สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 359

หร่วนซิงหว่านหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาโดยแทบไม่ต้องคิด ก่อนจะให้เขาดูรูปถ่าย

เสิ่นจื่อซีมองไปยังรูปภาพ ก่อนจะถามอย่างสงสัย "นี่คือแฟนของคุณ?"

หร่วนซิงหว่านตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ "ใช่ค่ะ"

นี่คือดาราชายที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนี้ มีแฟนคลับที่อยากเป็นแฟนหรือแฟนคลับที่อยากเป็นเมียเยอะจนนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าหร่วนซิงหว่านเก็บรูปของเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอเอาออกมาได้ทันเวลาพอดี

เสิ่นจื่อซีหัวเราะร่า "น้องสาว อยากจะเล่นละครตบตาฉันก็อย่าใช้วิธีนี้เลย คนในรูปนี้ เป็นนักแสดงในสังกัดของผมเอง รสนิยมของเขาก็......เพศเดียวกันนะ" หร่วนซิงหว่าน "......"

อะไรวะเนี่ย?

เธอหยิบมือถือออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน "อ๋อ ผิดแล้วค่ะ ไม่ใช่รูปนี้"

หร่วนซิงหว่านปัดรูปต่อไป เตรียมหารูปของหร่วนเฉิน

แต่ปัดหาอยู่นานมาก เธอก็ยังหาไม่เจอสักที

นี่เธอไม่ได้บันทึกไว้เหรอ?

น้องชายเธอหล่อเหลาเสียขนาดนั้น ทำไมถึงไม่บันทึกรูปเอาไว้ละ?

ในขณะนี้ ในมือของหร่วนซิงหว่านว่างเปล่า โทรศัพท์มือถือถูกคนแย่งชิงไป รูปร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ข้างเธอ และมีเสียงเย็นชาทว่าช่างน่าคุ้นเคยของชายหนุ่มก็พลันดังขึ้น "แฟนของเธอคือฉัน มีความเห็นอะไรไหม?"

เมื่อได้ยินเสียงของเขา หร่วนซิงหว่านก็นิ่งงันไป ไอ้ผู้ชายนี่กลับมาตอนไหน

เสิ่นจื่อซีนิ่งค้างเป็นเวลาสองวินาที ก่อนจะรีบเผยรอยยิ้มออกมา สุดยอดเลย เขาไม่คิดเลยว่าระดับอ่อยสาวของโจวฉือเซินจะสูงขนาดนี้

เมื่อเห็นเส้นทางไม่ราบเรียบ จึงต้องชักดาบช่วยเหลือ เป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม

ดูท่าเขาจะไม่มีโอกาส ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหม ถ้าจะช่วยเหลือเขาไปเสียเลย

เมื่อตอนจะจากไป เสิ่นจื่อซีก็ยังพูดคล้อยตามด้วยความร่วมมือ "เป็นผมเองที่ไม่คู่ควร"

ก่อนจะจากไปอย่างมีความสุข

ทว่าคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา กลับเข้าสู่ความเงียบสงัด ก่อนจะพูดออกมาพร้อมกัน

"อีกสองวันคุณถึงจะกลับมาไม่ใช่เหรอ?"

"นี่คุณเห็นแฟนคนนี้เป็นแค่เครื่องประดับเหรอ?"

ดูสิ ก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้ผู้ชายเลวนี่ต้องโยนความผิดแน่นอน

หร่วนซิงหว่านพูดกระซิบด้วยเสียงอันเบา "ฉันไม่มีรูปคุณนี่"

โจวฉือเซินโกรธจนปวดตับ "นี่คือเหตุผลของคุณ?"

เขายืนรออยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน และต้องการรอให้หร่วนซิงหว่านพูดชื่อของเขาออกมาต่อหน้าของเสิ่นจื่อซี แต่เธอก็นะ นึกไม่ถึงว่าจะเอารูปของชายเหนือชาย มาอ้างว่าเป็นแฟน เขาไม่น่าเอาไปอวดคนอื่นเหรอ?

หร่วนซิงหว่านรำคาญน้ำเสียงซักถามของเขามาก ก่อนจะพูดอย่างถือดีว่า "ฉันไม่มีเหตุผล ฉันอยากจะพูดแบบนี้!"

