เมย์เก็บรอยยิ้มของเธอและพูดด้วยสีหน้าแววตาที่เศร้า: “ฉันยังไม่ได้บอกเธอว่าลูกชายคนสุดท้องของฉันเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เพราะฉะนั้นไม่ว่าเธอต้องการสินค้าชุดนี้หรือไม่ ฉันก็ต้องให้เธอรับสินค้านี้ไว้และจ่ายค่าสินค้าให้เรา แม้ว่าเธอจะไม่ได้ฟ้องกอล์ฟในความผิดสถานหนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ทำร้ายคนไปแล้ว และเขาก็ไม่สามารถออกมาได้ในเร็วๆนี้ ทว่าเคมีบำบัดของเด็กนั้นไม่สามารถรอช้าได้ และเงินเดือนของคนงานก็ค้างชำระมานานสามเดือนแล้ว เลยต้องลำบากเธอหน่อย”
มีนารู้สึกว่ามีใครบางคนตามหลังเธออยู่ และก่อนที่เธอจะหันศีรษะไปดู เธอก็เจ็บที่หลังคอแล้วหมดสติไปเลย
เมื่อเธอตื่นขึ้น เธอก็รู้สึกว่าเจ็บปวดที่คอราวกับจะหักไปเลย
หน็อยแน่! คนที่ตีเธอจนหมดสตินั้นแรงเยอะเป็นบ้า และเธอก็โง่มากที่ถูกเมย์หลอกอีกครั้ง!
เธอลืมตาขึ้นและพบว่าที่ที่เธอนอนอยู่นั้นไม่ใช่โกดังของโรงงานเสื้อผ้า แต่เป็นห้องที่มีแสงสลัว และเธอก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่
เธอจึงลุกขึ้นยืน และคิดว่าเธอต้องเกิดภาพลวงตาหลังจากที่ถูกตีจนหมดสติแน่เลย
“เธอนี่มันโง่จริงๆเลย” มีใครบางคนผลักเธอลงบนเตียงอย่างรุ่นแรง
เธอสะดุ้งจนอยากจะกระโดดขึ้นไปสู้กับชายคนนั้น แต่หลังจากได้ยินเสียงและมองเห็นคนที่อยู่ข้างเตียงนั้นแล้ว ปรากฎว่าคือมาร์ช
“ทำไมถึงเป็นนายล่ะ แล้วที่นี่คือที่ไหนกัน” มีนาถามด้วยความประหลาดใจ
มาร์ชกล่าวด้วยโทนเสียงที่ต่ำ: “คฤหาสน์ริมทะเล”
“อะไรนะ นายพาฉันมาที่นี่ทำไม ฉันถูกตีจนหมดสติอยู่ในโกดังไม่ใช่เหรอ……” มีนาหยุดชะงักไปสักพัก แล้วรู้สึกอยากจะร้องไห้: “หลังจากที่ฉันหมดสติ……เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ฉันหมดสติไปหรือไม่?”
มาร์ชมองดูเธออย่างเย็นชาและไม่ได้พูดอะไร
มีนารีบตรวจสอบเสื้อผ้าบนร่างกายของเธอ ทว่าโชคดีที่เธอยังแต่งตัวเรียบร้อย และเป็นชุดเดียวกับตอนที่เธอใส่ไปโกดังกับเมย์ ดูเหมือนว่านอกจากคอแล้วเธอก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายอะไรเลย
“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น แล้วฉันหมดสติไปนานแค่ไหน และทำไมนายถึงพาฉันมาที่นี่ด้วย” เธอพูดเร็วจนสำลักเล็กน้อย
เธอกลัวที่จะหมดสติในที่ที่ไม่คุ้นเคยมาก แล้วไม่รู้ว่ามันเคยเกิดอะไรขึ้น และเธอรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันน่ากลัวขนาดไหนสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง
“โชคดีที่ฉันไปถึงโกดังทันเวลา” มาร์ชรู้สึกตกใจกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลของเขาเอง นี่ไม่ควรเป็นน้ำเสียงของเขา
แต่มีนารู้สึกโศกเศร้าและกลัวมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของเขา และถามอีกครั้งว่า: “นายมาที่โกดังได้อย่างไร”
มาร์ชพยายมทำให้เสียงของเขาเย็นลงและพูดว่า: “คนขับรถที่พาเธอไปส่งเห็นว่าเธอไม่ยอมออกจากโรงงานสักที เขาจึงโทรไปรายงานกับคุณย่า ซึ่งฉันที่เพิ่งกลับไปได้ยินพอดี เลยถามคนขับเกี่ยวกับที่ตั้งของเธอแล้วรีบไปหา”
“นายถึงที่โรงงานแล้วหาฉันเจอนั้น พวกเขาก็ส่งตัวฉันให้นายเลยเหรอ?” เธอถามอย่างกังวล
“มันจะง่ายอย่างงั้นได้ไง เมย์และพนักงานพวกนั้นกำลังรอคนมาหาเธอ พวกเขาปิดประตูโกดังและเจรจาเงื่อนไขกับฉันก่อนที่พวกเขาจะยอมปล่อยเธอไป……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...