สามวันต่อมาเพ้ยซานซานได้เดินขึ้นสู่เส้นทางการไปลอนดอนอย่างเป็นทางการ
หลังจากลงเครื่องแล้ว ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า เธอจึงจัดการจองโรงแรมแล้วเข้าพัก
เพื่อที่จะเตรียมไปcomplex เพื่อเจอพ่อของหร่วนซิงหว่านในเช้าวันพรุ่งนี้
เมื่อเย็นตัวลงไปยังอ่างน้ำอันแสนหรูหราของโรงแรม เพ้ยซานซานก็ส่งข้อความเสียงหาหร่วนซิงหว่านพร้อมพูดว่า: " ซิงซิง ตอนนี้ฉันถึงโรงแรมแล้วนะ เธอบอกพ่อเธอหรือยัง? "
ผ่านไปไม่นาน หร่วนซิงหว่านก็โทรกลับมา
ก่อนที่เพ้ยซานซานจะออกเดินทาง พวกเธอก็คิดหนัก รู้สึกว่าเหตุผลของสินค้าพิเศษอะไรที่พบมานี่มันดูเหตุผลไม่ค่อยพอเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลนี้ หร่วนซิงหว่านก็เลยตัดสินใจให้เพ้ยซานซานพก'ดาวเต็มฟ้า'ที่เป็นชุดเครื่องประดับมาด้วย แล้วมอบมันให้William เพื่อที่จะแจกเป็นของกำนัลให้กับพนักงาน
แบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขยายชื่อเสียงของตัวสินค้าในต่างประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสเหมาะที่จะหาข้ออ้างในการทำเรื่องนี้ได้
Williamก็คงจะไม่สงสัยอะไร
หร่วนซิงหว่านถาม: " เทศกาลรูปภาพเป็นวันมะรืนใช่ไหม?"
เพ้ยซานซานตอบ: " ใช่ พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไปเจอพ่อเธอ เพื่อที่จะพยายามเอาDNA จากนั้นวันมะรืนฉันก็จะไปร่วมงานนิทรรศการรูปถ่าย ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ก็คงจะนั่งไฟลท์มะรืนกลับไปได้ "
" ไม่เป็นไร ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รีบที่จะรู้ผลอะไรขนาดนั้น เธอก็เที่ยวให้สนุกสักวันสองวันแล้วค่อยกลับมาก็ได้ "
" แต่ฉันอยากรู้ผลนี่นา " เพ้ยซานซานพูด จากนั้นก็ชะงักไป เรากลับรู้สึกได้ถึงคำตอบที่ชัดเจนแล้ว ตัวยิ่งรีบก็ยิ่งแสดงถึงผลการชี้ขาดระหว่างพ่อลูกยิ่งทำให้คนไม่สบายใจนัก ควรจะทำใจให้สงบถึงจะถูก
เธอจึงแบมือสัมผัสกลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำ: " ไม่มีปัญหา งั้นฉันใช้โอกาสนี้เที่ยวสักวันสองวันแล้วกันนะ "
หร่วนซิงหว่านพูด: " ได้สิ งั้นเธอก็รีบพักผ่อนล่ะ นั่งเครื่องบินตั้งสิบกว่าชั่วโมงคงเหนื่อยน่าดูเลย "
" เนาะ บ๊ายบายนะ "
หลังจากวางสายไปแล้ว เพ้ยซานซานก็แช่น้ำอยู่ครึ่งชั่วโมง ถึงจะลุกออกจากอาบน้ำ
ไม่รู้เป็นเพราะวิ่งเต้นทั้งวันเลยทำให้เหนื่อย หรือเป็นเพราะประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยที่แช่เมื่อกี้ เลยไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาเจ็ตแล็ก
เพ้ยซานซานทิ้งตัวลงบนเตียงไม่นานก็หลับไป
เป็นค่ำคืนที่หลับอย่างสบายเสียจริง
เช้าวันถัดมาตอนสิบโมง เพ้ยซานซานถือสัมภาระ เตรียมที่จะลงไปcomplex ชั้นล่าง
ที่เคาน์เตอร์ในตึกใหญ่ไม่หญิงชาวอังกฤษคนหนึ่ง ใช้สำเนียงบริติชถามเธอว่ามาทำอะไร
เพ้ยซานซานใช้ภาษาอังกฤษตอบกลับว่า: " ฉันมาพบคุณWilliamค่ะ ฉันเป็นเพื่อนของลูกสาวเค้า แล้วเอาของไม่เขานิดหน่อย "
ข่าวคราวนี้ ก็ถูกส่งต่อมายังห้องของผู้ช่วย
หญิงสาวชาวอังกฤษจึงพาเธอขึ้นลิฟต์มา เมื่อกดไปยังชั้นที่ต้องการแล้ว ก็พูดภาษาอังกฤษกับเธอว่า: " คุณผู้หญิงคะ เมื่อออกจากลิฟต์ไปแล้วจะมีคนรอรับคนอยู่ค่ะ "
เพ้ยซานซานพยักหน้า พร้อมพูดขอบคุณกับเธอ
ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออก เพ้ยซานซานก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เข้าบริษัทใหญ่โตขนาดนี้นะ ตั้งแต่ห้องโถงมายันลิฟต์ ทุกที่ดูสะอาดและสว่างไสวไปหมด ไม่มีแม้แต่ฝุ่น และยังดูเป็นภาพรักอันดับต้นของบริษัทต่างชาติอีกต่างหาก
ก็พอจะดูออกว่าบรรยากาศการทำงานคงจะเป็นระเบียบและทางการน่าดู
ถ้าจะบอกว่าไม่ตื่นเต้นก็คงโกหกไปหน่อย
ตอนที่เพ้ยซานซานยังเรียนหนังสืออยู่ ภาษาอังกฤษก็สอบผ่านระดับหกแล้ว แต่หลายปีมานี้หาโอกาสใช้ไม่ค่อยได้ อย่างมากสุดก็แค่ใช้สื่อสารง่ายๆเท่านั้น ถ้าคำศัพท์ลงลึก ก็มีบ้างที่ทำให้เธอไม่เข้าใจ
ในขณะที่เธอกำลังคบคิดอยู่นั้น ว่าเธอจะทักทายผู้ช่วยอย่างไร ประตูลิฟต์ก็ค่อยๆเปิดออก
เมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก เพ้ยซานซานก็ยกมือขึ้นทักทาย และพูดอย่างระมัดระวังว่า: " Hell.... "
ชายคนนั้นก็หันมา
เพ้ยซานซาน: " ..... "
เธอคิดไว้แล้วว่าจะต้องเจอเขา แต่ไม่นึกว่ามันจะเร็วขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...