พูดจบ เธอก็หมุนกายเดินจากไป

โจวฉือเซินมองตามแผ่นหลังของเธอ ขมับของเขาเต้นตุบๆ เขาควรโกรธมากกว่าไหม

เมื่อมาถึงโซฟา หร่วนซิงหว่านก็หยิบแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมา ก่อนจะกระดกดื่มมัน

กระทั่งเพ้ยซานซานก็ยังห้ามไม่ทัน

เมื่อเธอกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยมานั่งข้างเสิ่นจื่อซี

เพ้ยซานซาน "?"

นี่มันความสัมพันธ์ที่วิเศษอะไรกันนี่?

ไอ้ผู้ชายเลวนี่มันมาตอนไหน

อีกด้าน เสิ่นจื่อซีก็รู้สึกอึดอัดใจมาก เมื่อกี้เขาแสร้งว่าไม่รู้จักกับพวกเขาไปแล้ว และให้โอกาสกับโจวฉือเซิน แต่หน้าอย่างนี้ ก็คือถูกปฏิเสธ?

เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ก่อนจะเทเหล้าให้โจวฉือเซิน ก่อนจะใช้เสียงที่ได้ยินพอสำหรับสองคนว่า "ดอกไม้ข้างนอกมันป่าเถื่อนเกินไป กลับบ้านไปอยู่กับเมียนายเถอะ"

โจวฉือเซินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หุบปาก"

เสิ่นจื่อซีเลิกคิ้ว ช่างเถอะ ทำคุณบูชาโทษชัดๆ เลย

อีกด้านหยาวเยาก็ยิ่งไม่เข้าใจ เธอหันไปหาเพ้ยซานซานอย่างบ้าคลั่ง "หล่อมาก หล่อที่สุด! แล้วก็แค่มองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ผู้ชายเลว เป็นไงบ้าง?"

เพ้ยซานซาน "......กลัวฉันจะอายุสั้น"

เพื่อหลีกเลี่ยงหยาวเยาสร้างความเข้าใจผิดที่น่าอับอาย เพ้ยซานซานก็รีบกระซิบบอกเธอทันที

หยาวเยาเงียบเหมือนไก่ทันที แม้สักคำก็ไม่พูด

บนโต๊ะ ไม่มีบรรยากาศครึกครื้นของหยาวเยาบวกกับมีบุคคลที่สามารถสร้างอากาศเย็นได้360 องศาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รอบด้านเข้าสู่จุดเยือกแข็ง

เสิ่นจื่อซีเห็นว่าโอกาสมาแล้ว จึงรีบกระแอมพูดแนะนำว่า "มันน่าเบื่อที่จะเล่นเกมตลอดเวลา ทำไมเราไม่เปลี่ยนวิธีกันละครับ"

มีคนพูดคล้อยตาม "เปลี่ยนวิธีอะไร?"

"เกมพูดความจริงหรือรับคำท้า แต่ว่ากฎต้องเปลี่ยนนะ จานหมุน หมุนถึงใคร ต้องทำเลย ไม่ต้องกินเหล้า ก็เล่นเลย เอาไหมละ?"

ความหมายของเขาก็คือ เล่นเกมพูดความจริงหรือรับคำท้า ถึงแม้จะถูกถามถึงคำถามที่ตัวเองไม่อยากจะตอบ หรือไม่กล้าทำตามคำท้า ก็ต้องทำให้สำเร็จ

ถึงแม้จะมีคำขออะไรที่มันมากเกินไป

เชอะ

จุดประสงค์ช่างชัดเจนเกินไป

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ ก็ยังมีคนไม่น้อยเลยที่เห็นด้วย

ถึงแม้ว่ามันจะสนุกมากก็ตาม แต่มันก็ตื่นเต้นเกินไปหน่อย

เสิ่นจื่อซีหันมองไปทางหร่วนซิงหว่านและเพ้ยซานซาน "สาวสวยสองท่านนี่ละครับ?"

