สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ นิยาย บท 41

"นี่พวกเจ้าสองตัวจะมาทำให้ข้าเสร็จเร็วขึ้นหรือช้าลงกันแน่เนี่ย" ฟางเหนียงบ่นให้เจ้าสองแสบที่ตอนนี้กำลังวิ่งเล่นกันอยู่บริเวณที่นางกำลังถอนต้นมะเขือเทศอยู่ ฟางเหนียงทำการถอนต้นมะเขือเทศออกประมาณ 2 หมู่ได้ เพื่อทำการทดลองปลูกพืชชนิดใหม่ที่นางได้เมล็ดพันธุ์เป็นของรางวัลเมื่อครั้งก่อนมา 2 ห่อ หลังจากที่นางได้ถอนต้นมะเขือเทศเสร็จแล้ว นางก็จะทำการปรับสภาพโครงสร้างของดินให้เอื้ออำนวยต่อรากพืชต่อ โดยการนำปุ๋ยคอกที่เอามาจากคอกวัวมาผสมกับดินที่นางได้เตรียมไว้ แต่นางต้องจ้างผู้ชายมาไถดินให้ เพราะเจิ้งเจี๋ยไม่อยู่เขาได้ออกไปส่งสินค้าที่เมืองเฟิงฟู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของเมื่อวานแล้ว นางจึงไปหาเหวินโจวคนในหมู่บ้านของนางที่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป

 ระหว่างที่เหวินโจวทำการไถดินให้นางอยู่นั้น นางก็ไปเกี่ยวหญ้าพร้อมกับเจ้าสองแสบ ส่วนเจ้าแมวและแม่ของเจ้าสองแสบนั้นได้เฝ้าอยู่ที่บ้าน หลังจากที่นางกลับมาจากเกี่ยวหญ้า เหวินโจวก็ทำการไถดินให้นางเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ฟางเหนียงปลูกพืชชนิดนี้ด้วยการเพาะกล้าเหมือนกับพืชชนิดอื่นๆที่นางเคยปลูกมา แต่พืชชนิดนี้มีการเจริญเติบโตไวกว่าพืชชนิดอื่นมาก นางใช้เวลาเพาะกล้าแค่คืนเดียวเท่านั้น พืชชนิดนี้ก็เริ่มแตกใบ 2-4 ให้เห็นแล้ว ที่เห็นผลไวเช่นนี้แน่นอนว่าเป็นเพราะปุ๋ยวิเศษแน่นอน "จะโตไวเกินไปแล้วนะ ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะปลูกง่ายกว่าพืชชนิดอื่นที่ข้าเคยปลูกมา" นางนั่งมองพืชที่ใช้เวลาในการเติบโตแค่คืนเดียวอย่างกับเรื่องโกหก หลังจากนั้นนางก็ไปเตรียมหลุมมีความกว้าง 50*50 ตามที่ระบบได้เขียนวิธีปลูกมาให้ เสร็จแล้วนางก็นำต้นกล้ามาลงหลุมที่เตรียมไว้ทันที และทำการรดน้ำ1-2 ครั้งต่อวันหรือไม่ก็แล้วแต่ความชื้นของดิน 

ผ่านไปได้ 10 วันพืชชนิดนี้ก็มีลำต้นที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าปกติทั่วไป ตอนนี้ก็เริ่มมีฝักอ่อนออกมาแล้วด้วย พอผ่านไปอีก 5 วันได้เวลาผสมเกสร ขั้นตอนนี้ฝักจะเริ่มโผล่ให้เห็นเป็นไหมยาวออกมาพร้อมกับบนยอดบนสุดของต้นจะมีเกสรตัวผู้โผล่เป็นยวงคล้ายรวงข้าว นางทำการหักเกสรตัวผู้มาเขี่ยๆ ตบๆ ลงบนไหมที่ฝักทุกฝักและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอไม่เช่นนั้นฝักจะเหี่ยวไม่แน่นเต็มเม็ดอย่างแน่นอน "ฟางเหนียงข้ากลับมาแล้ว" ฟางเหนียงที่กำลังนั่งถอนหญ้าก็ต้องสะดุ้งโหยงไปหนึ่งที "โอ๊ย!!! ตกใจหมด ขวัญเอยขวัญมา" ฟางเหนียงเอามือทาบอกแล้วเรียกขวัญตัวเองเบาๆ "ฟางเหนียงเจ้าทำอะไรอยู่รึ? เอ๋!!! นี่มันต้นอะไรกัน ทำไมข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน" ครั้งนี้เจิ้งเจี๋ยตกใจมากจริงๆ เพราะเขาไม่เคยรู้จักหรือได้ยินลักษณะต้นพืชและผลเช่นนี้มาก่อน ภรรยาของเขาได้อะไรแปลกๆมาปลูกอีกล่ะเนี่ย

