ฟางเหนียงตื่นขึ้นมาอีกทีก็ช่วงบ่ายแล้ว นางจึงออกไปถางหญ้าที่สวนหลังบ้านต่อ “ฟางเหนียง ฟางเหนียง เจ้าอยู่หรือไม่” เสียงของเหมยเหม่ยเรียกนางดังมาแต่ไกล “ข้าอยู่ที่สวนหลังบ้าน” นางรีบขานรับเหมยเหม่ยทันที เพราะกลัวเหมยเหม่ยจะเป็นห่วงนางอีก “ฟางเหนียง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่” เหมยเหม่ยเข้ามาถึงก็รีบถามนางด้วยความเป็นห่วง “ข้าดีขึ้นมากแล้ว เจ้าล่ะวันนี้ไปทำงานคนเดียวเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยมากหรือไม่” วันนี้นางไม่ได้ไปทำงานด้วย เหมยเหม่ยคงวุ่นวายน่าดู “เจ้าไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว ตอนแรกข้าคิดว่าเลิกงานแล้วจะแวะมาหาเจ้าก่อน แต่พอดีข้าติดธุระที่ต้องไปทำให้ท่านแม่ ข้าเลยมาหาเจ้าในยามนี้ ส่วนเรื่องที่ทำงานก็วุ่นๆ บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังดีที่มีลู่จื้อเข้ามาช่วย” นางพยักหน้าตอบเหมยเหม่ย แล้วนึกคิดว่าลู่จื้อเป็นใคร ใช่สิ ลู่จื้อเป็นเพื่อนร่วมงานของนางนี่เองแต่ส่วนมากลู่จื้อจะมีหน้าที่ไปส่งของ ไม่ค่อยได้เข้ามาช่วยงานในร้านมากนัก วันนี้นางไม่ได้ไปทำงาน ลู่จื้อคงอยู่ร้านช่วยงานเหมยเหม่ยแทนนาง
“อ่า ข้าลืมไปเลย อ่ะนี่ ท่านแม่ข้าฝากปลาย่างมาให้เจ้าด้วย ส่วนนี้เถ้าแก่ฝากยามาให้ แล้วบอกอีกด้วยว่าถ้าหากเจ้ายังไม่ดีขึ้นก็ให้เจ้าหยุดพักให้หายดีก่อนแล้วค่อยไปทำงาน” เหมยเหม่ยยื่นของที่ถือมาเต็มมือให้กับนาง “ขอบใจเจ้ามากนะ ไว้ข้าจะไปขอบคุณท่านป้าทีหลัง ส่วนเถ้าแก่พรุ่งนี้ข้าจะไปขอบคุณท่าน” นางรับของจากเหมยเหม่ยแล้ววางไว้บนโต๊ะที่อยู่ข้างประตูหลังบ้าน “แล้วเจ้ากำลังทำอะไรอยู่รึ ทำไมเหงื่อเต็มตัวเยอะมากเช่นนี้ล่ะ เสื้อผ้าเจ้าก็เลอะเทอะไปหมด” เหมยเหม่ยเพิ่งสังเกตเห็นว่าฟางเหนียงมีเหงื่อเต็มตัวไปหมด เสื้อผ้าก็เปื้อนดินอีกด้วย “ข้าเห็นสวนหลังบ้านมันรกไปหน่อย ข้าคิดว่าจะถางหญ้าออกให้หมด เผื่อว่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างในวันข้างหน้า” เหมยเหม่ยหันมองนาง แล้วเอามือแตะที่หน้าผาก มองนางด้วยความสงสัย “ฟางเหนียง เจ้ากลับมาเป็นฟางเหนียงคนเดิมแล้วใช่รึไม่ ตั้งแต่พ่อเจ้าเสียไป เจ้าก็กลายเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ร่าเริง ไม่ทำอะไรเลย แค่ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าวกินนิดหน่อย แค่พอเลี้ยงตัวเองไปวันๆ ก็เท่านั้น เจ้ากลับมาแล้วใช่หรือไม่ ข้าดีใจยิ่งนัก ฟางเหนียงของข้าจะกลับมายิ้ม หัวเราะ เป็นเพื่อนข้าอีกครั้งแล้ว”
เหมยเหม่ยดีใจมากที่ฟางเหนียงจะไม่ทำหน้าเศร้าตลอดเวลาแล้ว เพราะยังทำใจเรื่องท่านพ่อของนางที่จากไปไม่ได้ แม้มันจะผ่านมาตั้ง 2 ปีแล้วก็ตาม ฟางเหนียงเห็นเหมยเหม่ยดีใจเช่นนั้น นางก็นึกขึ้นมาได้ว่าหญิงสาวคนนั้นตอนเสียท่านแม่ไปก็ยังพอทำใจได้อยู่บ้างเพราะท่านพ่อยังอยู่ด้วย แต่เมื่อท่านพ่อจากไปอีกคนหญิงสาวคนนั้นก็กลายเป็นคนซึมเศร้าตลอดเวลา เรื่องนี้นางเข้าใจถึงความรู้สึกของหญิงสาวคนนั้นดี ว่าต้องเสียใจมากเพียงใดที่ต้องมาเสียท่านพ่อท่านแม่ไปเช่นนี้ ตอนนางเสียท่านพ่อท่านแม่ไปพร้อมกันในยุคก่อน ในช่วงแรกๆ นางก็เป็นเหมือนหญิงสาวคนนั้นเช่นกัน กว่านางจะผ่านมันมาได้ นางก็ใช้เวลานานอยู่หลายปีเลยล่ะถึงจะอยู่กับความเป็นจริงได้ แต่ต่อจากนี้ไปนางจะใช้ชีวิตนี้แทนหญิงสาวคนนั้นให้มีความสุขเอง
