อย่างที่คาดไว้ นี่คือห้องทดลองมนุษย์
ภายในกระบอกแก้วที่เย็นเฉียบแต่ละอัน ล้วนบรรจุอวัยวะของมนุษย์ หรือชิ้นส่วนร่างกาย หรือเด็กเล็กที่รูปร่างผิดปกติทั้งตัว
และบนเตียงผู้ป่วยข้างๆ ก็มีเด็กผู้หญิงที่กำลังผ่าตัดหรือผ่าตัดเสร็จสิ้นนอนอยู่
บนร่างของพวกเขา ไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกแบ่งส่วนออก
ทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ กลับถูกชำแหละ
เย้นหว่านโกรธมาก สั่นไปทั่วร่าง แม้จะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เก่งแค่ไหน ก็ทนไม่ไหวแล้ว
"แรบบิทก็ถูกทำแบบนี้แล้วงั้นหรอ?"
ห้องทดลอง ใช้เด็กทำการทดลอง ใช้ลูกสาวของเธอทำการทดลอง
เด็กหนุ่มรีบส่ายหน้า "ยังหรอก พวกเด็กๆที่อยู่บนเตียงผ่าตัดเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นคนที่ร่างกายเจ็บป่วยหรือมีข้อบกพร่องจึงถูกคัดออก ดังนั้นก็เลย..."
เด็กหนุ่มขณะพูดก็รู้สึกอึดอัด นิ่งเงียบไปสามวินาทีเต็มๆ เขาถึงจะปรับอารมณ์แล้วพูดต่อไป "เด็กที่เพิ่งมาถึง จะต้องผ่านการตรวจสอบและทดสอบต่างๆก่อน"
"ถ้างั้นตอนนี้เธอจะอยู่ที่ไหน?"
เด็กหนุ่มมองลึกเข้าไปข้างในห้องทดลอง ดวงตาของเขามืดมน "อยู่ข้างใน.."
เขาไม่คาดหวังให้แรบบิทเข้าไป แต่ว่าเกรงว่าเธอจะเข้าไปแล้ว
เย้นหว่านรีบร้อนอยากจะเดินเข้าไปข้างใน
เด็กหนุ่มกลับรีบหยุดเธอเอาไว้ "เดี๋ยวก่อน"
"ทำไม?" เย้นหว่านพูดอย่างร้อนรน เธอใกล้จะเป็นบ้าแล้ว วินาทีเดียวก็รอไม่ไหวแล้ว
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น รวบรวมความกล้าหาญอย่างมาก ถึงจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก
"มีบางเรื่อง ผมจำเป็นต้องบอกคุณให้ชัดเจน ก่อนที่คุณจะเข้าไป มิฉะนั้น คุณอาจจะยอมรับไม่ไหว"
ยอมรับไม่ไหว...
สี่คำนี้ ก็เพียงพอให้คนยอมรับไม่ไหวแล้ว
ขาทั้งสองข้างของเย้นหว่านอ่อนลง เพียงครู่เดียวก็ยืนไม่นิ่งแล้ว
โห้หลีเฉินรีบไปพยุงเธออย่างรวดเร็ว สีหน้านิ่งขรึมอย่างหนัก "รีบบอกมา"
เป็นวาสนาไม่ใช่คราวเคราะห์ ถ้าเป็นคราวเคราะห์ก็หลบไม่พ้น
เด็กหนุ่ม: "ห้องทดลองห้องนี้แค่รับผิดชอบวิจัยเท่านั้น ที่นี่มีห้องทดลองอยู่หลายห้อง และเป้าหมายการวิจัยของพวกเขา ก็คือมนุษย์พันธุ์แกร่ง"
"มนุษย์พันธุ์แกร่งก็คือร่างกายที่ผ่านการรับยา เพิ่มความแข็งแกร่งจนแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ ตั้งแต่เด็กก็จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างร่างกาย หลังจากโตขึ้น ผ่านการฝึกอีกรอบ ก็คือเครื่องจักรสังหารที่แท้จริง"
"และมนุษย์พันธุ์แกร่งชนิดนี้ เปอร์เซ็นต์ล้มเหลวสูงมาก หนึ่งร้อยคนหลังจากฉีดยาไปแล้ว เป็นไปได้ที่จะรอดแทบไม่มีแม้แต่คนเดียว ถึงจะมีชีวิตรอดมาได้ ก็จะเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก ร่างกายต้องทนรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง นิสัยใจคอก็จะเปลี่ยนเป็นเย็นชาไร้ความรู้สึก หงุดหงิดอยากจะฆ่าคนตลอดเวลา"
เย้นหว่านหน้าซีดเหมือนกระดาษ เธออยากจะพูด แต่ว่าริมฝีปากสั่นจนส่งเสียงไม่ออก
โห้หลีเฉินกอดเธอแน่นขึ้น สายตามองเด็กหนุ่มอย่างนิ่งขรึม
"นายหมายความว่า แรบบิทอาจจะถูกพาเข้าไปฉีดยามนุษย์พันธุ์แกร่งนี่?"
เด็กหนุ่ม:"ผมก็ไม่แน่ใจว่าเวลานี้ฉีดยาไปแล้วหรือยัง..."
เย้นหว่านแทบจะบ้า
ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจว่าแรบบิทจะเป็นหรือจะตาย
เธอยินยอมรีบมาที่นี่ เพื่อให้แรบบิทถูกขังอยู่ในกรงกับพวกเด็กๆ ดีกว่าจะต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์แบบนี้
เธอขอบตาแดงก่ำ น้ำเสียงแหบพร่าราวกับกระดาษทราย
"เข้าไปเถอะ"
ยังมีเรื่องอะไรที่ตอนนี้เธอจะรับไม่ได้อีกล่ะ? เธอยอมรับมันทั้งหมดไม่ได้ไปแล้ว
เย้นหว่านจิตใจสับสน เธอมีเพียงเส้นประสาทเส้นหนึ่งที่ดึงเธอไว้ ให้เธอไปตามหาแรบบิท
เย้นหว่านเดินไปข้างหน้าอย่างรีบร้อน ทันใดนั้น ก็มีลมกระโชกแรงอย่างกะทันหัน
"ระวัง!"
โห้หลีเฉินพุ่งไปข้างหน้าทันที บังร่างของเย้นหว่านเอาไว้
เท้าข้างหนึ่งเตะเข้าบนหลังของเขาตรงๆ พละกำลังมากมายมีพลังที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ เตะเขาจนกระเด็นออกไป เขากอดเย้นหว่านไว้และกระแทกลงบนผนัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...