เมื่อเพ้ยซานซานคิดอยากจะช่วยหร่วนซิงหว่านปฏิเสธ ก็กลับได้ยินเธอพูดว่า "ฉันเล่นค่ะ"

เสิ่นจื่อซีดีดนิ้ว ก่อนจะเรียกให้พนักงานเอาจานหมุนมา

เกมเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

สิ่งที่หร่วนซิงหว่านไม่เคยคาดคิดเลยก็คือ เธอจะเป็นคนแรก

เสิ่นจื่อซีถาม "พูดความจริงหรือรับคำท้า?"

"พูดความจริงค่ะ"

ที่เสิ่นจื่อซีรอก็คือคำนี้ เขารีบถามทันที "คุณมีแฟนจริงหรือเปล่า?"

หร่วนซิงหว่านหันไปมองไอ้ผู้ชายนิสัยแย่ ก่อนจะตอบอย่างจงใจ "ไม่มีค่ะ"

เสิ่นจื่อซีแสดงให้เห็นถึงท่าทางประมาณว่า ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณแค่แสร้งเล่นละครตบตา ใส่เธอ ก่อนจะใช้ข้อศอกแตะไปยังโจวฉือเซิน ด้วยท่าทางพึงพอใจ

แต่อีกด้าน โจวฉือเซินถือแก้วเหล้าในมือพลางยิ้มเย็น

เพ้ยซานซานกัยหยาวเยาอดไม่ได้ที่จะขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกันและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

หลังจากเล่นไปสองสามรอบ จานหมุนก็หันไปหาหร่วนซิงหว่านอีกครั้งเสิ่นจื่อซีก็ถามอีกว่า "ครั้งที่แล้วเลือกพูดความจริง หรือครั้งนี้จะเลือกรับคำท้าครับ?"

หร่วนซิงหว่านพูดอย่างสงบ "คุณพูดมาเลยตรงๆดีกว่าค่ะ ว่าอยากให้ฉันทำอะไร"

"ถ้าอย่างนั้นก็เลือกความตื่นเต้นหน่อยเถอะครับ เลือกสุภาพบุรุษในที่นี้มาหนึ่งคน แล้วจูบบนหน้าเขาสักหน่อย"

หยาวเยาไอ "ไม่อย่างนั้น......ช่างมันเถอะค่ะ ฉันรู้สึกว่า......"

หร่วนซิงหว่านพูด "ได้ค่ะ"

เกิดความเงียบขึ้นอีก

เพ้ยซานซานได้ยินเสียงแก้วแตกดังขึ้นมาอย่างเบาบาง

ตอนนี้เธอเสียใจมาก เสียใจอย่างมาก

ถ้ารู้ว่าไอ้ผู้ชายแย่นี่จะกลับมาก่อนหน้า เธอก็คงไม่พาหร่วนซิงหว่านมาเที่ยวเล่นด้วยในรอบนี้

มุมปากของเสิ่นจื่อซีโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม รอดูฉากต่อไป

ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้คน หร่วนซิงหว่านค่อยๆลุกขึ้น

ในตอนที่ทุกคนกำลังพากันเดาว่าเธอจะเลือกใคร เธอกลับไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเสิ่นจื่อซี

เพ้ยซานซานหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง ฟ้าอยากให้เธอตายมากสินะ!

แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเสิ่นจื่อซียังไม่ทันจะได้ยกยิ้ม ก็เห็นหร่วนซิงหว่านพิงกาย เอียงศีรษะ จูบอย่างแม่นยำไม่มีผิดพลาดลงบนปากบางของผู้ชายด้านข้าง

หร่วนซิงหว่าน "......"

ไอ้ผู้ชายชั่วนี่ทำผิดกติกา!!!

ไม่ใช่บอกกันดีแล้วเหรอว่าให้จูบลงบนใบหน้า

โจวฉือเซินยังคงโกรธ แต่ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เมื่อถูกเธอจูบอย่างนี้

เขาเพิ่งสังเกตว่าเธอยืนอยู่ที่นี่ และหันศีรษะมาโดยไม่ทันตั้งตัว

เสิ่นจื่อซี "......"

โอเคโจวฉือเซิน เขาคิดว่าโจวฉือเซินเพียงแค่พูดเล่น ไม่คิดเลยว่าเขาจะแอบนอกใจภรรยาจริงๆ

นอกใจไม่ว่า แต่นี่มันนอกใจอย่างกล้าหาญและมั่นใจมากด้วย!

นี่มันเกินไปแล้ว!