บทที่ 120 ปัญหาที่เอาชีวิต
เย้นหว่านจิตใจกระสับกระส่ายราวกับจะเต้นออกมาจากหน้าอก
หากอยู่แบบนี้ต่อไป ทั้งตัวเธอต้องถูกไฟไหม้ไม่รอดแน่
เธอพยายามหันศีรษะหนีไปด้านข้างสักหน่อย “คุณโห้ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าไม่รีบ พรุ่งนี้คุณค่อยจัดการเอกสารก็ได้”
พรุ่งนี้ให้เว่ยชีช่วยเขาพลิกกระดาษ
พอดูก็มองความคิดของเย้นหว่านออก โห้หลีเฉินตอบอย่างเรียบนิ่งมาก “ยังรอใช้ทั้งหมด”
เย้นหว่าน “......”
ในเมื่อรีบร้อนขนาดนั้น ทำไมตอนเย็นยังไปกินกุ้งมังกรเล็กกับเธอได้? กินไม่อิ่มแถมยังเสียเวลาอีกด้วย
เย้นหว่านโกรธเคืองแต่ไม่กล้าพูด ได้แต่นั่งตัวแข็งบนตักของโห้หลีเฉิน กะดูเวลาพลิกเอกสารไป
เธอกลับไม่รู้ว่าตั้งแต่แรกจนจบโห้หลีเฉินไม่อ่านเนื้อหาในเอกสารสักนิด สายตาอยู่บนหน้าของเธอเสมอ อาลัยรักอย่างลึกซึ้ง
เย้นหว่านพลิกไปให้โห้หลีเฉินแบบนี้ พลิกๆ อยู่ เนื้อหาเอกสารช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ไม่นานมาก ศีรษะน้อยของเธอก็ผงกนิดหน่อย
“กึก”
ศีรษะของเธอหกคะเมนลงไปหน่อยหนึ่ง
โห้หลีเฉินตาเฉียบมือไว ฝ่ามือหนาแข็งรองไว้บนโต๊ะ ยันหน้าผากของเธอเอาไว้
จากนั้นกอดที่เอวของเธอ ให้เธอพิงมาในอกของเขา
ศีรษะพิงที่ไหล่ของโห้หลีเฉิน เย้นหว่านถูๆ เหมือนลูกแมว หาตำแหน่งที่สบายตัว แล้วหลับต่อไป
โห้หลีเฉินมองเธอที่อยู่ในอก สายตาล้ำลึก
ถ้าเธอสามารถอยู่ในอ้อมอกของเขาอย่างเชื่อฟังแบบนี้ไปตลอด......
เขาค่อยๆ ก้มหน้า ริมฝีปากบางประทับไปบนหน้าผากเธอสักนิด จากนั้นอุ้มเธอขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปทางเตียงใหญ่
......
ตอนที่เย้นหว่านลืมตาขึ้น พบปัญหาที่เอาชีวิตอย่างหนึ่งเข้า เธอนอนอยู่บนเตียงของโห้หลีเฉินอีกแล้ว
ในใจเธอแน่นขึ้น มองไปทางด้านข้างโดยจิตใต้สำนึก
เห็นเพียงหมอนด้านข้างว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่ เธอโล่งอกไปทีหนึ่ง อยากท้าวตัวลุกขึ้น กลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เหลืออยู่บนผ้าปูด้านข้าง
นี่หมายความว่าโห้หลีเฉินพึ่งลุกขึ้นไปสักพัก
เมื่อคืนพวกเขายังนอนอยู่ด้วยกันจริง อยู่บนเตียงเดียวกัน
เย้นหว่านแก้มแดงขึ้น ยื่นมือลูบขมับที่ปวดขึ้นอีกแล้ว
“ยังนึกถึงเมื่อคืนนี้เหรอ?”
เสียงทุ้มต่ำมอมเมาของชายหนุ่มดังขึ้นมาจากทางหน้าประตู โห้หลีเฉินใส่ชุดสูทอยู่ ไม่ได้ผูกเนกไท ทั่วทั้งตัวแผ่กระจายกลิ่นอายสบายๆ ออกมา
เขากึ่งพิงที่ขอบประตู น้ำเสียงเย้ายวน “ถ้าไม่อย่างนั้นให้ฉันขึ้นไปนอนกับเธออีกสักพักไหม?”
“ไม่ ไม่ต้องแล้ว”
เย้นหว่านรีบปฏิเสธ เธอกำลังนึกถึงอารมณ์เมื่อคืนอะไรที่ไหนกัน?
แม้จะมองเธอก็ไม่กล้ามองโห้หลีเฉิน ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง
ไม่นานก็อาบน้ำแต่งตัวออกมา เย้นหว่านมองเห็นโห้หลีเฉินยืนอยู่ในห้อง ในมือเขาถือเนกไทเส้นหนึ่ง เงยหน้ามองเธอแล้ว
จากนั้นยื่นเนกไทมาให้เธอแบบควรจะเป็นเช่นนั้นสุดๆ
เย้นหว่านสงสัย “ทำไม?”
“ผูก”
โห้หลีเฉินหลุดคำหนึ่งออกมาแบบง่ายดาย
เย้นหว่านอึ้งทึ่งไป สังเกตโห้หลีเฉินขึ้นลงอยู่รอบหนึ่ง
ลังเลอยู่หน่อย เธอพูดขึ้น “คือว่า......ในเมื่อคุณใส่เสื้อผ้าเองได้ เนกไทก็ควรผูกได้มั้ง”
“เสื้อผ้าใส่มือเดียวได้ เนกไทเธอเคยเห็นใครผูกมือเดียวได้?”
โห้หลีเฉินถามกลับอย่างรังเกียจ
เย้นหว่านสำลัก “ฉันไม่เคยผูกเนกไทให้ผู้ชาย ฉันจะรู้ได้ยังไง”
ประโยคนี้ โห้หลีเฉินชื่นชอบอย่างน่าประหลาด
เขาจับมือของเธอไว้ วางไว้กระดูกไหปลาร้าของเขา ทุกคำเย้ายวนด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...