เย้นหว่านรู้ว่าตัวเองนั้นหลับไปนานพอสมควร และประหลาดใจมากว่าชายหนุ่มให้เธอขี่หลังนานขนาดนี้ เขาไม่เหนื่อยเหรอ?"
"นี่ นายปล่อยฉันลงเถอะ"เย้นหว่านพูดขึ้น
ชายหนุ่มจึงหยุดเดิน และปล่อยเธอลงจากหลัง
หลังจากที่ลงมา เย้นหว่านถึงรู้ว่า เท้าของเธอนั้นมีคนทายาให้แล้ว อาการบวมช้ำก็ลดลงไปมาก
คิดดูแล้ว ถ้าชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนทำ ก็คงจะเป็นผู้ชายหกคนทำ
เธอรับรู้แล้ว แต่ไม่ได้กล่าวถึงมัน กลับเปลี่ยนเป็นถามขึ้นว่า "พวกคุณเคยพักหรือยัง?"
มองจากท้องฟ้า กำลังจะถึงคืนวันที่สองแล้ว
ชายหนุ่มส่ายหัว "ยังครับ คุณตื่นขึ้นมาพอดี ทุกคนพักกินอาหารก่อนไหมครับ? "
เขาถามขึ้น
ถ้าพูดถึงการเดินทาง คนที่รีบที่สุดก็คือเย้นหว่าน เธอนั้นไม่อยากหยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว มุ่งตรงไปข้างหน้าสุดชีวิต
เพราะฉะนั้น ในตอนนี้การพักสำหรับพวกเขานั้น สำคัญมาก
ดีที่ผู้ชายเหล่านี้ร่างกายถึกและแข็งแรง เดินต่อไปอีกสองสามวันโดยไม่พักไม่นอน ก็ยังทำได้
หลังจากที่เย้นหว่านตื่นจากการหลับไหล ก็เป็นกังวลเล็กน้อย เป็นห่วงว่าร่างกายของพวกเขาจะไหวไหม
เธอพยักหน้า "หยุดพักกินของเล็กน้อย แล้วนอนสักพักเถอะ"
"คุณหนูครับ ต้องกางเต็นท์ให้คุณหนูไหมครับ?"
เย้นเมิ่งถามขึ้น
พวกเขานำเต็นท์แบบทหารมาด้วย ตอนแรกนั้นเตรียมไว้ให้เย้นหว่าน ทว่า เธอหลับมาตลอดทางแล้ว คิดว่าเธอคงน่าจะยังไม่ง่วง จึงถามแบบนี้ขึ้น
เย้นหว่านส่ายหัว "ไม่ต้องแล้ว พวกนายไปพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน อีกสามชั่วโมง ค่อยออกเดินทางใหม่"
พูดจบ เย้นหว่านก็มองไปยังชายหนุ่ม
ชายหนุ่มรู้ตัวทันที "ผมยังโอเคครับ ไม่ต้องพัก ให้พวกเขาพักเถอะ ผมจะได้สอนคุณพอดี"
เย้นหว่านลังเลเล็กน้อย "ร่างกายของนายสามารถกินข้าวได้ไหม ระบบย่อยอาหารดีหรือเปล่า? อย่าฝืน เวลาแค่สามชั่วโมงฉันรอได้"
"ไม่เป็นไรครับ เดินทางแค่สองวัน เรื่องเล็กน้อยครับ"
ชายหนุ่มมองไปยังเย้นหว่านด้วยแววตาที่ลึก "ห่วงแต่คุณเถอะ ถึงแม้ว่าครั้งนี้ฉันจะรีบ แต่ว่าคุณลำบากมากแล้ว คุณทนไหวเหรอ? ความยากนี้ ไม่ต่างกับการบุกน้ำลุยไฟเลย หรือบางทีอาจจะลำบากกว่าอีก"
สีหน้าของเย้นหว่านไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
"ฉันไหว"
สองคำ หนักแน่นและมั่นคงอย่างไม่ต้องสงสัย
สำหรับเธอในตอนนี้แล้ว แม้แต่การตายก็ไม่กลัว ยังจะกลัวความลำบากอะไรอีกเหรอ?
แม้ต้องบุกน้ำลุยไฟ เธอก็จะผ่านไปให้ตาย!
......
สามวันผ่านไป
ในป่าอันเขียวชอุ่ม มีเงาเรียวราวกับละมั่งกระโดดและวิ่งอย่างรวดเร็ว พุ่งออกมาจากป่า
เธอยืนอยู่บนก้อนหินที่ยื่นออกมา เงยหน้ามองดูดวงตาที่อยู่เหนือหัว นัยน์ตาดำเข้ม แข็งแรงและเฉียบคม
เธอสวมใส่เสื้อกล้ามแนบเนื้อ สีผิวถูกแดดเผาจนคล้ายกับสีของข้าวสาลี แขนเรียวเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่เปี่ยมไปด้วยพลัง
เธอก็คือเย้นหว่าน
ผอมกว่าเมื่อก่อนเสียอีก แค่ลมพัดก็แทบจะปลิวแล้ว ทว่า ร่างเล็กๆนั้น เต็มไปด้วยพลัง
แม้วิธีลัดของชายหนุ่มจะโหด แต่ว่า ผลลัพธ์นั้นชัดเจนมาก
ความว่องไวของเธอ พละกำลัง รวมถึงร่างกาย ก็ต่างจากเมื่อก่อนมาก
แม้เส้นทางที่เดินออกจากป่านี้จะยาวไกลแค่ไหน เธอก็สามารถวิ่งได้ตลอด หยาดเหงื่อท่วมตัว ทว่า ไม่เหนื่อยจนอยากตายกับที่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...