พอได้ยินอย่างนั้น พ่อของเฉิงเว่ยก็เก็บความคิด แล้วพยักหน้าให้หร่วนซิงหว่านเบาๆ "นั่งเร็ว"
แม่ของเฉิงเว่ยพูดขึ้นว่า "ซิงหว่าน หนูนั่งรอแป๊บหนึ่งนะ อีกเดี๋ยวกับข้าวก็จะเสร็จแล้ว"
หร่วนซิงหว่านพูด "คุณป้า เดี๋ยวฉันช่วยค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจกับฉันหรอก มีอย่างที่ไหนปล่อยให้หนูที่มาบ้านเราครั้งแรกไปช่วยกัน นั่งๆๆ " พูดจบ เธอก็หันไปเรียกเฉิงเว่ยว่า "เสี่ยวเว่ย แกมาอยู่เป็นเพื่อนซิงหว่านหน่อย บนโต๊ะชามีขนมกับผลไม้อยู่ แกดูซิว่าเธอชอบอะไรก็เอาให้เธอกินซะ"
เฉิงเว่ยเดินมาพร้อมกับรอยยิ้ม "ครับ รู้แล้ว"
แม่ของเฉิงเว่ยแนะนำพ่อของเฉิงเว่ยไปอีกนิดหน่อยก่อนจะกลับไปทำอาหารในครัวต่อ
พ่อของเฉิงเว่ยหยิบรีโมทขึ้นมาปิดทีวี จากนั้นก็มองไปที่หร่วนซิงหว่าน ขยัแว่นที่อยู่ตรงดั้ง "คุณหร่วน ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วเหรอ?" " หลังปีใหม่ก็ยี่สิบหกแล้วค่ะ"
"งั้นเธอก็อายุเท่ากับเสี่ยวเว่ยเลย เขาโตกว่าเธอสองเดือน" เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็พูดต่อ "การที่คุณหร่วนมาฉลองปีใหม่ที่บ้านของเราแบบนี้ พ่อแม่ของเธอว่าอะไรบ้างมั้ย?"
เฉิงเว่ยขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นว่า "พ่อครับ"
หลังจากที่ถูกเขาเตือนสติมาแบบนี้ พ่อของเฉิงเว่ยก็นึกถึงสิ่งที่แม่ของเฉิงเว่ยได้พูดเอาไว้ จึงไม่ได้ถามอะไรต่อ
ส่วนหร่วนซิงหว่านนั้นยังคงรักษารอยยิ้มที่เหมาะสมเอาไว้ และได้ตอบกลับไปเบาๆ ว่า "แม่ของฉันเสียไปตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเด็กมาก ส่วนพ่อก็เพิ่งเสียไปเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ"
พ่อของเฉิงเว่ยยกชาขึ้นมาจิบเบาๆ "ฉันถามมากไปเอง"
"คุณลุงอย่าพูดอย่างนั้นเลย"
การที่เธอเข้ามาที่บ้านในฐานะแฟนของเฉิงเว่ย แล้วพ่อของเขาจะถามถึงเรื่องในครอบครัวของเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
พ่อเฉิงเว่ยพูดต่อ "จริงสิ ฉันเคยได้ยินเสี่ยวเว่ยบอกว่าเมื่อก่อนพวกเธอเคยเรียนมาด้วยกัน หลังจากที่เขาไปต่างประเทศก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย หลายเดือนก่อนในงานเลี้ยงรุ่นถึงได้มาเจอกันอีกครั้ง เรื่องมันเป็นแบบนี้ใช่มั้ย?"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเบาๆ "ใช่ค่ะ"
"งั้นนี้ก็ถือเป็นพรหมลิขิตที่หาได้ยาก"
ทันใดนั้น แม่ของเฉิงเว่ยก็ยกอาหารออกมาจากห้องครัว "คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ กินข้าวกันก่อน กินเสร็จค่อยคุยกันต่อ"
พ่อของเฉิงเว่ยลุกขึ้น "ไป ไปกินข้าวกัน"
หร่วนซิงหว่านเดินไปที่ห้องครัว ตอนที่เธอกำลังจะช่วยหยิบถ้วยกับตะเกียบ แม่ของเฉิงเว่ยก็ได้พูดขึ้นว่า "ซิงหว่าน หนูไปนั่งไป ให้เสี่ยวเว่ยกับพ่อมาช่วยก็พอแล้ว"
เสียงของเฉิงเว่ยดังขึ้นมาข้างๆ "ไม่เป็นไร พวกเขาช่วยเหลือกันอย่างนี้มาโดยตลอด"
หร่วนซิงหว่านชักสายตากลับ มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา
เฉิงเว่ยโตมาในครอบครัวที่ช่วยเหลือกันแบบนี้ จะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
ไม่นาน มื้ออาหารสำหรับส่งท้ายปีเก่าก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
แม่ของเฉิงเว่ยไปเปิดทีวี เปิดรายการฉลองปีใหม่ แล้วพูดกับหร่วนซิงหว่านว่า "ซิงหว่านรีบกินเร็ว ลองดูว่าอาหารถูกปากมั้ย"
หร่วนซิงหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม "กับข้าวที่คุณป้าทำอร่อยมากเลยค่ะ"
พอได้ยินแบบนั้น แม่ของเฉิงเว่ยก็โล่งอกไปที "ชอบก็ดีแล้ว ฉันยังกลัวหนูจะไม่ถูกปาก เมื่อก่อนฉันกับพ่อของเสี่ยวเว่ยงานค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แม้แต่การทำกับข้าวก็เพิ่งมาหัดตอนปีสองปีนี้เอง"
เฉิงเว่ยที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดขึ้นมาว่า "ซิงหว่านทำอาหารอร่อยมากเลยครับ"
พอแม่ของเฉิงเว่ยได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกตกใจมาก "จริงเหรอ? งั้นฉันคงต้องเรียนรู้จากหนูแล้ว"
หร่วนซิงหว่านถูกเธอชมจนรู้สึกเขิน "คุณป้าชมเกินไปแล้วค่ะ ฉันก็ทำเป็นแค่นิดหน่อยเอง"
"ซิงหว่าน หนูไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอก เสี่ยวเว่ยน่ะกินยากจะตาย ถ้าเขาบอกว่าอร่อย งั้นก็ต้องเป็นระดับห้าดาวแล้ว" พูดจบ เธอก็พูดต่อทันที "แล้วหนูเริ่มหัดทำอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...