ตกดึก หลังจากที่น้อง ๆ ได้ร่วมกันทำกิจกรรมเสร็จและแยกย้ายกันไปเข้านอนแล้ว
“เชี้ย !! รู้แบบนี้กูแกล้งป่วยซะก็ดี อารมณ์เหมือนมาเข้าค่ายลูกเสือเลยสัส” เตพูด
“มึงก็พูดเกินไปไอ้เต” เลย์รีบสวนกลับทันควัน
“กูคิดถึงห้องแอร์เย็น ๆ เตียงนุ่ม ๆ”
“สายธาร แกแน่ใจนะว่าจะไปเจอผู้ชายคนนั้นจริง ๆ” พริ้งถอนหายใจออกมาเบา ๆ และมีสีหน้าที่หนักใจแทนฉัน “ฉันกลัวว่าเขา...”
“เขาไม่ทำอะไรฉันหรอก นี่เรามาออกค่ายกันอยู่นะ อีกอย่างพวกแกก็อยู่” จริง ๆ ก็แค่พูดให้เพื่อน ๆ สบายใจไปงั้นแหละ ถ้าถามความรู้สึกฉันในตอนนี้ก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน
“ให้รอที่หน้าหอประชุมมั้ย ?” ลีโอถามฉัน
“ไม่เป็นไร ที่พักก็อยู่แค่นี้เอง ถ้ามีอะไรฉันแหกปากตะโกนพวกนายก็ได้ยิน” ฉันยิ้มจาง ๆ ให้เพื่อน ๆ เพื่อนให้พวกมันคลายความกังวล รู้แหละว่าเป็นห่วง
เมื่อถึงเวลานัด ฉันก็ไปหากำปั้นที่หอประชุมตามที่เขาได้บอกไว้ พอเดินเข้าไปในตัวหอประชุมก็เห็นกำปั้นที่ยืนรออยู่แล้ว ฉันหยุดเดินแล้วมองแผ่นหลังกว้างนั้นของกำปั้น ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังของเขา
“มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา ฉันง่วง” เมื่อพูดจบ เจ้าของแผ่นหลังกว้างก็หมุนตัวมาจ้องหน้าฉัน
“เธอมาช้า” นี่เขาไปนัดเวลากับฉันเมื่อไหร่กันถึงได้บอกว่าฉันมาช้า
“นายไม่ได้ระบุเวลา มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมาสิ จะเคลียร์อะไรกับฉัน” ฉันพยายามเร่งให้เขารีบ ๆ พูด เพราะดูเหมือนกำปั้นกำลังจะยืดเวลาไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ควรจะเคลียร์ให้มันจบ ๆ ไป
“รีบ ?” คิวหนาเลิกขึ้นเชิงถาม ก่อนที่กำปั้นจะเอื้อมมือมาจับแขนฉันแล้วก็พาฉันเดินไปหลบมุมหลังหอประชุม มันเป็นมุมมืด ก็ไม่มืดมากเท่าไหร่พอมีแสงไฟสาดมาถึงอยู่ แน่นอนว่ามันคือที่ลับตาคน
“นะ นายพาฉันมาตรงนี้ทำไม !!” ฉันถามออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยแล้ว
“ตรงนั้นคุยไม่ถนัด” กำปั้นยื่นใบหน้ามากระซิบที่หูของฉัน เสียงผ่อนลมหายใจของเขาดังใกล้ ๆ ทำเอาขนมันลุกซู่ไปทั้งตัวทันที
“อื้อ พะ พูดมาสิ” ฉันใช้มือดันแผงอกของเขาเอาไว้แล้วเอนตัวหนี แต่ก็ถูกแขนแกร่งของกำปั้นคว้ามากอดเอวของฉันแน่น
“ชอบมันจริง ๆ หรือแค่ทำประชดฉัน” กำปั้นถาม มันที่ว่าก็คงไม่พ้นเป็นลีโอ หลงตัวเองมากนะที่เขาคิดได้แบบนี้น่ะ
ถึงจริง ๆ แล้วฉันแกล้งคบกับลีโอมันจะเป็นเพราะเขา แต่นั่นไม่ใช่การประชด มันเป็นเพราะฉันไม่อยากให้เขามายุ่งกับฉันอีกต่างหาก
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเพราะแค่ประชด มันไร้สาระ”
“แล้วจะเลิกกับมันเมื่อไหร่” กำปั้นกดเสียงต่ำ เหมือนกำลังระงับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองอยู่ แต่ฉันสิที่ไม่เข้าใจว่าจะมาถามแบบนี้ทำไม เลิกกันเมื่อไหร่แล้วจะอยากรู้ไปทำไม
“ไม่เลิก”
“ไม่คิดก่อนตอบ ?”
