"สถานการณ์ทางนั้นพังทลายลงหมดแล้ว และฉันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้ได้แต่เพียงสำรวจสถานการณ์แล้ววางแผนอีกที"
กู้จื่อเฟยรีบพูดขึ้น "ฉันไปกับเธอด้วย"
เพราะกลัวป่ายฉีจะไม่เห็นด้วยจึงรีบพูดเสริม
"จุดมุ่งหมายของเธอคือฉัน แนะนำว่าฉันควรจะไปด้วยและมีแผนสำรอง ฉันไปเธอถึงจะลงมือ พวกเราจึงจะมีโอกาสหาเบาะแสได้"
ป่ายฉีเป็นกังวลว่ากู้จื่อเฟยจะเป็นอันตรายจริง ๆ แต่เมื่อถึงนึกสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว กู้จื่อเฟยอาจจะทำให้ได้ชัยชนะจากสถานการณ์อันตรายนี้ และหาตัวเย้นโม่หลินได้โดยไว
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ป่ายฉีก็พยักหน้า
"หลังจากไปที่นั่นต้องเชื่อฟังผมทุกอย่าง ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามจะต้องคุยกับผม พวกเราจะต้องปรึกษากัน"
"ได้ ฉันจะฟังคุณ"
กู้จื่อเฟยพยักหน้าโดยไม่ลังเลและพูดเร่ง "งั้นก็รีบออกเดินทางเถอะ เวลาไม่รอท่า"
เร็วขึ้นหนึ่งนาทีอาจเกี่ยวกับความเป็นความตาย
ป๋ายฉีพร้อมพวกและพากู้จื่อเฟยออกไปจากบ้านตระกูลเย้นไปด้วยอย่างลับๆ
พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อไปให้ถึงเมืองเจียง
ตระกูลเย้นมีฐานลับอยู่ที่เมืองเจียงแห่งหนึ่ง เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีความโดดเด่น ไม่เคยแก่งแย่งชิงดีกับใครแต่กลับมีส่วนในการควบคุมสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งและการดำเนินงานของตระกูลเย้นอย่างลับๆ
ที่นี่เป็นหนึ่งในฐานที่ถูกโจมตี
ในตอนที่ป่ายฉีพากู้จื่อเฟยมาถึงที่นี่นั้น มีกำแพงที่พังทลายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับความเสียหายมากมาย
มีคราบเลือดและซากศพอยู่ทุกหนแห่ง
อีกทั้งยังมีปลอกกระสุน
กู้จื่อเฟยเดินเข้าไป กลับได้รับลมหายใจเย็นและตัวสั่น เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บจากฝ่าเท้า
เธอเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้าพูดอะไร
ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาของเธอเป็นประกายเมื่อมองไปรอบๆ
เย้นโม่หลินตกอยู่ในอันตรายจากที่นี่รึเปล่า?
ที่นี่จะมีเบาะแสอะไรเหลืออยู่บ้างไหม?
"เธอตามฉันมาและต้องระวังให้มาก"
จู่ ๆ ป่ายฉีก็ยื่นมือออกไปจับให้กู้จื่อเฟยตามอยู่ข้างหลังตนเอง ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
ที่นี่ไม่สงบ
ถึงแม้ในใจของกู้จื่อเฟยจะทั้งกระวนกระวายและเป็นกังวลและไม่กล้าจะทำอะไรตามอำเภอใจ จึงได้แต่เชื่อฟังป่ายฉีแต่โดยดี
ครั้งนี้ป่ายฉีพาคนมาด้วยยี่สิบกว่าคน พวกเขาล้อมวงและปกป้องกู้จื่อเฟยที่อยู่ตรงกลางและเดินเข้าไปด้านใน
ที่นี่เป็นคฤหาสน์และไม่มีร่องรอยของผู้คนเลยแม้แต่น้อย
แท้จริงแล้วคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ตายหมดแล้ว หลังจากที่พวกเย้นโม่หลินก็ถูกซุ่มโจมตี
กล้องวงจรปิดก็ถูกทำลายไปจนหมด
ของที่มีค่าพอที่หาเจอในสถานที่เกิดเหตุคือชิ้นส่วนเสื้อผ้าเล็กๆ ของเย้นโม่หลินซึ่งดูเหมือนจะขาดออกมาและมันเต็มไปด้วยเลือด
กู้จื่อเฟยดึงเศษผ้าแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เธอต้องเข้มแข็ง
และจะถอยไม่ได้
"เบาะแสจากที่นี่ถูกคนทำลายไปจนหมด พวกเขารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาจึงได้เอามันออกไปหมดแล้ว"
ป่ายฉีมีสีหน้าล้ำลึก "เราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ไปก่อนเถอะ"
กู้จื่อเฟยตามไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
พวกเขาไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมแต่หาสถานที่และตั้งค่ายที่พักในป่า
และเตรียมพร้อมตลอดเวลา
เมื่อเห็นพวกเขากางเต็นท์ ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็คว้าป่ายฉีไว้อย่างใจจดใจจ่อ
"ว่าไง? หรือว่ายังไม่รู้อีกว่าเย้นโม่หลินอยู่ที่ไหน? งั้นต่อไปเราจะทำยังไง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...