บทที่ 25 คุณได้วิจารณ์ความคิดเห็นของคุณผู้หญิงไปรุนแรงมาก
จี้หรันมองไปที่จี้หวยเจี้ยนอย่างรู้สึกสนุกสนาน “แค่เด็กตัวเล็ก ๆ ไม่แน่อาจจะแค่เล่น ๆ เท่านั้น? หวยเจี้ยน นายรู้สึกว่ายังไงล่ะ?”
จี้หวยเจี้ยนเห็นพวกเขาคุยกันแล้วก็ปวดหัว “พี่ ผมไปเอารถก่อนนะ”
“ได้ ได้ ได้ ไปเถอะ พวกเรารอนายอยู่ตรงนี้นะ”
รอจี้หวยเจี้ยนเดินไปแล้ว จี้หรันถึงถามขึ้นว่า “แล้วจืออี้เธอล่ะ? เธอมีแผนการยังไงบ้าง?”
หลินจืออี้ยักคิ้วเล็กน้อย “ฉันจะไปมีแผนการอะไรได้ล่ะ เรื่องความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้หรอก”
“เธออย่ามาพูดแบบนี้กับฉันเลย ช่วงนี้ฉันได้ยินมาว่าโจวฉือเซินหย่าไปแล้ว แล้วตระกูลโจวก็กำลังวางแผนเรื่องการแต่งงานใหม่ของเขา ครั้งนี้ที่เธอกลับมา ก็คงจะต้องเป็นเพราะเหตุนี้ด้วยใช่ไหม?”
หลินจืออี้ไม่ได้ยอมรับ แล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เธอกับโจวฉือเซินถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็ไม่ถือได้ว่าไม่เลว แล้วเธอกับโจวฉือเซินก็อายุไล่เลี่ยกัน ก็เลยคิดมาตลอดว่าพวกเขาจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมของซึ่งกันและกัน
แต่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า โจวฉือเซินกลับแต่งงานอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงไปได้ ผู้หญิงที่แต่งด้วยยังเป็นคนที่เคยโดนขายไปที่มู่สื้ออีกด้วย
หลินจืออี้ยังโมโหเพราะสิ่งนี้อยู่ที่บ้านอยู่ตั้งนาน แต่ว่าพอเธอเปลี่ยนมุมคิดดูแล้ว มันก็ถูก ลูกนอกสมรสกับผู้หญิงชั้นต่ำ จะมีอะไรเหมาะสมกันไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
ตอนแรกเธอคิดว่าไปเมืองนอกแล้วก็จะสามารถลืมเรื่องทั้งหมดนี้ไปได้ แต่ว่าพวกผู้ชายที่เธอเจอนั้นไม่มีใครเทียบโจวฉือเซินได้เลยสักคน แล้วบวกกับช่วงระยะเวลาสามปีมานี้ เห็นได้ชัดว่าอำนาจส่วนใหญ่ของโจวซื่อกรุ๊ปได้ตกไปอยู่ในมือของโจวฉือเซินแล้ว เขามีทั้งพลังมีทั้งอำนาจและยังมีหน้าตา มีทุนที่มากพอที่จะทำให้ผู้หญิงหวั่นไหวได้ และออร่าพวกนี้ก็ได้บดบังความเป็นลูกนอกสมรสของเขาไปหมดแล้วด้วย
และที่สำคัญ บนโลกใบนี้ก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องที่ว่าเขาเป็นลูกนอกสมรส
หลินจืออี้ได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็กว่าไม่ให้เข้าไปแทรกแซงการแต่งงานของผู้อื่น ถึงแม้ว่าเธอจะดูถูกผู้หญิงที่อยู่ข้างกายโจวฉือเซินคนนั้นมากแค่ไหนก็ตาม แต่พอเธอได้ยินข่าวที่เขาหย่าแล้ว เธอก็รีบกลับประเทศมาทันทีเลย
เวลาสามปีที่รอคอยมา ในที่สุดก็จะได้สมหวังในวินาทีนี้สักที
……
เวลาสี่ทุ่มกลางคืน
ย่านธุรกิจการเงินหรูหราได้ผ่านช่วงเวลาเลิกงานที่วุ่นวายที่สุดไปแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าบนทางเดินได้กว้างขวางมากขึ้นแล้ว
เงาคนคนหนึ่งวิ่งโซซัดโซเซโผล่ออกมาจากทางหัวโค้ง แล้ววิ่งตรงไปทางตึกที่สูงที่สุด
ที่ข้างหลังของเขามีคนกลุ่มหนึ่งที่ถือไม้วิ่งไล่ตามมา ผ่านไปไม่นานก็ไล่ตามเขาทัน แล้วก็กดตัวเขาลงกับพื้น และเริ่มเตะต่อยขึ้นมา
โจวฉือเซินที่เดินมาถึงหน้ารถ หยุดฝีเท้าลง แล้วหันหน้าไปมองเหตุการณ์วุ่นวายที่อยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก
