สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 37

ฟางเหนียงลืมตาขึ้นมาช้าๆแล้วกะพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตากับแสงที่กำลังสาดส่องมาที่ดวงตาของนาง "ฟางเหนียง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" เจิ้งเจี๋ยที่นั่งรอดูอาการของนางอยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นว่านางฟื้นแล้วเขาก็รีบถลาตัวเข้าไปหานางทันที 

ฟางเหนียงมองหน้าเจิ้งเจี๋ยและรอบๆด้วยความมึนงง "ข้ามาอยู่ที่นี้ได้เยี่ยงไรกัน" นางจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่นางอยู่มันไม่ใช่ที่บ้าน แล้วทำไม? นางมองหน้าเจิ้งเจี๋ยอีกครั้งแต่สายตาของนางครั้งนี้กลับนิ่งอึ้ง เพราะสมองของนางกำลังฉายท่าทางขณะที่เขากำลังเดินเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ และนางก็มีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกไม่หยุด แล้วภาพทุกอย่างก็ดับวูบไป จะไม่ให้นางเป็นลมได้อย่างไร ก็ในเมื่อหุ่นของเขาเซ็กซี่มากเช่นนั้น อย่างกับนักร้องศิลปินเกาหลีคนหนึ่งที่นางชื่นชอบ

เจิ้งเจี๋ยที่เห็นสายตาของนางเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจ แต่แล้วเขาก็เข้าใจแล้วก็ยิ้มออกมา แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ข้าว่าเจ้าควรจะพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ เดี๋ยวข้าจะออกไปทำกับข้าวให้เจ้าทาน ทานเสร็จแล้วเจ้าจะได้มีแรง" เขาพูดเป็นเลศนัย แล้วขยิบตาให้นาง ฟางเหนียงที่ได้ยินเช่นนั้น นางก็มองหน้าเขาแวบหนึ่งแล้วรีบหันหลังนอนตะแคงคลุมโปงทันที เพราะตอนนี้ใบหน้าของนางนั้นแดงก่ำเหมือนกับลูกของมะเขือเทศที่สุกแล้วก็ไม่ปาน หลังจากที่เจิ้งเจี๋ยออกไปนางก็กลับมาย้อนคิดกับเรื่องที่เมื่อวานที่นางกระทำลงไป โอ๊ย!!! คิดแล้วก็ปวดหัวน่าอายยิ่งนัก ครั้งนี้เจิ้งเจี๋ยจะรังเกียจนางไหมนะ นางนี่ก็จริงๆเลย แค่หุ่นที่แซ่บของเขาแค่นั้น เลือดกำเดาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ฟางเหนียงกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอนด้วยความไม่สบายใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายที่นางกำลังกังวลเรื่องของเขาอยู่นั้น ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เจิ้งเจี๋ยที่เดินมาถึงในครัวก็คิดถึงท่าทางของฟางเหนียงทั้งเมื่อวานและสายตาเมื่อครู่นี้เช่นกัน เขาชอบท่าทางของนางเช่นนี้เป็นอย่างมาก มันทำให้เขารู้สึกว่านางนั้นหลงใหลในร่างกายของเขาและอยากสัมผัสเขา แต่ในใจลึกๆของเขาก็รู้สึกกลัวเช่นกัน กลัวว่านางจะมองชายอื่นเหมือนที่มองเขาเช่นนี้ เขาจึงแอบสัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้เขาต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ นางจะได้ไม่หลงใหลชายใดนอกจากเขาแค่คนเดียวเท่านั้น

วันต่อมาฟางเหนียงได้ไปหาท่านลุง เพื่อวานให้ท่านลุงไปว่าจ้างคนที่ไว้ใจได้ มาช่วยเก็บเกี่ยวมะเขือเทศในสวนประมาณ 20 คน ที่นางทำเช่นนี้เพราะไม่อยากให้มันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหมือนเมื่อครั้งก่อนอีก ไม่นานท่านลุงก็พาชาวบ้านที่ไว้ใจได้มาหานาง แล้วนางก็เริ่มอธิบายบอกวิธีการเก็บเกี่ยวมะเขือเทศให้กับทุกคน พอทุกคนเข้าใจแล้วก็พากันลงมือเก็บเกี่ยวมะเขือเทศทันที  การเก็บเกี่ยวมะเขือเทศครั้งนี้ที่นางจ้างชาวบ้านมาเยอะถึงเพียงนี้ เพราะนางอยากใช้เวลาเก็บเกี่ยวแค่วันเดียวเท่านั้น หลังจากที่ทุกคนลงมือทำงานแล้ว นางก็ให้เจิ้งเจี๋ยไปรับรถม้าที่สั่งทำไว้ในตัวอำเภอ และให้เขาซื้อกล่องไม้มาเพิ่มด้วย