“ทำไมต้องคิด”
“ไปเลิกกับมันซะ !!” กำปั้นขึ้นเสียงใส่ฉัน มันไม่ได้ดังมาก แต่น้ำเสียงของเขามันก็ทำให้ฉันได้รู้ว่าตอนนี้เขาไม่พอใจมากขนาดไหน
“นายไม่มีสิทธ์มาสั่งฉัน”
“ก็บอกให้เลิกไงวะ !!” กำปั้นเริ่มอารมณ์เสียใส่ฉันขึ้นเรื่อย ๆ
“แล้วทำไมฉันต้องเลิก !!”
พอฉันถามออกไปเขาก็เงียบแทนคำตอบ แบบนี้ฉันจะไปเข้าใจได้ยังไง มีปากก็น่าจะพูด เงียบแบบนี้คิดว่าฉันอ่านใจเขาได้รึไง
“เธอกำลังทำให้ฉันหงุดหงิด !!” กำปั้นพูดเสียงแข็ง จู่ ๆ เขาก็ผลักฉันไปติดกับกำแพง พร้อมกับรวบแขนทั้งสองข้างของฉันขึ้นไปขึงตรึงเอาไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา
ฉันตาโตขึ้นมาทันที เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามจะดิ้นให้หลุดพร้อมกับที่กำลังจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือ แต่แล้วกำปั้นก็กดจูบลงมาบนริมฝีปากของฉันซะก่อน จึงทำได้แค่ร้องประท้วงในลำคอ
“อื้อ อื้อ ~”
มือข้างที่ว่างอยู่ของเขาเริ่มอยู่ไม่นิ่งลูบคลำไปมาตามร่างกายของฉัน ตั้งแต่ต้นขาอ่อนค่อย ๆ ลูบไล้ขึ้นมาจนถึงหน้าอก ไม่รอช้ากำปั้นจัดการขยำหน้าอกของฉันทั้งสองเต้าสลับกันไปมาทันที ริมฝีปากหนาเริ่มบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงราวกับคนที่กำลังหิวโหย
มือหนาเริ่มเปลี่ยนเป็นสอดใส่เข้าไปในเสื้อของฉันแทนแล้วถกเสื้อฉันขึ้นมากองไว้บนเนินหน้าอกเพื่อที่เขาจะได้ทำอะไรง่ายขึ้น
นี่คือสิ่งที่ฉันกลัว ถึงฉันจะแอบหวั่นใจ แต่ฉันก็คิดอีกใจหนึ่งว่าเขาคงไม่ทำแบบนี้ แต่แล้วฉันก็คิดผิดไปจริง ๆ
กำปั้นถอนริมฝีปากออก เขาใช้มือปิดปากของฉันเอาไว้ไม่ให้ฉันส่งเสียงดังออกไปให้ใครได้ยิน ก่อนที่เขาจะใช้อีกมือถกเสื้อชั้นในของฉันขึ้นแล้วก้มลงมาตะโบมดูดดุนหน้าอกของฉันอย่างบ้าคลั่ง ริมฝีปากร้อนระอุดูดเม้มสองเด้าอย่างแรงจนมันรู้สึกปวดหนึบ ๆ เป็นระยะ ๆ
“อื้อ อื้อ ~”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัมพันธ์สวาท