สัมพันธ์สวาท นิยาย บท 38

ฉันปล่อยให้กำปั้นทำแผลให้ เพราะลุกหนีออกไปไม่ได้ บรรยากาศภายในห้องเงียบซะจนรู้สึกวังเวง

“นี่หรอธุระที่นายบอก” ฉันถาม แต่กำปั้นก็ไม่ตอบอะไร “มาเที่ยว ?”

“ฉันขอร้องอะไรนายสักอย่างได้มั้ย” กำปั้นเงยหน้าขึ้นมามอง เขายังเงียบอยู่เหมือนเดิม “มีอะไรที่มันมากกว่าที่ฉันรู้ นายก็ให้ผู้ใหญ่เขาไปคุยกันเองได้มั้ย ส่วนนายกับฉัน....”

ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ฉันต้องหยุดบทสนทนาเอาไว้แค่นี้ก่อน

กำปั้นหันไปมองประตูห้อง เขาทำแผลให้ฉันเสร็จพอดี แล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู

“กำปั้นลินจะมาบอกว่า...” ผู้หญิงคนนั้นมองมาเห็นฉัน เธอเงียบไปทันทีและทำหน้าเหมือนกำลังสงสัยฉันอยู่

ฉันทำตัวไม่ถูก ใจมันเต้นรัวและรู้สึกอึดอัด เมื่อต้องมาประจันหน้าแบบนี้ เพราะผู้หญิงคนนี้เธอดูจะพิเศษสำหรับกำปั้นมาก จะบอกเธอยังไงดี หรือฉันควรเดินออกไปเงียบ ๆ

“ฉันขอตัวก่อนนะ”

กำปั้นไม่แม้แต่จะห้ามอะไรฉัน เขายอมปล่อยให้ฉันเดินออกไปจากห้อง ขนาดเดินผ่านหน้าเขาแท้ ๆ เขายังไม่รั้งเหมือนตอนที่อยู่ในห้องกันสองคนเลย เขาเพียงแค่ใช้หางตามองฉันแค่นั้น

ก๊อก ๆ ฉันเดินไปเคาะห้องพวกไอ้เต กะว่าจะชวนกลับกรุงเทพ ความรู้สึกตอนนี้คือมันไม่อยากอยู่แล้ว อยู่ไปก็เที่ยวไม่สนุก

“ไรวะอิเจ้ ?” เตชินเป็นคนเปิดประตูห้อง มองข้างในห้องเห็นเลย์เตรียมตัวจะอาบน้ำ ส่วนลีโอก็เพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำพอดี ถ้าฉันไม่ใช่เพื่อนมันฉันคงจะเมาซิกแพ๊คของสองแฝดนี้แน่ ๆ

“อิเจ้ !! มึงมองนมกูหรอวะ” เลย์ท้วงพรางยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกแบนราบของตัวเอง

“บ้า !! ใครจะไปอยากมอง” ฉันพูดแล้วละสายตากลับมาสนใจเต “คือฉันจะชวนกลับกรุงเทพคืนนี้....”

“เอาดิ กลับก็กลับ เอาที่สบายใจ ถ้าอยู่แล้วไม่สบายใจก็กลับ ไว้มากันใหม่ก็ได้”

ในตอนแรกคิดว่าพวกมันจะบ่น ๆ กัน เพราะเพิ่งจะมาถึงกันเอง แต่กลายเป็นว่าทุกคนเข้าใจฉันเป็นอย่างดี

หลังจากบอกพวกมันว่าจะกลับคืนนี้แล้ว ฉันก็โทรไปบอกพริ้ง ซึ่งนางก็เข้าใจ

ในขณะที่ฉันกำลังลากกระเป๋าออกมาจากห้อง กลุ่มของกำปั้นยังคงนั่งดื่มกันอยู่ ในตอนนี้กำปั้นไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็นั่งอยู่ด้วย ในตอนที่เขาอยู่กับเธอ ฉันไม่มีตัวตนเลย

นั่นสิ แล้วฉันจะอยากมีตัวตนในสายตาเขาทำไมกันล่ะ

“อดเห็นอิเจ้ใส่บิกีนี่เลยกู” เลย์พูดดัง ๆ จงใจให้กำปั้นได้ยิน

“มึงก็ให้อิเจ้ใส่แล้วถ่ายส่งให้ดูสิวะ” เตมันก็เอากับเลย์ด้วย ดึกดื่นป่านนี้มันสองคนแหกปากคุยกันไม่สนใจห้องอื่นเลย

“กลับได้แล้ว ห่วงแต่พูดอยู่ได้” ฉันทำหน้าดุใส่มันสองคน ลีโอเดินมาดึงกระเป๋าเดินทางของฉันแล้วยกไปไว้ที่รถให้ เพราะฉันเดินไม่คล่องเท่าไหร่มันเจ็บ ๆ เท้าอยู่

ก่อนจะขึ้นรถฉันหันไปมองกำปั้นแว่บหนึ่ง เขาก็กำลังมองฉันอยู่ แต่เพียงแค่แว่บเดียวเท่านั้นเขาก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อ

แล้วก่อนหน้านี้มันคืออะไร....