 เจิ้งเจี๋ยไปตัวอำเภอไม่นานก็กลับมาพร้อมกับรถม้าที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน เพราะรถม้าของเขาจะไม่มีหน้าต่างด้านข้างเหมือนรถม้าทั่วไป แต่จะมีประตูบานใหญ่อยู่ด้านหลังเท่านั้น หลังจากที่เจิ้งเจี๋ยได้เอารถม้าเข้ามาในบ้าน นางก็ให้เขาเอาหยกหิมะไปไว้ในรถม้าหนึ่งชิ้น หยกหิมะนี้เป็นรางวัลที่ได้จากการขายดอกไม้คนตาย ครั้งนั้นนางได้รางวัลมา 20 ชิ้นคือ ปุ๋ยผงวิเศษ 5 ห่อ ปุ๋ยเม็ด 5 ห่อ ผงไฟ 3 ห่อ และรางวัลใหม่ได้เป็น ตะกร้ามิติ 4 คูณ 4 จำนวน 1 ใบ กรงดักสัตว์ 1 ใบ เมล็ดพันธุ์ 2 ห่อ และหยกหิมะ 3 ชิ้น

การเก็บเกี่ยวครั้งนี้เป็นไปตามที่นางตั้งใจไว้ หลังจากที่ทุกคนเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว นางก็ขอให้ทุกคนเอามะเขือเทศใส่ในกล่องไม้แล้วเอาขึ้นไปไว้ในรถม้า เพราะพรุ่งนี้เจิ้งเจี๋ยจะออกไปเมืองเฟิ่งฟู่ตั้งแต่เช้ามืด ชาวบ้านที่เอากล่องไม้ไปไว้ในรถม้าก็พากันรู้สึกแปลกใจยิ่งนัก ที่ในรถม้าคันนี้มีความเย็นเป็นอย่างมาก แต่ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าเอื้อนเอ่ยถามอะไร ได้แต่ซุบซิบกันเองเท่านั้น เมื่อทุกคนทำงานเสร็จแล้ว ก็รับค่าจ้างแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันหมดแล้ว นางก็พาเจ้าสองแสบไปต้อนเป็ดเข้าเล้า เจ้าสองแสบชอบการไล่ต้อนเป็ดเป็นอย่างมาก ในบางวันนางยังไม่ได้บอกด้วยซ้ำ เจ้าสองแสบที่รู้หน้าที่ของตัวเอง พอถึงเวลาก็รีบไล่ต้อนเป็ดให้เข้าเล้าทันที ส่วนเจ้าแมวสองตัวนั้นไม่ต้องเอ่ยถึง พวกมันมีหน้าที่กินแล้วก็นอนเท่านั้นเป็นเจ้านายดีๆนี่เอง เจิ้งเจี๋ยจะเป็นคนไปตักน้ำไว้ให้วัวและม้า หลังจากที่ฟางเหนียงต้อนเป็ดเข้าเล้าหมดแล้ว เจิ้งเจี๋ยจะมีหน้าที่เอาอาหารที่ผสมไว้มาให้เป็ดไก่ หลังจากที่ทั้งสองทำหน้าที่ของวันนี้เสร็จหมดแล้ว ก็พากันเข้านอนอย่างอ่อนเพลีย

