เธอมาส่งของ แต่กลับไม่อยาก เมื่อกี้ผลักประตูออก ก็เห็นกู้จื่อเฟยและเจิ้งเหลียงกอดอยู่ด้วยกัน
สนิทสนมกันขนาดนั้น
เจิ้งเหลียงยังพูดคำว่า ผมอยู่ที่นี่ เหมือนดังคำพูดของคนรักกัน
ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะแยกกันแล้ว บอกว่าเป็นเพราะยามวิกฤตถึงปลอบโยนเธอแบบนั้น ทว่าเธอกลับรู้ว่า สิ่งที่เจิ้งเหลียงพูดคือคำเท็จ
เขาเป็นคุณหมอที่รักษาโรคเบื่ออาหาร และจะมีการชี้นำทางด้านจิตใจ ทว่าไม่เคยปลอบโยนใครด้วยความอ่อนโยน โอบกอดผู้ป่วยขนาดนี้!
ความสนิทสนมของเขาและกู้จื่อเฟย ดูก็รู้ว่าไม่ปกติ
พอนึกคิดไปถึงเรื่องที่กู้จื่อเฟยตั้งใจปิดบังเย้นโม่หลินเรื่องที่เธอมารักษาโรคเบื่ออาหารกับเจิ้งเหลียง ก็ยิ่งรู้สึกว่า พวกเขาทั้งสองแค่ใช้นามในการรักษา และทำเรื่องไม่ดีลับหลัง......
หน้าไม่อาย
หน้าไม่อายมากๆ
ผ่านไปสักพัก อารมณ์ของกู้จื่อเฟยจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น
เจิ้งเหลียงยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางพูดว่า "คุณไม่ต้องรู้สึกกดดันมากเกินไป สถานการณ์แบบนี้ จะค่อยๆ ลดลงและดีขึ้น วันนี้หากคุณเหนื่อยแล้ว สามารถกลับไปพักผ่อนก่อนได้ พรุ่งนี้เราค่อยมาต่อ"
กู้จื่อเฟยส่ายหัว "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำต่อได้"
เจิ้งเหลียงรู้สึกแปลกใจมาก เขาเป็นคุณหมอในด้านนี้ ก็ยิ่งเข้าใจ ในตอนที่ผู้ป่วยรักษาในด้านนี้ ความกดดันและการบาดเจ็บที่หัวใจจะรับไหมมากเท่าไหร่
ครั้งแรกก็ยังเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด ปกติแล้วสถานการณ์แบบนี้ หากสามารถกลับไปพักผ่อนรอพรุ่งนี้ค่อยมา ไม่มีผู้ป่วยคนไหนปฏิเสธเลย
ยืนหยัดจะทำต่อด้วยตัวเอง กู้จื่อเฟยคือคนแรกที่เขาเจอ
รู้สึกนับถือกู้จื่อเฟย พยักหน้า "โอเค งั้นพวกเราต่อ"
......
เหนื่อยมาทั้งวัน
หลังจากที่กู้จื่อเฟยออกจาโรงพยาบาล อยู่กับเย้นโม่หลิน ยังคงมีสีหน้าที่พลังงานเต็มเปี่ยม
เย้นโม่หลินมองเธอด้วยความสุขุม จากนั้นเอนศีรษะพิงลงบนเก้าอี้
ปิดตาลง พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า "ฉันนอนสักพัก ถึงแล้วเธอเรียกฉันนะ"
"โอเค"
กู้จื่อเฟยพยักหน้าตอบรับ แล้วเห็นเย้นโม่หลินหลับตานอนไป
ไม่มีการจ้องมองของเขา รอยยิ้มที่รักษาไว้บนใบหน้าตลอดมา ในที่สุดก็ค่อยๆ ปล่อยวางลง
เธอเหนื่อยมาก
ทรมานกับฝันร้ายทั้งเย็น ถึงแม้ว่าเธอจะผ่านมาหมดแล้ว ทว่าร่างกายและพลังงาน ต่างก็เหนื่อยมาก
ทว่าเธอมาในนามว่ามานวดบำบัด ไม่สามารถเหนื่อยกลับไปได้สินะ?
ตอนแรกเธอฝืนตัวเอง ทว่าพอเย้นโม่หลินหลับไปแล้ว เธอก็ไม่ต้องแกล้งเสแสร้งอีกแล้ว
กู้จื่อเฟยก็พิงอยู่บนเก้าอี้ หลับตา แล้วนวดขมับ
เธอหลับตา รู้สึกว่ารถหยุดลง ก็รีบลืมตาขึ้น
นอกหน้าต่างรถ ก็คือโรงแรม
"พี่เย้น ถึงแล้ว"
เย้นโม่หลินจึงจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น "อื้ม" ตอบกลับ แล้วลงรถเปิดประตูให้เธอ
ท่าทางพลิ้วไหวมาก ราวกับว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้หลับเลย
กู้จื่อเฟยมีความสงสัยเล็กน้อย
เย้นโม่หลินเดินมาถึงข้างประตูรถ มองเธอแล้วพูดขึ้นว่า
"เหนื่อยแล้วเหรอ? ให้ฉันอุ้มเธอลงมาไหม?"
กู้จื่อเฟยตะลึงงัน การบริการของเย้นโม่หลินนี้ ช่างเอาใจเกินไปแล้ว
เปิดประตูให้ก็ช่างเถอะ ยังอุ้มแบบเจ้าหญิงอีกด้วย
แก้มเธอแดงกระหน่ำ จากนั้นก็ยื่นแขนออกไป "กอด"
เย้นโม่หลินยิ้มด้วยความเอ็นดู อุ้มเธอลงมาจากบนรถ
คนขับรถขับรถออกไปอย่างเงียบๆ
กู้จื่อเฟยซุกอยู่ในอ้อมกอดของเย้นโม่หลินอย่างสบาย ไม่มีความคิดที่จะลงมา
พูดขึ้นอ้อนๆ ว่า "พี่เย้น ฉันยังเหนื่อยอยู่เลย นายอุ้มฉันเข้าไปด้วยเลยสิ?"
ตามหลักการเลย ได้คืบจะเอาศอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...