เสียงดังปัง ฮั่วเสวียนหลังกระแทกกับกำแพงแล้วก็ทรุดลงไปกับพรมบนพื้น ลำคอมีกลิ่นคาวเลือด แล้วกระอักออกมาเป็นเลือดทันที
การสะบัดเมื่อสักครู่ของกู้เย่จิ่นเกือบจะฆ่าชีวิตเธอแล้ว
“พี่…เย่จิ่น ฉันเอง…” ฮั่วเสวียนเงยหน้าขึ้นมองกู้เย่จิ่น
ร่างสูงโปร่งดุจหยกของกู้เย่จิ่นยืนอยู่ที่หน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน เขามองลงมาที่ตัวฮั่วเสวียนที่หมอบอยู่บนพื้นอย่างกระเซอะกระเซิงและเจ็บปวด เขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่ามือของเย่หลิงนั้นเป็นอย่างไร เย่หลิงอ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูก เรือนร่างมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ฮั่วเสวียนจะเทียบได้
วินาทีที่เขาโอบกอดก็ควรรู้สึกได้แล้ว แต่ว่าเขาถูกความปรารถนาครอบงำ ให้คีย์การ์ดนั้นกับเธอ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนอื่น
แค่คิดว่าสองสามวินาทีที่เขากอดคนอื่นเมื่อสักครู่นี้ เขาก็อดไม่ได้ที่แทบอยากจะไปชำระล้างตัวหลาย ๆ ครั้ง ล้างตัวเองให้สะอาดสะอ้าน
คู่ดวงตาเย็นเยียบดำขลับของกู้เย่จิ่นนั้นราวกับพิษร้ายก็ไม่ปาน จ้องไปทางฮั่วเสวียน สักพักลูกกระเดือกของเขาก็กลิ้งออกมาเป็นพยางค์อย่างดุดัน “ทำไมเป็นคุณได้ รีบพูดมา หากว่าคุณไม่อยากตาย!”
ฮั่วเสวียนคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ เมื่อสักครู่เธอยังมีความมั่นใจ แต่ใครจะไปรู้เมื่อเขาเห็นตัวเองไม่ใช่เย่หลิง ก็แทบอยากจะทำตัวเองให้ตาย
ฮั่วเสวียนกลัวมาก ความคิดที่งดงามเมื่อสักครู่ก็จางหายไปในความเจ็บปวด เธอรู้สึกว่ากู้เย่จิ่นไม่ได้ล้อเธอเล่น จึงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “พี่เย่จิ่น ฉัน…เย่หลิงเป็นคนให้ฉันเข้ามาค่ะ คีย์การ์ดก็…เย่หลิงเป็นคนให้ฉันค่ะ…” เย่หลิงเป็นคนให้คีย์การ์ดห้อง
กู้เย่จิ่นคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้มีคำยืนยันจากปากของฮั่วเสวียน เขายกริมฝีปากบางขึ้น อกสามศอกที่กำยำกระเพื่อมขึ้นลง เขายกเท้าขึ้นเตะเก้าอี้หนึ่งตัว
เธอกล้ามาก!
ดี เธอดีมาก!
