หญิงสาวจ้องไปยังป่ายฉีอย่างเย็นชาและดื้อรั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาฆ่า
คนตรงหน้านี้ นอกจากจะเป็นครูผู้ฝึกแล้ว เธอแล้วยังเป็นคนที่อยากฆ่าที่สุดด้วย
เธอไม่สนใจอาการบาดเจ็บและแผลเน่าเปื่อยทั่วตัวเลยแม้แต่น้อย เธอเดินด้วยความยากลำบากและมุ่งไปหาเขาอย่างแน่วแน่
ในมือของเธอถือกริช กำลังจะปลิดชีพเขาด้วยท่าทีโหดเหี้ยม
ท่าทางดุร้าย
จิตสังหารแผ่ซ่านออกมา
เพราะการปรากฏตัวของเธอ แม้แต่อุณหภูมิรอบ ๆ ก็แทบจะลดลงหลายองศาจนเย็นยะเยือกตามไปด้วย
ป่ายฉีเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ มาถึงทางตันแล้ว ไม่ใช่เธอตาย ก็เขาที่สิ้นชีพ
ชั่วพริบตาที่หญิงสาวโจมตี ป่ายฉีก็กระโจนไปเข้าไปเช่นกัน ทั้งสองประมือกัน....
เสียง "เคร้ง" ดังขึ้น กริชในมือของหญิงสาวหล่นลงกับพื้น เธอยืนโซเซ มุมปากซึมเลือด ร่างกายโงนเงน
การต่อสู้เมื่อครู่นี้ การตอบสนองของเธอช้ามาก เรียกได้ว่าถูกป่ายฉีเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว
อาวุธตกไปแล้ว ก็ยังกำหมัด
ด้วยพละกำลังมหาศาลและศักดิ์ศรีที่ดื้อรั้นของเธอ ถึงได้อดทนยืนอยู่โดยไม่ล้มลงได้
ป่ายฉียืนห่างออกไปสองเมตร สีหน้าเอาจริงเอาจังเปลี่ยนเป็นสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นในวินาทีถัดมา
มุมปากของเขายกสูง คิ้วเลิกโค้ง ลำพองอย่างเต็มที่
"เธอสู้ฉันไม่ได้แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ!"
เสียงหัวเราะอวดดีน่ารำคาญดังอยู่เต็มรูหู ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด สีหน้าย่ำแย่อย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้กำลังแย่จนเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่ามันแตกต่างกับป่ายฉีมากขนาดนี้!
เธอสู้เขาไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?
ไม่! ไม่!
ถึงเธอตายก็ต้องลากเขาลงนรกไปด้วย เธอจะต้องฆ่าไอ้สารเลวนี่ให้ได้
"ฉัน จะ ฆ่า นาย!"
ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ เธอกัดฟันแล้วพุ่งเข้าโจมตีป่ายฉีอย่างสุดชีวิต
ดังคำกล่าวที่ว่าอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า มนุษย์พันธุ์แกร่งที่บาดเจ็บก็ยังอันตรายยิ่ง
ป่ายฉีใช้ความเร็วที่ค่อนข้างสบาย ๆ ยิ่งขึ้นหลบหลีกการโจมตีของหญิงสาวได้อย่างเฉียบขาด
เขาพูดพลางยิ้มยียวน
"สาวน้อย รู้แพ้ชนะกันแล้ว เธอจะดึงดันไปทำไมกันล่ะ? เธอฆ่าฉันไม่ได้ แต่ฉันฆ่าเธอได้อย่างง่ายดาย แต่เธอโชคดีนะ ที่ได้เจอกับฉันที่หล่อเหลาใจดีขนาดนี้ มีแค่เราสองคนอยู่ในสถานที่ที่ขนาดนกก็ยังไม่เข้ามาขี้นี่ ฉันยังไม่ค่อยอยากจะรีบฆ่าเธออีก"
"ถ้าเธอก็จะไม่ฆ่าฉัน งั้นเรามาจับมือเป็นพันธมิตรกันชั่วคราวไหม?"
หญิงสาวทำหูทวนลมกับคำแนะนำของป่ายฉี เมื่อไม่มีกริชแล้ว เธอก็ซัดกำปั้นใส่เขาอย่างดุร้าย
ป่ายฉี "เฮ้อ เธอจะต้องฆ่าฉันไปให้ได้ทำไมกัน? สถานที่บ้า ๆ นี้ ไม่มีอาหารไม่มีน้ำ หรือว่า เธอจะฆ่าฉันแล้วกินเนื้อฉันประทังความหิวงั้นเหรอ?"
หมัดของหญิงสาวต่อยวืดอีกครั้ง ร่างกายซวนเซไปเล็กน้อยก่อนจะฝืนยืนอย่างมั่นคง
เธอจ้องป่ายฉีอย่างจริงจังแล้วด่าทออย่างเหลือทน
"น่าขยะแขยง! นายต่างหากล่ะที่จะกินเนื้อคนลง"
เมื่อเห็นเธอยอมพูดแล้ว แววตาของป่ายฉีก็ฉายแววหยอกล้อแล้วพูดขึ้นอีก "ในเมื่อเธอไม่คิดจะกินเนื้อฉัน งั้นหลังจากที่ฆ่าฉันแล้วเธอจะตายไปด้วยกันกับฉันที่นี่งั้นเหรอ? จิ๊ ๆ นี่เธอรักฉันแต่แรกพบไปแล้ว แล้วอยากจะตายร่วมโลงกับฉันงั้นเหรอ?"
"ฉันฆ่านายแล้ว ค่อยออกไป" หญิงสาวพูดลอดไรฟันออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าซีดขาวนั้นก็ยังไม่อาจปกปิดความเกลียดชังต่อคำว่าตายร่วมโลงได้ที่ว่า
ใครมันจะไปอยากตายลงหลุมเดียวกันกับผู้ชายไร้ยางอายน่ารังเกียจนี่กัน
ป่ายฉีเลิกคิ้ว ชี้ไปที่หน้าผาข้างหลังที่ทั้งสูงทั้งชัน "ฉันเพิ่งจะลองมาแล้ว ผานี่ปีนขึ้นไปไม่ได้ ถ้าเธอฆ่าฉัน ก็ยังต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยความอ่อนเพลีย"
ในสายตาเย็นชาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหยามเหยียด
"ฉันออกไปได้"
เธอออกไปได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...