บทที่ 124 รูดบัตรฉัน
เย้นหว่านกำลังหั่นสเต๊กของเธอเอง เห็นผู้ชายทั้งสองชนแก้วกัน สงสัยอยู่หน่อยๆ พวกเขาคุยกันเสร็จแล้วหรือเปล่า?
ความจริงกลับยืนยันว่าเย้นหว่านคิดงดงามเกินไป
โห้หลีเฉินไม่เพียงไม่ได้คุยกับบรูคเสร็จเร็วขนาดนั้น แม้กระทั่งเรื่องราวที่จะพูดคุยยังมากเป็นพิเศษ เธอทานสเต๊กชิ้นหนึ่งจนเกลี้ยง พวกเขาเหมือนยังมีไม่แนวโน้มว่าจะหยุดลงมา
เย้นหว่านนั่งนานแล้ว เริ่มรู้สึกเบื่อพอสมควร
แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เธอเกรงใจที่จะเอามือถือออกมาฆ่าเวลา
โห้หลีเฉินสังเกตเห็นเธอเข้า เข้ามาใกล้เธอเสียงเบาๆ พูดเสียงต่ำ “กินอิ่มแล้วเหรอ?”
“อืม” เย้นหว่านพยักหน้า
“ด้านล่างก็มีห้าง เธอลงไปเดินเล่นได้ รูดบัตรของฉัน”
โห้หลีเฉินยื่นแบล็กการ์ดให้เย้นหว่านไปใบหนึ่ง
เย้นหว่านจ้องการ์ดใบนี้ด้วยความตกใจ นี่เป็นแบล็กการ์ดระดับไม่จำกัด ทั้งเมืองมีเพียงสามใบ คาดไม่ถึงโห้หลีเฉินให้เธอรูดได้ตามชอบใจเลย?
เธอดีใจหน่อย รูดทั้งห้างยังสามารถทำได้
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ซื้ออะไร แค่เดินเล่นก็พอ”
ถึงแม้จะหวั่นไหว เย้นหว่านก็ผลักการ์ดกลับไปคืน
โดยเฉพาะเอาอะไรของคนอื่นเขามาก็ต้องยอมโอนอ่อนตามเขา จะว่าไปเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับโห้หลีเฉินด้วย
โห้หลีเฉินไม่ได้ฝืนบังคับเธอ เพียงกำชับด้วยเสียงต่ำ “อย่าเดินไปไกล ระวังความปลอดภัยด้วย”
“ได้”
เย้นหว่านพยักหน้าอย่างมีมารยาท หลังจากบอกลากับบรูคเสร็จ ก็เดินออกไปแล้ว
บรูคใช้สายตาที่แปลกประหลาดมองโห้หลีเฉินอยู่ตลอด เพียงแค่ช่วงเวลาทานอาหารมื้อหนึ่ง โห้หลีเฉินก็ทำให้เขาตกใจจนนับครั้งไม่ถ้วน
ตอนที่โห้หลีเฉินจัดการงานเป็นคนจริงจังมาแต่ไหนแต่ไร แต่ว่าเย็นนี้กลับไปติดตามเย้นหว่านครั้งแล้วครั้งเล่า แม้กระทั่งยังดูแลถึงอารมณ์เบื่อหน่ายของเธอด้วย
บอกว่านี่ไม่ใช่รักแท้ บรูคคงไม่เชื่อ
ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปออกมา มองโห้หลีเฉินอย่างจริงจัง “คุณโห้ ตอนแต่งงานเชิญผมไปด้วยนะ”
แต่งงาน?
สองคำนี้ฟังขึ้นมาดูรื่นหูอย่างน่าประหลาด
โห้หลีเฉินอารมณ์ไม่เลว ยกแก้วไวน์ไปทางบรูค “แน่นอน”
ออกมาจากร้านอาหาร เย้นหว่านสลายท่วงท่ากุลสตรีออกไปทันที ถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่ง
งานสังสรรค์อะไร เป็นเรื่องที่เหนื่อยหน่ายที่สุดจริงๆ เลย
เธอหยิบมือถือมาดูเวลา คาดการณ์ว่าจะกลับมาเมื่อไร จากนั้นลงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
การเดินห้างสรรพสินค้าฆ่าเวลาเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยจริงๆ เพียงแค่เย้นหว่านคาดไม่ถึงว่าจะเจอป่ายฉีที่นี่
ชั่วขณะหนึ่งที่มองเห็นเขา ภาพฉากที่เขาใช้กำลังข่มเหงเธอในคืนนั้นก็ผุดขึ้นในสมอง
เย้นหว่านหนาวสั่นไปทั้งตัว หมุนตัวจะไปโดยจิตใต้สำนึก
“เสี่ยวหว่าน”
ป่ายฉีกลับไม่ปล่อยเธอไป รีบก้าวเท้าตามเข้ามา
เย้นหว่านตกใจ ยกขาเตรียมวิ่ง สำหรับเธอแล้ว ป่ายฉีในตอนนี้ก็คือโรคจิต สัตว์ป่า
เดิมทีเธอไม่อยากจะเข้าใกล้เขาเลยสักนิด
“เสี่ยวหว่าน เธอวิ่งเลย”
ป่ายฉีกลุ้มใจอยู่บ้าง มองเห็นเขาก็จะหนี เขาเป็นเสือหรือว่าหมาป่า?
ระดับการวิ่งของเขาเร็วมาก ไม่นานก็แทรกฝูงชนมาจับเย้นหว่านไว้
เย้นหว่านแข็งทื่อไปทั้งตัว รีบดิ้นรนออกมา
“คุณปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ ไม่งั้นฉันจะร้องเรียกคนแล้ว”
เห็นเย้นหว่านทำหน้าระแวงและขัดแย้ง ป่ายฉีปวดขมับนิดหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...