บทที่ 22 เหมือนกับว่าคุณจะลืมเรื่องอะไรไปอย่างหนึ่งนะ
หร่วนซิงหว่าน “?”
“เรื่องหย่า”
“ขอบคุณ แต่ว่าไม่จำเป็นค่ะ”
หร่วนซิงหว่านพูดจบ ก็จากไปโดยไม่ได้หยุดนิ่งเลยสักนิด
พอเพิ่งออกจากประตูมา ก็รู้สึกถึงแววตาที่โหดเหี้ยมส่องมาจากข้างกำแพง
หร่วนซิงหว่านทำเป็นมองไม่เห็น แล้วก็เดินจากไปเลย
หลังจากที่ลงมาจากตึกแล้วนั้น หร่วนซิงหว่านก็ขอช่องทางการติดต่อของพนักงานของงานโฆษณาที่ซูซือเวยไปถ่ายมาวันนี้จากเพ้ยซานซาน แล้วก็คัดลอกคลิปเสียงอันนั้นออกมาแล้วก็ส่งออกไป
เธอไม่ได้เป็นคนดีอะไรมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ว่าง ๆ แล้วเบื่อถึงได้มาต่อปากต่อคำกับซูซือเวย
บัญชีที่ควรจะคิด เธอจะไม่ให้ตกหล่นสักอย่างแน่
……
ครึ่งเดือนต่อมา สินค้าเครื่องประดับชุด“รักแรก”ก็ได้ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และการตอบรับของตลาดก็ดีมากด้วย ล้วนเอาแต่เร่งให้แบบอื่นรีบออกมาเร็ว ๆ ด้วย
หร่วนซิงหว่านไปประชุมที่เครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปมาหลายครั้ง เธอยังสามารถทำได้อย่างเมื่อก่อน ที่เดือนหนึ่งออกแบบเครื่องประดับออกมาสามแบบ แต่ว่าความหมายของหลินซือนั้นคือยังไม่ต้องรีบร้อนมากไป ผลงานทุกชิ้นต่างก็มีความต้องการทางตลาดของตัวมันเอง ขอแค่สามารถมีแบบใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ได้ก็พอแล้ว
ดูแล้วเรื่องที่สำคัญกว่าคืองานแฟชั่นโชว์ใหญ่ระดับสากลในเดือนหน้า
ครั้งนี้ทางเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปเป็นฝ่ายรับผิดชอบจัดงาน แล้วหร่วนซิงหว่านก็เป็นนักออกแบบของเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ป ถ้าหากโชว์ครั้งนี้สามารถจัดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก็เป็นโอกาสดีมากที่ผลงานที่เธอออกแบบจะสามารถแสดงอยู่บนเวทีได้ ซึ่งก็เท่ากับว่า การออกแบบของเธอก็จะได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วย
แต่พอเป็นแบบนี้แล้ว นอกจากหร่วนซิงหว่านจะต้องออกแบบผลงานต่อเนื่องของสินค้าชุด“รักแรก”แล้ว ยังจะต้องมารับผิดชอบออกแบบจิวเวลรี่ทั้งหมดของงานแฟชั่นโชว์ในครั้งนี้ด้วย ปริมาณงานทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าเลย
ยังดีที่หลินซือได้จัดผู้ช่วยมาให้เธอคนหนึ่ง เธอแค่ต้องวาดรูปออกแบบออกมาก็พอ อย่างอื่นที่เกี่ยวกับการกับแฟชั่นโชว์เช่นเสื้อผ้านางแบบการประสานงาน รวมทั้งคุณภาพจิวเวลรี่และการเลือกวัตถุดิบล้วนมีผู้ช่วยไปช่วยจัดการทั้งนั้น
พอเห็นเธอทุกวันค่ำคืนดึกดื่นยังคงทำงานอยู่ เพ้ยซานซานก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา “ซิงซิง แบบนี้เธอจะไม่เหนื่อยเกินเหรอ นี่เธอยังตั้งท้องอยู่นะ”
หร่วนซิงหว่านลูบท้องเล็กน้อย แล้วยิ้มและพูดขึ้นว่า “เจ้าตัวเล็กนี่ช่วงนี้เป็นเด็กดีมากเลย ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยรบกวนฉันเลย ไม่เป็นไรหรอก”
เพ้ยซานซานรู้ว่าเมื่อสามปีก่อนเธอจำเป็นจะต้องทิ้งความฝันที่จะเป็นนักออกแบบไป ตอนนี้ก็เลยค่อนข้างที่จะรักษาโอกาสในครั้งนี้มาก และสู้ไม่ยอมถอยเลย
พอผ่านไปสัก เพ้ยซานซานก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “งั้นนอกจากงานแล้ว เธอก็ต้องคิดเผื่อตัวเองบ้างซิ ช่วงนี้จี้หวยเจี้ยนมาหาฉันตั้งหลายครั้งแล้ว ฉันดูท่าทางแบบนั้นของเขาแล้วนี่ใกล้จะไปดักรอฉันที่หน้าประตูสำนักพิมพ์แล้ว ในเมื่อเธอก็หย่ากับโจวฉือเซินแล้ว และเขาก็มีความพยายามซะขนาดนี้ หรือไม่เธอก็……”
หร่วนซิงหว่านส่ายหัวเล็กน้อย “ฉันกับจี้หวยเจี้ยนจบกันไปตั้งนานแล้ว”
“เธอลองคิดดูหน่อยซิ ให้โอกาสตัวเองสักครั้ง แล้วก็ให้โอกาสเขาด้วย”
“ซานซาน ฉันตั้งท้องอยู่นะ เธอคิดว่าจี้หวยเจี้ยนจะยอมรับการเป็นพ่อเลี้ยงได้เหรอ”
เพ้ยซานซานไม่พูดอะไรอีก
เปิดปากหลายครั้งแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร
โจวฉือเซินเจ้าผู้ชายชาติหมาคนนั้น หย่าก็หย่ากันไปแล้วก็ยังทำร้ายคนไม่เลิกอีก
……
ที่ไนต์คลับมู่สื้อ
บนโต๊ะไพ่ มีคนมองไปทางชายหนุ่มที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่มุมห้อง แล้วถามขึ้นเสียงเบาประโยคหนึ่งว่า “ช่วงนี้ประธานโจวเหมือนกับว่าจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย ทุกครั้งที่มาก็เอาแต่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียว ไพ่ก็ไม่เล่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
ในฐานะที่เจียงย่านเป็นคนที่รู้เรื่องอยู่คนเดียว จึงตอบกลับไปประโยคหนึ่งว่า “จะเป็นอะไรไปได้ ก็หย่าแล้วไง”
พอได้ยินเรื่องที่โจวฉือเซินหย่าแล้ว คนทั้งโต๊ะไพ่ก็นั่งไม่ติดแล้ว ผู้ชายก็สอบถามขึ้นด้วยความสงสัย ผู้หญิงก็จดจ้องด้วยความหวั่นไหว
“ประธานโจวไม่ชอบภรรยาของเขาไม่ใช่เหรอ หย่าแล้วก็ควรจะดีใจซิ”
“ใช่ ดีใจอยู่นั่นไง เขาก็ดื่มเหล้าฉลองอยู่คนเดียวตลอดไม่ใช่เหรอ”
ผู้คนทั้งหมด “……”
เจียงย่านหยางไพ่ในมือออกมา “ชนะแล้ว จ่ายเงินมา จ่ายเงินมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...