“อืม ข้ามาคิดดูแล้วหากข้าใช้ชีวิตไม่มีความสุข ท่านพ่อกับท่านแม่คงเป็นห่วงข้ามากแน่ๆ ข้าจึงไม่อยากใช้ชีวิตเช่นนั้นอีกแล้ว ข้าอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกๆ วันท่านพ่อท่านแม่ของข้าจะได้หมดห่วงซะที” พูดแล้วฟางเหนียงก็ยิ้มให้เหมยเหม่ย เหมยเหม่ยยิ้มตอบด้วยความดีใจแล้วเข้ามากอดนาง นางทั้งสองกอดกันแล้วหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข หลังจากเหมยเหม่ยกลับไปแล้ว ยามนี้ก็เย็นพอดี นางจึงไปต้มน้ำที่เหลือหนึ่งถังไว้อาบ แล้วไปหาบน้ำที่ลำธารมาเติมให้เต็มโอ่งทั้งหมดที่มีในบ้าน “เฮ้อ!!! เสร็จสักที” นางนั่งลงด้วยความเหนื่อยล้าจากการหาบน้ำ กว่าจะเต็มโอ่งทั้งหมดก็เอาซะนางหมดแรงเลยล่ะ นางนั่งสักพักก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ
“ไปอาบน้ำดีกว่าจะได้สดชื่น น้ำร้อนพอดีเลย” นางเดินไปดูน้ำที่ต้มไว้กำลังเดือดพอดี นางยกน้ำร้อนไปที่ห้องน้ำแล้วเทน้ำร้อนผสมกับน้ำปกติลงในอ่างอาบน้ำแล้วนางก็อาบน้ำล้างตัว เสร็จแล้วนางก็เข้านอนเลย วันนี้นางไม่ได้ทานข้าวเย็น เพราะนางเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไม่มีแรงจะทำอะไรทาน “รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า” นางดับตะเกียงแล้วรีบล้มตัวนอนทันที ผลจากการที่นางทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน จึงทำให้นางอ่อนล้าแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว ตื่นเช้ามานางก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวไปทำงาน “วันนี้จะไปทำงานวันแรกตั้งแต่หลงยุคมา งานที่นี้จะเป็นแบบไหนนะ” นางรู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้ไปทำงานจริงๆ ถึงนางจะเคยเห็นจากความทรงจำของหญิงสาวคนนั้นแล้วก็ตาม แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี “ฟางเหนียง ฟางหนียง เจ้าเสร็จหรือยัง” เสียงอันคุ้นเคยตะโกนดังมาแต่ไกล นางได้ยินเช่นนั้นก็รีบขานรับแล้วเดินออกไปหาเจ้าของเสียงทันที “เสร็จแล้วๆ ข้ากำลังออกไป” นางเดินออกมาแล้วล็อคประตูหน้าบ้าน เสร็จแล้วจึงเดินไปหาเหมยเหม่ยนางสังเกตเห็นว่าวันนี้เหมยเหม่ยแต่งตัวสวยมาก แต่ดูดีๆ แล้วเหมยเหม่ยก็แต่งตัวปกติ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ดูสวยยิ่งนัก
“เอ๋!!!วันนี้เหมยเหม่ยของข้าทำไมแต่งตัวสวยยิ่งนัก” เหมยเหม่ยได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มเขินออกมา แล้วหันหน้าไปทางอื่นเพื่อแก้เขิน “ข้าก็แต่งตัวปกติของข้า สายตาของเจ้ามีปัญหาหรืออย่างไร” เหมยเหม่ยพูดแล้วก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าปกติ ไม่คิดจะรอนางเลยสักนิด “ก็เรื่องจริงนี้น่าเจ้าแต่งตัวเช่นนี้สวยมากจริงๆ นะ” ฟางเหนียงเอ่ยชมขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้เหมยเหม่ยรู้สึกเขินอายมากกว่าเดิมจนทำให้เดินห่างออกจากนางมากขึ้นไปอีก “เจ้าก็มัวแต่พูดเล่นอยู่นั้นแหละ รีบเดินเถอะน่า เดี๋ยวก็ไม่ทันรถม้าเอาได้” เหมยเหม่ยเขินอายจนต้องเปลี่ยนเรื่องพูด ฟางเหนียงที่เห็นท่าทางของเหมยเหม่ยเป็นเช่นนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