อ่านสรุป บทที่ 13 อิจฉาริษยาจนแทบคลั่ง จาก สายใยร้ายคู่นิรันดร์ โดย หลันปี้ฉิง
บทที่ บทที่ 13 อิจฉาริษยาจนแทบคลั่ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ สายใยร้ายคู่นิรันดร์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลันปี้ฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
วรรณรีบแสร้งทำเป็นคนดี เอ่ยว่า “มีอะไรก็พูดกันดีๆ ทุกคนเป็นคนบ้านเดียวกัน อย่าทะเลาะกันเลย!”
พูดเสร็จ ก็เหลือบเห็นกำไลหยกเขียวบนข้อมือมีนา ในใจพลันรู้สึกอิจฉาริษยาจนแทบคลั่ง
ต้องรู้ไว้ว่ากำไลหยกเขียวของนายท่านนี้เป็นถึงมรดกตกทอดของตระกูลธวัชพลังกรเลยทีเดียว ทุกรุ่นจะถูกสืบทอดโดยคุณหญิงตระกูลธวัชพลังกรที่มีอำนาจสูงสุดเท่านั้น
ณ ตอนนี้ ณนนคือผู้นำตระกูลที่กุมอำนาจตระกูลธวัชพลังกร ทว่านายท่านกลับไม่ได้ยกกำไลหยกนี่ให้เธอ แต่ยกให้หลานสะใภ้ที่เพิ่งแต่งเข้ามาแทน
ธารณ์ลูกชายเธอยังไม่แต่งงาน นายท่านก็จัดงานแต่งให้มาร์ชตัดหน้าไปก่อนแล้ว อีกทั้งยังยกกำไลหยกนี่ให้เป็นของแทนใจ เพื่อบ่งบอกว่ายอมรับในตัวภรรยาของมาร์ช ไม่เห็นหัวพวกเขาแม่ลูกอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
“ใครเป็นคนบ้านเดียวกับมัน!” ณนนตวาดเสียงแข็ง “ไร้ยางอาย เพิ่งเข้ามาได้ไม่ทันไรก็มาอ่อยพี่ชายของมาร์ช! วันนี้ถึงเธอไม่ยอมก็ต้องยอม คุกเข่าลงแล้วขอโทษซะ!”
มีนายืนหยัดตัวตรง ยิ้มขำเบาๆ เอ่ยว่า “หนูไม่ผิด เขาต่างหากที่คิดมิดีมิร้ายจะล่วงเกินหนู ใช้ขวดเหล้าฟาดหัวเขานับว่าเบาแล้ว ถ้ามีครั้งต่อไปอีกหนูจะทำให้เขากลายเป็นคนพิการแน่!”
วรรณทำท่าประหนึ่งว่าตกใจกับคำพูดเธอ พลันรีบมาขวางหน้าธารณ์ “อย่าทำร้ายธารณ์อีกเลย เขาเป็นเด็กดี จะไปล่วงเกินหนูได้ยังไงกัน มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ......”
“วรรณ เธอใจดีและอ่อนแอเกินไปแล้ว ผู้ใหญ่อย่างเธอถูกเด็กมันข่มขู่จนได้” ณนนมองวรรณอย่างอ่อนโยน พลางพูดปลอบเธอ
วรรณสบตากับณนน พลันตาแดงก่ำ ท่าทางอ่อนแอว่านอนสอนง่ายนี่ใครมาเห็นก็คงอดไม่ได้ที่จะปวดใจ
มีนาลอบคิด ว่าผู้หญิงคนนี้แกร่งกว่าเอนและพิมที่เถียงกับเธอเมื่อตอนเช้านั่นไม่รู้กี่ระดับ
ณนนหันไปมองมีนาด้วยแววตาเยือกเย็น เสียงเพล้งดังขึ้น พลันมีแก้วใบหนึ่งถูกปัดทิ้งจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างสะดุ้งตกใจ มีเพียงมีนาที่เผยสีหน้าดังเดิม ผู้ใหญ่ที่แยกผิดชอบชั่วดีไม่ออกแบบนี้ ไม่มีค่าให้เธอเคารพด้วยซ้ำ
“คุกเข่าลง ขอโทษวรรณกับธารณ์ซะ แล้วจะไม่ถือสาเอาความเรื่องนี้กับเธออีก ไม่งั้นก็ไสหัวกลับบ้านตระกูลจรัลพรไพศาลเธอไปซะ ลูกสะใภ้อย่างเธอตระกูลธวัชพลังกรเราไม่รับ ถอนหมั้นซะ!”
มีนาสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เธอจะถูกถอนหมั้นไม่ได้เด็ดขาด และจะให้คนในตระกูลจรัลพรไพศาลรู้ไม่ได้ว่าเธอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในตระกูลธวัชพลังกร
เธอกัดฟันแน่น พลันงอเข่าเล็กน้อย
นายท่านปรายตามองธารณ์แวบหนึ่ง ไม่รู้สึกปวดใจกับแผลบนหัวของธารณ์ กลับหันมาถามมีนาว่า “ทำไมเธอต้องฟาดเขา? ไม่ว่าจะยังไงใช้กำลังก็ไม่ถูกอยู่ดี”
วรรณบีบน้ำตาร้องไห้ เอ่ยเสียงเบาปวกเปียกว่า “คุณแม่ ธารณ์บาดเจ็บไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ณนนเขาก็เป็นห่วงธารณ์ ถึงได้โกรธขนาดนี้......”
“เธอหุบปาก” นายท่านไม่รับมุกเธอ เอ่ยขัดเธอว่า “ฉันกำลังถามนานา ให้เธอพูดซะ”
มีนาเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้มีแต่นายท่านเท่านั้นที่ช่วยเธอได้ แต่เมื่อกี้เธอออกจากที่นี่ไปบอกนายท่านไม่ได้ด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงเลยว่านายท่านจะมาถึงพอดี ทำให้เธอไม่ต้องรับผิดอย่างไร้ศักดิ์ศรี
“นายท่าน เขาอยากล่วงเกินหนูก่อนค่ะ หนูขัดขืนสุดแรงก็เลยเผลอทำให้เขาเจ็บตัว......”
“คุณย่า เธอจงใจมาอ่อยผมตอนที่มาร์ชไม่อยู่บ้านต่างหาก” ธารณ์ใช้มือปิดแผลตรงหน้าผาก แสร้งทำเป็นเจ็บสุดๆ ซ้ำยังพูดแก้ตัวต่อหน้านายท่าน
นายท่านกวาดตามองพวกเขาสองคนแวบหนึ่ง ก่อนจะถามธารณ์ว่า “แกอยากบอกว่าเธอเป็นคนเริ่มให้ท่าแกก่อน แต่ก็ยังเอาของฟาดแก เพื่อจะทำให้เรื่องมันใหญ่โต แล้วทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียงงั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...