"ทำไมล่ะ" ป่ายฉีถามเธอ "องค์กรถูกระเบิดไปแล้ว และทั้งทะเลทรายได้พังถล่มลงมา คนที่อยู่ข้างในต่างถูกฝังกลบ ไม่มีโอกาสรอดเลย"
"ต่อให้เจมส์พวกเขาโชคดีมีชีวิตรอดและออกมาได้ แต่ว่ารังของพวกเขาก็ไม่เหลือแล้ว อำนาจกองกำลังไม่เหลือแล้ว ไม่มีทางที่จะมาหาคุณได้อีก"
"คุณเป็นอิสระแล้วจริง ๆ"
ฟังคำพูดของป่ายฉี ใบหน้าของหานจื่อที่ยากจะมีการแสดงออกทางสีหน้า ได้แสดงท่าทางแดกดัน
แดกดันคำพูดของเขาเหล่านี้ว่าช่างน่าตลกขบขันมากแค่ไหน
ในใจของป่ายฉีราวกับกระจกใส ผ่านปฏิกิริยาการตอบสนองของหานจื่อ ก็เข้าใจถึงสาเหตุการหนักแน่นของหานจื่อ
องค์กรจะต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน และก็จะต้องกลับมาหาเธออีก
หรือไม่เธอออกจากที่นี่ บางทีก็อาจจะไปหาองค์กร ไปหาเจมส์
ขอเพียงยังมีบุคลากรสำคัญอยู่ องค์กรนี้ก็จะไม่มีทางพินาศจริง ๆ และหานจื่อก็ไม่มีทางรู้สึกอิสระ
เธอยิ่งเป็นคนที่ซื่อสัตย์ภักดี
ป่ายฉีจึงไม่ได้หวังให้เธอเอ่ยปากบอกอะไรเขาอีก เขามั่นใจว่าหานจื่อก็ไม่มีทางปริปากบอกอะไรเขาอย่างแน่นอน
แต่ เขาจะหาวิธีทำให้เธอนำทาง
ป่ายฉีเก็บอารมณ์สีหน้าทั้งหมด แล้วยิ้มตาหยีมองหานจื่อ "ผมจะพาคุณไปเจอใครบางคน"
หลายวันมานี้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรป่ายฉีสามารถลากโยงเข้ามาเกี่ยวพันกับการวิจัยทั้งหมด ครั้งที่หนึ่ง สอง สามจนนับครั้งไม่ถ้วน หานจื่อจึงไม่มีความคิดที่จะพยายามปฏิเสธอีกต่อไป
เขาบอกให้ทำอะไร เธอก็จะทำตาม
เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้น
หานจื่อทำหน้าเฉยชา ไม่พูดไม่จา เดินมุ่งตรงไปด้านนอก
ป่ายฉีจ้องมองเธอ คนที่ให้ความร่วมมือเชื่อฟังอย่างง่ายดาย กลับเป็นคนที่ทำให้เชื่องยากที่สุด
เขาพาเธอเดินไปที่ห้องของแรบบิท
เมื่อเปิดประตูห้องแล้ว ป่ายฉีก็พาเธอเดินเข้าไป ในห้องได้ตกแต่งเป็นสีชมพู สีแห่งความอบอุ่นของเด็กผู้หญิง
ป่ายฉีได้แนะนำให้กับเธอ "นี่คือห้องของแรบบิท เย้นหว่านเป็นคนตกแต่งให้กับเธอ ของแต่ละชิ้นที่อยู่ในนี้ เแสดงถึงความรักที่แม่มีต่อลูกอย่างสุดซึ้ง"
หานจื่อใบหน้าไร้ความรู้สึก
ป่ายฉีเดินเข้าไปด้านในต่อ พลางเดินพลางพูด
"เดิมทีที่นี่เป็นบ้านที่มีความสุขอบอุ่น มีความรักที่อ่อนโยนจากผู้เป็นแม่ มีความฉลาดของลูกสาวตัวน้อย แต่......"
ป่ายฉีได้หยุดชะงัก สายตามองไปทางหานจื่ออย่างลุ่มลึก และก็ไม่ได้พูดต่อไปอีก
เขาเดินมาถึงริมระเบียง "ครืด" เสียงของการดึงเปิดผ้าม่าน
เผยให้เห็นถึงระเบียงที่อยู่ด้านนอก
เวลานี้ที่ระเบียงมีเงาร่างเล็ก ๆ สองเงานั่งอยู่ เด็กชายนั่งอยู่บนเสื่อที่ปูไว้ กำลังเรียงตัวต่อด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
เด็กสาวนั้นกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ และกำลังมองออกไปด้านนอก แต่เมื่อมองดี ๆ แววตาของเธอไม่มีชีวิตชีวา ดูมืดมน แม้แต่การกะพริบตาก็ยังช้า เหมือนกับว่าเป็นเพียงการเคลื่อนไหวสรีระร่างกายเท่านั้น
หานจื่อแค่แวบแรกก็มองออกว่าเด็กสาวน้อยคนนี้มีปัญหา
"หนูหยูเซิงคลอดออกมาก็เป็นออทิสติก ไม่ชอบคลุกคลีกับคนอื่น จมปลักอยู่กับโลกของตัวเองอย่างเดียวดาย ก่อนหน้านี้ หลังจากที่พ่อแม่และน้องสาวมาแล้ว เขาได้เปิดโลกของเขาออกมาเล็กน้อย เขาเริ่มยอมรับน้องสาว และเริ่มเตรียมตัวที่จะเดินเข้าสู่โลกใบนี้"
"แต่......" ป่ายฉีกำหมัดแน่นขึ้น "องค์กรของพวกคุณมาลักพาตัวเด็กสองคนนี้ไป ระหว่างทางทำร้ายหยูเซิงสารพัด ทำให้เจ็บปวด ทำให้ตัวเขาที่เตรียมพร้อมจะก้าวออกมายอมรับโลกใบนี้เกิดความตกใจกลัวจนหดกลับไป"
"หลังจากที่ช่วยเหลือออกมา หยูเซิงก็ยิ่งเก็บตัวเงียบ แม้แต่จิตแพทย์ที่ดีที่สุดก็จนปัญญา เด็กคนนี้บางทีอาจจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...