แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง นิยาย บท 229

“ทำไมจะไม่ทันล่ะ?” หราวชิงหย่ายิ้มแล้วยิ้มอีก "ถ้าไม่ทัน เจ้าก็ตามข้าไปที่บ้านก็ได้นี่"

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะเจ้าค่ะ” ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงพูดอยู่นั้นนางก็กำลังจะลุกขึ้นมา

“ช้าก่อน” คราวนี้ ฮัวเว่ยเป็นคนพูดขึ้นมา

ลั่วเสี่ยวปิงกำลังมองไปที่ ฮัวเว่ยด้วยท่าทางที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม และภายในดวงตาก็เย็นชาอย่างไม่ลดละ

ฮัวเว่ยรู้สึกขุ่นเคืองใจมาก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะเสียหน้าต่อหน้าหญิงชาวบ้านคนหนึ่งตั้งสองครั้งติดต่อกัน ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกคับอกคับใจเป็นอย่างมากจริง ๆ

แต่เขาไม่สามารถล่วงเกินตระกูลหราวได้จริง ๆ

“ข้าขอโทษ” ฮัวเว่ยกัดฟันพูดด้วยความแค้น

ไม่ใช่ว่าเขากระดูกแข็งไม่เคยโค้งคำนับมาก่อน เพียงแต่ก่อนหน้านี้คนที่สามารถทำให้เขาโค้งคำนับได้ล้วนแต่เป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้ในใจของเขายอมรับมันได้

หลังจากที่พูดคำสามคำนี้จบ ฮัวเว่ยก็ต้องการจะจากไป แต่ในเวลานั้นเองลั่วเสี่ยวปิงกลับพูดขึ้นมาว่า “นายท่านสามฮัวขอโทษผู้ใดกัน? แล้วทำไมต้องขอโทษด้วย? ทำไมท่านไม่พูดให้กระจ่างล่ะ? หรือจะบอกว่าคนที่นายท่านสามฮัวขอโทษในเมืองซีเหอมีหลายคนอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้า เจ้าอย่ามาได้คืบจะเอาศอกนะ!” ฮัวเว่ยพูดอย่างโกรธเคือง

ลั่วเสี่ยวปิงเผชิญกับใบหน้าที่โกรธของฮัวเว่ย แต่นางกลับไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางตรงกันข้ามนางกลับมองไปที่ฮัวเว่ยด้วยสายตาที่แข็งกร้าวแทน และสายตานั้นราวกับกำลังพูดว่า: ข้าได้คืบจะเอาศอก แล้วเจ้าจะทำไม? หากเจ้ามีความสามารถก็เดินออกไปเลย

หลังจากที่ฮัวเว่ยมองจนเข้าใจแล้ว และหัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาด้วยความโกรธ

เขาต้องการที่จะสะบัดแขนแล้วก็จากไป สายตาอันสงบที่กำลังจ้องมองมาที่ตัวเองในตอนนี้นั้นของหราวชิงหย่ากลับทำให้เท้าของเขาไม่สามารถขยับได้อย่างไม่มีทางเลือก

สุดท้าย ฮัวเว่ยกัดฟันโค้งคำนับให้ลั่วเสี่ยวปิง ด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ "ข้าขอโทษแม่นางลั่วด้วย ที่ข้าไม่ได้ทำความเข้าใจให้กระจ่าง ข้าเข้าใจเจ้าผิดแล้ว นึกว่าเจ้ากับหลานชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวของข้านั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน......”

ฮัวเว่ยขอโทษแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากให้ลั่วเสี่ยวปิงรู้สึกสบายใจ ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาแบบนี้

แต่ทว่า ไม่รอให้ฮัวเว่ยพูดจบ ลั่วเสี่ยวปิงก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า “ถ้าหากว่านายท่านสามฮัวไม่มีความจริงใจที่จะขอโทษ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก”

ฮัวเว่ย “......”

ฮัวเว่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า “คราวนี้เป็นข้าที่มุทะลุเอง และเชื่อคำพูดใส่ร้ายของคนอื่น จึงทำให้ข้าเข้าใจพวกเจ้าผิด ข้าต้องขอโทษจริงๆ เอาไว้วันหน้าฉันจะให้ผู้ใต้บัญชาสางของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปขออภัยแม่นางลั่วก็แล้วกัน”

“ไม่จำเป็นต้องมีของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรอก ขอเพียงแค่นายท่านสามฮัวไม่กล่าวหาและใส่ร้ายคนอื่นมั่ว ๆ อย่างไม่มีหลักฐานอีกก็พอ ไม่อย่างนั้นข้าจะทุ่มเทชีวิตนี้ของข้าทำให้ผู้ที่ใส่ร้ายข้าผิดจ่ายค่าตอบแทนมาให้ได้อย่างแน่นอน”

ในขณะที่ลั่วเสี่ยวปิงกำลังพูดคำพูดนี้อยู่นั้น เขาก็ยังถือโอกาสกวาดตามองไปคนอื่น ๆ ที่อยู่ในร้านด้วย

ถึงแม้ว่าวันนี้ร้านเมืองแห่งอาหารแห่งนี้ของตนเองจะไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่การมาถึงของตระกูลหราวและพวกนายอำเภอนั้นก็ได้นำพาความนิยมเป็นอย่างมากมาด้วยเช่นกัน บวกกับโอหยางฉี่หยู่ยังตั้งใจสร้างชื่อที่นี่อยู่ที่หอฝูหม่าน ร้านเมืองแห่งอาหารแห่งนี้ก็เลยถูกกำหนดให้ได้รับความนิยมไปด้วย

แน่นอนว่า แก่นแท้ของได้รับความนิยมคืออาหารการกินที่สดใหม่และอร่อยแบบนี้ของหม้อไฟและบาร์บีคิวนั่นเอง

แต่เบื้องหลังของความนิยมนี้นั้นย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่ามันจะต้องทำให้หลายคนอิจฉาตาร้อนและไม่พอใจอยู่แล้ว และไม่แน่ว่าอาจจะมีใครมาใส่ร้ายนางเพื่อหวังผลกำไรหรือไม่ก็ได้

วันนี้ขอยืมนายท่านสามฮัวผู้นี้มาเลิกล้มความคิดของคนที่เก็บซ่อนความไม่พอใจไว้เหล่านั้น และถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูด้วย

คิดไม่ถึงเลยว่า พอลั่วเสี่ยวปิงพูดคำนี้ออกไป หลายคนก็ก้มศีรษะลงด้วยความร้อนตัว

ยิ่งไปกว่านั้น คนบางคนที่เคยด่าว่าลั่วเสี่ยวปิงอย่างสนุกสนานก่นหน้านี้ เมื่ออยู่ภายใต้สายตาที่เหลือบมองไปของลั่วเสี่ยวปิงเพราะว่ารู้สึกอับอาย ดังนั้นพวกเขาจึงชำระเงินอย่างลุกลี้ลุกลนและจากไปแล้วทีละคน

ในเวลานั้นเอง ชุนวัง ก็เข้ามาพอดี แล้วยืนอยู่ข้างๆฮัวเว่ยด้วยความเคารพ ราวกับว่าเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

“นายท่านท่านนี้ ห้องส่วนตัวพร้อมแล้ว ท่านจะสั่งอาหารเลยไหมเจ้าคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่หญิงปรุงยามือปราบกับลูกลิงทั้งสอง