หลายวันผ่านไป...
ในที่สุดวันที่ฉันรอคอยก็มาถึง พ่อฉันจีดการส่งคืนที่ดินและหุ้นบริษัทให้กับทางครอบครัวของกำปั้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของผู้ใหญ่ฉันไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่ายคุยอะไรกันยังไง ฉันไม่อยากรับรู้อีกแต่คงไม่มีอะไรแล้ว ตอนนี้พ่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว แถมยังเอาอกเอาใจแม่มาก ๆ แบบที่ฉันกับเฮียไม่เคยเห็นมาก่อน
และวันนี้ทางนั้นเพิ่งโทรมาบอกพ่อฉันว่าจะเข้ามาที่บ้านเพื่อที่จะมาจัดการเรื่องหย่าของฉันกับกำปั้นให้เรียบร้อย แบบนี้แปลว่ากำปั้นยอมแล้วสินะ
กำปั้นไม่ได้ติดต่อมาอีกตั้งแต่วันนั้น เกือบสองอาทิตย์ที่ไม่ได้เจอกัน ถึงจะไม่อยากเจอแต่วันนี้คงเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ เพื่ออิสระที่ฉันจะได้รับ
“ไง ตื่นเต้นมั้ย จะโสดแล้ว” เฮียถามฉัน ถามติดตลกเพราะไม่อยากให้บรรยากาศมันตรึงเครียดจนเกินไป ตอนนี้เรากำลังนั่งรอให้ทางครอบครัวของกำปั้นมาที่บ้านอยู่
“โสดตลอดนะเฮีย !!” ฉันทำตาดุใส่เฮีย
“ฉลองป้ะ ?” เฮียยักคิ้วให้ฉันเป็นการชวน
“ตาซา อย่าชวนน้องเที่ยวเชียวนะ !!” แม่ดุเฮีย
“โธ่!! แม่ นี่ผมจะบอกอะไรให้นะแม่ ตอนอยู่กรุงเทพลูกสาวแม่ก็เที่ยว เที่ยวเก่งกว่าผมอีก”
“เฮีย !!”
ฉันดุเฮียเสียงดัง ถึงเฮียจะไม่ได้อยู่กับฉันแต่เฮียรู้ดีว่าฉันชอบเที่ยวขนาดไหน แต่เรื่องนี้มันควรเอามาพูดต่อหน้าพ่อกับแม่มั้ยล่ะ !!
“แล้วเรื่องไปเรียนต่อเมืองนอกว่าไง ?” พ่อถามฉัน
มีอีกเรื่องที่ฉันลืมบอก คือฉันกำลังจะทำเรื่องย้ายไปเรียนที่เมืองนอก คงเทอมสองนั่นแหละถึงจะได้ไป ไม่อยากย้ายไปทั้งที่ยังเปิดเทอมหนึ่งอยู่
“ค่ะ ทำเรื่องได้เลย” ฉันตอบพ่อ หลายวันมานี้พ่อก็พยายามเอาใจฉันเหมือนกัน
รู้สึกว่าครอบครัวมันดูไม่เป็นครอบครัวมานานมากแล้ว แต่วันนี้ฉันเริ่มรู้สึกเหมือนว่ากำลังจะได้ครอบครัวกลับคืนมา แต่เรื่องที่พ่อทำมันก็คงยากที่จะลืม คงให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยาความสัมพันธ์นี้ของครอบครัวเรา
“เชิญค่ะ” เสียงแก้วพูดอยู่ตรงหน้าห้องรับแขก เมื่อเราทุกคนเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นผู้ชายสามคนกำลังเดินเข้ามา
คนแรกคือพ่อเลี้ยงของกำปั้น คนที่สองคือคุณอาของกำปั้นที่เป็นนายทะเบียน และคนสุดท้ายคือ ‘เขา’
ฉันรู้สึกว่าเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเผลอไปสบตากับสายตาเย็นชาคู่นั้นของเขา มันทำให้ฉันรีบก้มหน้าลงพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
หลายวันมานี้ฉันพยายามทบทวนกับความรู้สึกของตัวเอง และเตือนว่าฉันจะไม่เผลอใจให้กับเขาแบบครั้งนี้อีกหลังจากที่ความสัมพันธ์ทุกอย่างจบลง
เมื่อมาถึงผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดอะไรกันสักอย่าง ซึ่งมันแทบจะไม่เข้าหูฉันเลย เพราะฉันเอาแต่คิดฟุ้งซ่านอยู่ในใจ และลอบมองหน้าของกำปั้นอยู่หลายครั้ง สีหน้าของเขาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก แต่เขาแสดงออกทางแววตาเหมือนกับว่าไม่เต็มใจกับเรื่องในวันนี้