"นี่เขาเรียกว่า ข้าวโพด อย่างไรล่ะ" เจิ้งเจี๋ยทำให้งงแล้วเอ่ยขึ้น "ข้าวโพดเช่นนั้นรึ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย" ฟางเหนียงคิดแปลกใจเช่นกัน ยุคนี้ไม่มีข้าวโพดอย่างนั้นรึ "ใช่ ข้าวโพดจะมีรสชาติที่หวานอร่อย หากเจ้าได้ลองชิมแล้ว เจ้าจะต้องติดใจอย่างแน่นอน" ฟางเหนียงพูดด้วยความภาคภูมิใจกับพืชชนิดใหม่ของนาง หลังจากที่เจิ้งเจี๋ยกลับมาถึงบ้านเมื่อวาน วันนี้ก็อยากขึ้นเขาไปหาสมุนไพรที่เป็นพิษมาไว้เพื่อป้องกันตัว ที่เขาทำเช่นนี้เพราะตอนนี้การค้าของเขานั้นเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลนี้คนที่อิจฉาหรือไม่พอใจเขาต้องคิดที่จะทำร้ายเขาอย่างแน่นอน การขึ้นเขาครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะหาสมุนไพรที่เป็นพิษเจอได้ง่ายๆ แค่สมุนไพรรักษาโรคธรรมดาทั่วไปก็ยังหายากเลย แต่ที่เจิ้งเจี๋ยลองขึ้นเขามาหาดูนั้น เพราะฟางเหนียงเคยเล่าให้เขาฟังว่าเคยได้สมุนไพรที่หายากได้จากเชิงเขาแห่งนี้ 

"เจิ้งเจี๋ยเจ้าตามข้ามาด้านนี้สิ ข้าเคยได้สมุนไพรที่หายากได้จากที่แห่งนี้แหละ" ฟางเหนียงนำทางเขาไปบริเวณที่นางเคยไปกับเหมยเหม่ยเมื่อครั้งก่อน เจิ้งเจี๋ยเดินตามนางไปไม่นานก็ถึงที่หมาย และตอนที่เขาข้ามท่อนไม้ใหญ่นั้นมา ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างดึงเขาเข้ามา แต่พอเขาสำรวจดูแล้วทุกอย่างก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ หรือว่าเขาจะคิดไปเอง "เจิ้งเจี๋ยข้าไม่รู้ว่าอันไหนคือสมุนไพรมีพิษ เจ้าลองมาดูทางฝั่งข้าดูสิ" เจิ้งเจี๋ยเลิกสนใจสิ่งที่เขารู้สึกเมื่อครู่นี้แล้วเดินเข้าไปหาฟางเหนียง "ฟางเหนียง ทำไมที่แห่งนี้ถึงได้มีความสมบูรณ์เยี่ยงนี่ล่ะ ต่างจากที่เราเดินผ่านมาเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง" เจิ้งเจี๋ยรู้สึกถึงความแตกต่างของความอุดมสมบูรณ์ของดินในที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก เหมือนกับไม่ใช่ผืนป่าเดียวกันอย่างนั้นแหละ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติเลยสักนิด ที่เรารู้สึกได้นี้มันคืออะไรกันแน่ เจิ้งเจี๋ยนึกสงสัยเป็นอย่างมาก "เจิ้งเจี๋ย เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ทำไมยืนนิ่งไปเช่นนั้นล่ะ" ฟางเหนียงเห็นท่าทางแปลกๆของเขาก็รีบถามขึ้นในทันที