เจิ้งเจี๋ยและฟางเหนียงตื่นมาตั้งแต่เช้ามืด เจิ้งเจี๋ยจะไปเตรียมเสื้อผ้าที่จะต้องเอาไปผลัดเปลี่ยน ส่วนฟางเหนียงจะไปเตรียมข้าวสารอาหารแห้งไว้ให้เจิ้งเจี๋ยไว้ทานในระหว่างการเดินทาง ก่อนที่เจิ้งเจี๋ยจะออกไป เจ้าแมวน้อยที่เจิ้งเจี๋ยเคยช่วยไว้นั้น มันก็กระโดดขึ้นไปบนรถม้ากับเขาด้วย ส่วนอีกตัวอยู่กับนาง "เจ้าอยากไปกับข้าด้วยรึ" เจิ้งเจี๋ยเอ่ยถามเจ้าแมว เหมียว เจ้าแมวตอบเขาแล้วเดินเข้าไปอ้อนเขา "เช่นนั้น เจ้าก็ทนลำบากหน่อยแล้วกันนะ" 

ฟางเหนียงที่เห็นท่าทางของเจ้านายกับทาสแล้วก็เบะปากมองบนทันที กับผู้นี่ไม่ได้เลยจริงๆเจ้าแมวตัวนี้ "ข้าไปก่อนนะ เจ้าอยู่บ้านก็ดูแลตัวเองด้วย" เจิ้งเจี๋ยเอ่ยลา "อืม เจ้าก็เช่นกันนะ ไปดีมาดีนะรู้ไหม ข้าจะรอเจ้านะ ส่วนเจ้าก็ดูแลผู้ชายของตัวเองให้ดีล่ะ ครั้งนี้ข้ายกให้เจ้าก่อน กลับมาแล้วข้าจะเอาคืน" นางตอบเจิ้งเจี๋ยแล้วก็หันไปพูดกับเจ้าแมวน้อยต่อ แต่เจ้าแมวตัวนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดของนางเลยสักนิด แต่กลับกระโดดเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเจิ้งเจี๋ยแทน นางเห็นแล้วก็หมั่นไส้ยิ่งนัก ส่วนเจิ้งเจี๋ยที่ได้ยินนางพูดและท่าทางของเจ้าแมว เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

หลังจากที่ทั้งสองร่ำลากันแล้ว เจิ้งเจี๋ยก็เริ่มออกเดินทางทันที การเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเช่นนี้อากาศมันจะเย็นมากกว่าปกติ เขาจึงหยิบเสื้อคลุมมาใส่ แล้วให้เจ้าแมวน้อยเข้าไปอยู่ในเสื้อคลุมด้วย มันจะได้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับเขา การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเร็วกว่าทุกครั้ง เพราะม้าของเขานั้นแข็งแรงกว่าม้าปกติทั่วไป ตอนที่เขาไปฝากให้ฟาร์มดูแลให้นั้น เขาก็ได้ให้น้ำศักดิ์สิทธิ์กับพนักงานหยดใส่น้ำดื่มให้มันกินทุกวันจนทำให้มันมีร่างกายที่แข็งแรงเช่นนี้ได้

เขาใช้เวลา 5 วันก็มาถึงเมืองเฟิ่งฟู่ หลังจากที่เขาเข้าโรงน้ำชาเพื่อนั่งพัก ก็เห็นว่าลูกค้าของเขาก็มาถึงก่อนกำหนดเช่นกัน เขาจึงได้เข้าไปทักทายและทำการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า ลูกค้าบอกกับเขาว่ามะเขือเทศในตอนนี้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก และลูกค้าเขาทั้งสองเจ้าได้สั่งเพิ่มอีกหลายเท่า และยังมีเจ้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเจ้า ครั้งนี้เขาหนักใจยิ่งนัก เพราะการสั่งครั้งนี้มันมากเกินไป สวนที่บ้านของเขาคงปลูกไม่พอแน่ๆ เขาจึงบอกกับลูกค้าใหม่ว่าจะปลูกเพิ่มขึ้น แต่ไม่รู้จะพอสำหรับทุกท่านไหม และเขาจะยังไม่รับค่ามัดจำกับลูกค้าใหม่ หากเวลานั้นเขาปลูกได้ไม่ถึงจำนวนที่ต้องการเขาอาจเสียหายมากเป็นแน่ เรื่องนี้เขาต้องกลับไปคุยกับฟางเหนียงก่อนว่าจะทำเช่นไรกับเรื่องที่สินค้าไม่พอขายเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