“รีบ ๆ เซ็นซะ ๆ เรื่องจะได้จบสักที” พ่อเลี้ยงหันไปบอกกำปั้นที่เอาแต่นั่งนิ่งเหมือนหุ่น
กำปั้นหยิบปากกาขึ้นมาเขามองมาที่ฉัน จ้องอยู่สักพักจนฉันต้อนเบือนหน้าหนี
หลังจากกำปั้นเซ็นใบหย่าเสร็จฉันก็เซ็นต่ออย่างไม่ลังเล
จบแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้วจริง ๆ เร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ซะอีก
“คุณดนัยผมขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว”
พ่อเลี้ยงกำปั้นบอกพ่อฉัน สีหน้าท่านดูเครียด ๆ ฉันกับแม่และเฮียหันไปมองหน้ากันอย่างกังวล เราคืนทุกอย่างไปแล้ว หวังว่าทุกอย่างมันจะจบแบบที่เราตั้งใจ ความผิดของผู้หญิงคนนั้น ทางเราก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก
บรรยากาศภายในห้องรับแขกมันเงียบสนิท ไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลยสักคำ
“ขอคุยด้วยหน่อย” เป็นฉันที่หันไปบอกกำปั้น พอฉันพูดแบบนั้นแม่กับเฮียก็พร้อมใจกันส่ายหน้าให้ฉันทันที
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุยธุระนิดหน่อย จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก” ฉันบอกแม่กับเฮีย ฉันแค่มีเรื่องจะคุยกับเขา แต่คิดว่าคุยตรงนี้มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
ฉันเลิกคิดถึงผู้ชายคนนี้ อุตส่าห์ไม่คิดมาตั้งนาน พอมากรุงเทพฉันจะรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ !!
วันนี้ฉันนัดกินข้าวกับเพื่อน พวกผู้ชาย แล้วก็พริ้ง ไม่ได้ไปกินที่ร้านอาหารที่ไหน นัดกันไปที่ห้องเลย์นี่แหละ ห้องเลย์กับห้องลีโอก็ห้องเดียวกัน ช่วงปิดเทอมฉันกับเพื่อนคุยกันตลอด เพราะเรามีแชทกลุ่มแล้ว
เลย์: อิเจ้มึงมาแล้วกูรู้ (เลย์ส่งรูปมา เป็นรูปเพื่อน ๆ ครบทีม มีพริ้งกับพี่สิงห์นั่งอยู่ด้วย ) เหลือมึงคนเดียวรีบมา !!
ฉัน: เออๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ
หลังจากตอบข้อความกลับไปแล้วฉันก็เดินออกจากห้องไปที่ห้องเลย์ พอเปิดประตูเข้าไปทุกคนก็ปรบมือให้เสียงดัง แถวบ้านเรียกกวนตีน...!!! ยัยพริ้งก็เอากับเขาด้วยนะ
“นี่มาฉลองให้แด่ความโสดของแกเชียวนะสายธาร ^_^” พริ้งพูด
ทุกคนรู้แล้วแหละว่าฉันกับกำปั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว และพวกนี้มันยินดีมากเพราะไม่มีใครบอบหน้ากำปั้นเลย
“ใครทำอาหาร กินได้ใช่มั้ย ?” ฉันเดินไปตักสลัดผักขึ้นมากิน
“ไอ้เตกับไอ้ลี แดกได้ก็แดก แดกไม่ได้ก็ต้องแดก !!” เลย์พูด พวกเราต่างพากันหัวเราะสนุก
“สายธาร แกไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกไม่ได้หรอ ฉันเหงานะ” พริ้งถามพร้อมกับทำตาแป๋วส่งให้ฉัน
“ไปแค่เรียนจบเอง อีกอย่างฉันจะกลับมาหาพวกแกบ่อย ๆ ^_^”
“กูว่าเดี๋ยวคงได้ไปเรียนต่อเมืองนอกตามอิเจ้มันยกแก๊งแน่ ๆ” เลย์พูดขึ้นติดตลก
ครั้งแรกในรอบหลายเดือนหลังจากปิดเทอมไป พอมาเจอกันอีกครั้งเราก็มีเรื่องเมาส์กันเยอะหน่อย แต่เลือกที่จะไม่ไปดื่มที่ร้านเหล้า
จริง ๆ พวกมันจะไปร้านเหล้ากัน แต่ฉันเองที่ขัด ฉันกลัวว่าโลกมันจะกลม กลัวว่าจะเจอเขาอีก...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัมพันธ์สวาท