"อ่อ เปล่าๆข้าไม่เป็นไร ไหนเจ้าว่าสมุนไพรอะไรนะ" ฟางเหนียงเห็นว่าเขาไม่เป็นไรแล้วก็พาเขาไปดูสมุนไพรที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน "ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นสมุนไพรหรือไม่เห็นว่ามันแปลกดีจึงเรียกเจ้ามาดู" เจิ้งเจี๋ยเดินเข้ามาดูใกล้ๆก็เห็นว่าสมุนไพรชนิดนี้เป็นสมุนไพรมีพิษ และพิษของมันก็เหมาะสำหรับเขาอีกด้วย หากนำผงของมันไปลูบกับคบดาบไว้ ก็สามารถทำให้แผลของคู่ต่อสู้นั้นเป็นแผลที่เหวอะหวะมาก แต่ถ้าหากเอาไปโปรยใส่ดวงตาของคู่ต่อสู้ ก็จะทำให้คู่ต่อสู้นั้นแสบร้อนดวงตาจนทำให้ตาบอดได้ หลังจากที่ทั้งสองได้ของที่ต้องการแล้ว ก็ถึงเวลาที่เจิ้งเจี๋ยจะต้องไปส่งสินค้าอีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็ได้เอาสมุนไพรมีพิษติดตัวไปด้วยเช่นกัน ผ่านไปอีก 7 วันก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวของข้าวโพดปกติแล้วข้าวโพด 1 ต้นจะติดฝักอยู่ที่ 2-4 ฝัก แต่ของนางนั้นได้ปุ๋ยวิเศษช่วย จึงทำให้ต้นข้าวโพดของนางแต่ละต้นนั้นติดฝักประมาณ 8-10 ฝักกันเลยล่ะ แล้วแต่ละฝักนั้นจะมีเมล็ดสีเหลืองที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ และทุกเมล็ดก็แน่นตึงไม่มีเหี่ยวเลยสักเมล็ด

ฟางเหนียงเก็บเกี่ยวผลผลิตของข้าวโพดทั้งหมดแล้ว นางก็ลองเอามาต้มเพื่อลองทานดูว่าข้าวโพดนี่จะมีรสชาติดีหรือไม่ "อืม!!! ข้าวโพดนี้หวานอร่อยมากยิ่งนัก ฟักก็ใหญ่มากอีกด้วย นานแค่ไหนแล้วนะที่ข้าไม่ได้กินข้าวโพด เจ้าแมวน้อยเจ้าอยากกินหรือไม่ มา มา มากินกับข้า" เจ้าแมวน้อยของนางกินจุมากจริงๆ มันกินเกือบหมดฟักหนึ่งเลยล่ะ นางแบ่งข้าวโพดเก็บไว้ให้เจิ้งเจี๋ยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนางเก็บไว้ทำเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกรอบหน้า หากเจิ้งเจี๋ยกลับมารอบนี้ก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวมะเขือเทศรอบสุดท้ายพอดี ต่อไปในสวนของนางก็จะปลูกข้าวโพดทั้งสวน ส่วนมะเขือเทศนั้นนางก็ให้ชาวบ้านเป็นคนปลูกแทน ชาวบ้านที่เก็บเกี่ยวมะเขือเทศรอบแรก ตอนนี้มะเขือเทศของพวกเขาก็เริ่มจะเก็บเกี่ยวรอบที่สองได้แล้ว ชาวบ้านแต่ละครัวเรือนตอนนี้เห็นได้ชัดว่า พวกเขากล้าที่จะซื้อของกินเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ในหมู่บ้านจะไม่ได้ยากจนมากนักตั้งแต่แรก แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ประมาทในการใช้เงินซื้อของต่างๆ แต่มาตอนนี้พวกเขาเริ่มมีความกล้าพอจะซื้อของที่อยากกินมากขึ้น เรื่องนี้มันทำให้ฟางเหนียงรู้สึกยินดีเอามากๆ เพราะเด็กๆก็จะได้กินขนมเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สาวโก๊ะทะลุมิติ มาใช้ชีวิตในยุคโบราณ