยู่บนเทรนฮิตไปหลายชั่วโมง แล้วก็หลายไปอย่างไม่มีสุ้มเสียง ซึ่งก็หมายความว่าเรื่องราวมาถึงตรงนี้ก็จบลงแล้ว

แต่ว่าการถกเถียงกันของชาวเน็ต ก็ไม่ได้จบลงเพียงเพราะเหตุนี้เท่านั้น

"ต้องพูดว่า ทุนนิยมนั้นทรงพลังมากจริง ๆ แค่คำพูดสองสามคำ ก็สามารถจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยได้แล้ว แต่ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกไม่เชื่อนะ"

"อย่าว่าแต่เธอไม่เชื่อเลย ฉันก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ถ้ามีคนกล่าวโทษหลินจืออี้แค่คนเดียวก็สามารถพูดได้ว่าเป็นการกรรโชกทรัพย์ แต่ถ้ามีสองคนล่ะ? ฉันยังไม่ลืมเรื่องของเหลียงซือซือหรอกนะ พวกหลินจืออี้นี่คิดว่าพวกเราเป็นคนโง่หรือไงกัน"

"ใช่ ใช่ ใช่ ฉันก็จำเรื่องของเหลียงซือซือได้ ก็ไปโวยวายที่สำนักงานของRuanเหมือนกัน พอสุดท้ายเห็นว่าหลินซื่อกรุ๊ปเกิดเรื่องขึ้นมา แล้วตัวเองก็เก็บไว้ไม่อยู่ก็เลยเปิดโปงออกมาจนหมดเลย"

"แต่ว่าทำไมRuanต้องช่วยหล่อนชี้แจงด้วยนะ ไม่สมควรเลยนี่ พูดตามหลักแล้ว ที่พึ่งของRuanคือโจวซื่อกรุ๊ปนี่ แล้วโจวซื่อกรุ๊ปจะกลัวหลินซื่อกรุ๊ปเหรอ?"

"ฉันก็รู้สึกว่านี่มันไม่น่าใช่เรื่องกลัวหรือไม่กลัว ความสัมพันธ์ของโจวซื่อกรุ๊ปกับหลินซื่อกรุ๊ปนั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก แล้วก่อนหน้านี้ประธานโจวกับหลินจืออี้เคยหมั้นกันมาก่อนไปไม่ใช่เหรอ จากนั้นประธานโจวก็ถอนหมั้นไป แต่ว่าสิ่งที่ทำให้คนตกตะลึงมากที่สุดก็คือ ไม่นานจากนั้น หลินซื่อกรุ๊ปก็ไปหมั้นกับพี่ชายคนโตของประธานโจวซะแล้ว เรื่องในนี้มัน อืม......พูดไม่ชัดเจนหรอก"

"นี่ประธานโจวมีพี่ชายด้วยเหรอ? ฉันตกตะลึงไปหมดแล้ว!"

"ฉันรู้สึกว่าRuanก็ไม่ได้มาช่วยชี้แจงหรอกนะ พวกเธอดูซิว่าRuanพูดว่ายังไง? ไม่มีหลักฐาน! นี่มันหมายความว่ายังไงล่ะ?หมายความว่าเธอไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินจืออี้ เพียงแค่ว่าหลินจืออี้เจ้าเล่ห์มากเกินไปก็เท่านั้น"

"ฉันก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน ฉันดูรูปถ่ายของหลินจืออี้ที่ไปออกงานร่วมกิจกรรมนั้น ถึงเธอจะยิ้มอยู่ตลอด แต่กลับรู้สึกว่าแฝงไว้ด้วยความจอมปลอมอยู่เสี้ยวหนึ่ง ในเมื่อหล่อนอยากจะจัดการRuanครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วจะให้มีหลักฐานหลงเหลือไว้ได้ยังไงกันล่ะ"

"ผู้หญิงคนนี้นี่ช่างน่ากลัวจริง ๆ และไม่ว่าหล่อนจะแก้ตัวยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอก ถ้าที่หยางกุ้ยเฟินไปโวยวายที่สำนักงานของRuanเพื่อแค่ต้องการเงินละก็ งั้นทำไมหล่อนจะต้องให้ลูกสาวของหล่อนไปหาน้องชายRuanด้วยล่ะ หล่อนคงไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น ที่จะสืบค้นความสัมพันธ์ขั้นนี้เจอได้หรอก"

"ฮา ฮา ฮา ไม่เป็นไรหรอก ทุกคนรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็พอแล้ว ในเมื่อคนเขามีเงินสามารถสงบข่าวลงไปได้ พวกเราพูดมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก ฉันจะรอดูว่าหลินซื่อกรุ๊ปจะจบสิ้นไปเมื่อไหร่ แล้วหลินจืออี้ยังจะโอหังได้อีกนานแค่ไหน"

......

ในโซเชียลมีคนคอยถกเถียงเรื่องนี้อยู่ตลอด แต่ว่าก็ไม่ขึ้นเทรนฮิตอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

เหมือนกับก่อนหน้านี้ตอนที่หลินซื่อกรุ๊ปเกิดเรื่องขึ้นมา พอผลักผู้บริหารระดับสูงหลายคนออกมาบังหน้าแล้ว เรื่องก็แล้วกันไปเลย

......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามี....เซ็นใบหย่าไปเลย