พอหลินหนานสังเกตเห็น ก็รีบเดินไปดู แล้วก็เข้าใจสถานการณ์จากน้ำเสียงติด ๆ ขัด ๆ ที่เปล่งออกมาจากปากของคนที่โดนกระทืบอยู่ ตอนที่กลับไปนั้นสีหน้าก็ได้เคร่งขรึมขึ้นหลายเท่า “ประธานโจว เป็นพ่อของคุณผู้หญิงครับ”
ภายใต้แสงไฟสีนวลของไฟข้างถนน ใบหน้าของโจวฉือเซินเยือกเย็นและเฉียบคม แล้วก้าวเท้ายาว ๆ เดินไป
แล้วในตอนที่หลินหนานนึกว่าเขาจะระเบิดความโกรธออกมานั้น กลับได้ยินเสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นมาว่า “เอาให้เขาสองล้าน”
พอได้ยินแบบนี้ แค่พริบตาเดียวสีหน้าของหร่วนจุนก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วก็ยื่นมือไปตบบ่าของโจวฉือเซินเล็กน้อย และพูดขึ้นอย่างดีใจอย่างสุดซึ้งว่า “ลูกเขยที่รัก แบบนี้ซิถึงจะถูก”
โจวฉือเซินสะบัดมือของเขาออก แล้วก็พูดเตือนขึ้นทีละคำทีละคำ “เงินก้อนนี้คุณเก็บไว้ให้ดี ๆ ถ้ากล้าไปคิดอะไรไม่ดีกับหร่วนซิงหว่านอีกละก็ ผมจะทำให้คุณมีบุญได้รับเงิน แต่ไม่มีบุญได้ใช้แน่”
รอยยิ้มของหร่วนจุนนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แต่ก็ฟื้นกลับมาเหมือนตอนแรกอย่างรวดเร็ว “คุณวางใจได้เลย ผมรับรองว่าจะเอาเงินแล้วไสหัวไปไกล ๆ เลย และจะไม่มารบกวนพวกคุณอีก”
สายตาแม้แต่นิดเดียวโจวฉือเซินก็ไม่มองเขา แล้วก็หมุนตัวไปขึ้นรถโรลส์รอยซ์ที่จอดอยู่ข้างทางไป
หลังจากที่หลินหนานจัดการเรื่องของหร่วนจุนแล้ว พอเพิ่งขึ้นมาในรถก้นยังไม่ทันที่จะนั่งนิ่ง ที่ข้างหลังก็มีเสียงที่เย็นจนทิ่มเข้ากระดูกได้ลอยมา “เรื่องที่ฉันให้นายไปตรวจเช็กกับเฉินเซียวล่ะ?”
หลินหนานตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการเฉินบอกว่าตอนนั้นตอนที่คุณผู้หญิงไปหาเขานั้นบอกว่าที่บ้านเกิดเรื่องด่วนจำเป็นจะต้องใช้เงิน เขาเห็นว่าผลงานออกแบบของคุณผู้หญิงมีจิตวิญญาณมาก แล้วก็ไม่อยากจะให้ความสามารถของเธอต้องสูญเปล่าไป ก็เลยยื่นเรื่องเสนอไปให้คุณ แต่กลับโดนคุณตีกลับมา และคุณยังวิจารณ์ความคิดเห็นของคุณผู้หญิงอย่างรุนแรง แล้วพูดว่า ‘โอกาสในครั้งนี้เก็บไว้ให้กับคนที่มีความฝันอยากจะเป็นนักแบบจริง ๆ ไม่ใช่ให้กับคนที่เอาการแข่งขันครั้งนี้มาเป็นโอกาสทางธุรกิจ และคิดอยากจะหาผลประโยชน์จากระหว่างนี้’”
“……”
หลินหนานไม่ได้คิดถึงเลยว่าคำพูดของเขาจะมีความเชือดเฉือนคนมากแค่ไหน เพียงแต่กลัวโจวฉือเซินจะคิดว่าเขาไม่มีความพยายามในการทำงานและบกพร่องต่องานที่เขาสั่งมา ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ช่วยเล็ก ๆ ที่มีความรับผิดชอบ ไม่กลัวความยากลำบากและขยันขันแข็งชัด ๆ ทำไมถึงได้โดนสงสัยแบบนี้นะ
หลินหนานพูดต่อขึ้นอีก “ผู้จัดการเฉินบอกว่าพอคุณผู้หญิงฟังจบแล้วก็เสียใจมาก ดูเศร้ามาก แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรมากแล้วก็จากไป พอผ่านไปไม่นานคุณผู้หญิงก็โดนขายไปที่มู่สื้อ พอผู้จัดการเฉินได้ข่าวมาแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับที่คุณผู้หญิงเคยพูดไว้ว่าที่บ้านมีปัญหา พอเขาไปตรวจสอบที่มู่สื้อแล้วก็พบว่าคุณผู้หญิงโดนเจ้าหนี้นอกระบบดอกเบี้ยสูงของพ่อของเธอบีบบังคับขายเข้าไปในนั้น แต่ว่า……”
หลินหนานหยุดไปครู่หนึ่งถึงพูดต่อว่า “ผมไม่เช็กที่มู่สื้อมาเล็กน้อย มีคนบอกว่า ตอนที่คุณผู้หญิงโดนขายเข้าไปนั้น เขาเคยเห็นหร่วนจุนปรากฏตัวที่นั่นด้วย เพราะฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะร่วมมือกับเจ้าหนี้นอกระบบ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...