กรุงเทพ...

หลายชั่วโมงในการนั่งรถกลับ มันเหนื่อยมาก ก็ต้องเหนื่อยสิเนาะ เหมือนไปกลับนั่นแหละ หลังจากแยกตัวกับเพื่อน ๆ ฉันมาทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างในห้องดูแล้ว พรางนั่งมองใบทะเบียนสมรสของฉันกับกำปั้น

ฉันควรเด็ดขาดบ้าง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ เผื่อฉันท้องขึ้นมาจริง ๆ อะไรจะเกิด นั่นหมายความว่าถ้าฉันต้องการจะหย่า มันจะยิ่งยากกว่าตอนนี้

ฉันควรกลับไปตั้งหลักที่บ้านคงจะดีกว่ามาอยู่แบบนี้ไปวัน ๆ

ฉันลุกขึ้นไปหยิบกุญแจรถ ตั้งใจจะกลับบ้านอย่างไม่ลังเลในเวลาตีสองกว่า จริง ๆ ฉันบอกกำปั้นเอาไว้แล้วว่าจะกลับ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องบอกเขาอีก และฉันก็ไม่บอกว่ากลับไปครั้งนี้ ฉันจะกลับมาที่กรุงเทพตอนเปิดเทอมเลยทีเดียว

ฉันขับรถกลับบ้านทั้งที่แทบจะไม่ได้นอนพักเลยก็ว่าได้ กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปสองโมงเช้า ทุกคนตื่นกันหมดแล้ว

ฉันไม่ได้บอกใครว่าจะกลับ ตอนนี้พ่อกับแม่และเฮียกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ ฉันเดินเข้าไปในห้องอาหาร บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมันอึมครึมชวนอึดอัดทันที

เห็นแม่กับพ่อมองฉันแล้วก็มองไปทางด้านหลังของฉัน คงคิดว่ากำปั้นจะมาด้วย

“หนูมาคนเดียวค่ะ” ฉันบอกพ่อกับแม่

“ดี แม่ก็นึกว่ามันจะมาด้วย มานั่งสิ กลับมาก็ดีแล้วจะได้คุยเรื่องหย่า” แม่บอก

ฉันเดินไปนั่งข้าง ๆ กับเฮีย สีหน้าเฮียดูเป็นกังวลมาก คงเป็นเพราะเรื่องที่ฉันเล่าไปก่อนหน้านี้ทำให้เฮียเครียด

“ก่อนจะคุยเรื่องหย่า หนูอยากจะถามอะไรพ่อกับแม่ แล้วก็อยากให้พ่อกับแม่พูดความจริง ได้มั้ยคะ”

พ่อกับแม่มองหน้ากัน ท่านดูอึดอัดหนักใจกันทั้งคู่ในตอนนี้

“พูดความจริงได้มั้ยคะพ่อ...แม่” ฉันถามย้ำอีกครั้ง

พ่อกับแม่ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน แล้วพยักหน้าตอบ ส่วนฉันหันไปมองเฮียก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วถามพ่อกับแม่

“ทุกอย่างมันคืออะไรคะ เรื่องทุกอย่างมันคงไม่ใช่แค่แม่เลี้ยงของกำปั้นคือ...เมียน้อย” ฉันไม่ได้อยากจะพูดคำว่าเมียน้อยออกมาตรง ๆ แบบนี้ แต่มันก็ยากที่จะเลี่ยงในสถานการณ์ตอนนี้

“บอกลูกไปสิ คุณเองคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เพราะความมักมากของคุณคนเดียว”

พ่อถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเริ่มเล่าทุกอย่างช้า ๆ ด้วยความรู้สึกผิด

พ่อเล่าว่าพ่อได้แอบคบหากับแม่เลี้ยงของกำปั้น และแม่เลี้ยงของกำปั้นเป็นมหาเศรษฐีมีหุ้นในบริษัทยักใหญ่และมีที่ทางทำเลดีมากมาย ความโลภจึงทำให้พ่อยิ่งหว่านเสน่ห์ เพื่อให้แม่เลี้ยงของกำปั้นหลง และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ทั้งหุ้นบริษัท ทั้งที่ดินหลายร้อยไร่ แม่เลี้ยงของกำปั้นยกให้พ่ออย่างไม่ลังเล

นี่คงเป็นเรื่องที่ทำให้กำปั้นคับแค้นใจ ที่เขาพูดในวันนั้น ฉันเข้าใจเขามาตลอดนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ยอมเขาขนาดนี้หรอก

“แต่พ่อก็มารู้ความจริงอีกเรื่องเมื่อไม่นานมานี้” พ่อพูดแล้วเริ่มเล่าต่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัมพันธ์สวาท