ฮั่วเสวียนตกใจจนตัวสั่น “พี่เย่จิ่น ที่ฉันพูด…ล้วนเป็นเรื่องจริง เย่หลิงยังบอกอีกว่า…บอกว่าพี่ชอบผู้หญิงร่าน ให้ฉันปรนนิบัติพี่ดี ๆ เธอยังบอกอีกว่า…บอกว่าพี่คือ…ขยะ…ที่เธอไม่ต้องการแล้ว…”
หลายปีมานี้กู้เย่จิ่นรู้สึกว่าสิ่งที่เขาภูมิใจที่สุดคือการสามารถควบคุมตัวเอง เพราะอย่างไรการเติบโตในครอบครัวความคิดดั้งเดิมแบบนั้น ถ้าเขาไม่มีการควบคุมตัวเอง เขาคงบ้าไปตั้งนานแล้ว แต่ว่าเย่หลิงมักจะเป็นข้อยกเว้นในชีวิตของเขา ความภาคภูมิใจในการควบคุมตัวเองของเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอแพ้อย่างไม่มีชิ้นดี
กู้เย่จิ่นยกมือปัดขวดไวน์ที่อยู่บนเคาน์เตอร์ตกลงบนพื้นทั้งหมด เขาทุบทุกอย่างที่อยู่ในห้องแตกยับกระจายทั่ว
ความเคลื่อนไหวที่เสียงดังเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องดึงดูดความสนใจจากคนภายนอก โห้วซีจื๋อถีบประตูเข้ามา “พี่เย่จิ่น เกิดอะไรขึ้น พี่ทำอะไร…เชี่ย ฮั่วเสวียนเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
เป็นครั้งแรกที่ฮั่วเสวียนเห็นกู้เย่จิ่นบ้าคลั่งขนาดนี้ ตอนนี้เห็นโห้วซีจื๋อเธอราวกับเห็นความหวังสุดท้าย “พี่ พี่รีบมาช่วยฉันที!”
โห้วซีจื๋อไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจะต้องเป็นน้องสาวตัวเองที่ประเคนตัวเองจึงทำให้กู้เย่จิ่นโกรธ เพราะอย่างไรก็เป็นน้องสาวของตัวเอง ไม่ช่วยก็คงไม่ได้ “พี่เย่จิ่น ครั้งนี้จะต้องเป็นความผิดของน้องสาวผม แต่ว่าขอร้องสักครั้งพี่ปล่อยเธอไปได้ไหม ผมรับรองว่าต่อไปเธอจะไม่กล้ามารบกวนพี่ให้หงุดหงิดรำคาญอีก”
ในห้องที่รกพะรุงพะรัง ใบหน้ารูปงามของกู้เย่จิ่นในแสงแห่งความมืดมีหยดน้ำซึมออกมา เขาหรี่ตาลงแล้วสบทหนึ่งคำออกมา “ไป!”
“ฮั่วเสวียน รีบไป!” โห้วซีจื๋อพาฮั่วเสวียนออกไปอย่างรวดเร็ว
กู้เย่จิ่นเข้าไปในห้องอาบน้ำ เริ่มทำการชำระล้างตัว เวลานี้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มีสายเรียกเข้า
ขายื่นมือใหญ่ที่เปื้อนละอองน้ำออกมาเพื่อรับโทรศัพท์ เสียงปลายสายดังขึ้นด้วยเสียงนอบน้อมของเลขาส่วนตัว “คุณชายครับ เย่หลิงจาก 1949 ไปแล้วครับ”
กู้เย่จิ่นเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่แยแสว่า “ให้คนหยุดกิจกรรมทุกอย่างของเย่หลิง ห้ามเธอรับงานทุกประเภท…บอกกับเธอว่า คิดได้เมื่อไรก็ให้มาหาฉัน”
…
เซี่ยซีหวั่นเดินอยู่ที่ระเบียงทางเดินกลับ ขอเพียงนึกถึงท่าทางลู่หานถิงบนโต๊ะไพ่เมื่อสักครู่ ที่ให้เธอทั้งเรียกพ่อ ทั้งเรียกสามี ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอก็เหมือนกับกุ้งที่ถูกต้มจนสุก น่าอายมาก
เวลานี้เธอได้หยุดชะงักการเดิน เพราะด้านหน้ามีร่างตรงสูงโปร่งได้เดินเข้ามา ลู่หานถิงมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีพันล้าน รักฉันให้มีสติหน่อย
นิยายที่เคยอ่านแล้วชอบหายไปหลายเรื่องเลยค่ะชอบอ่านซ้ำบางเรื่องอ่านจบแล้วก็มาเริ่มใหม่แต่ก็ไม่ต่อเนื่องค่ะ...