อีกคนกระซิบพูด "ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยังหน้าด้านอยู่ได้อีก"
"ใครจะไปรู้ล่ะ ยังไงซะ ฉันก็คิดว่าพฤติกรรมของเธอในตอนนี้มันไร้ยางอายที่สุดเลย"
เลขาคนทั้งสี่ซุบซิบนินทา ส่วนอีกสองคนยืนนิ่งไม่พูดอะไร และไม่แสดงความคิดเห็น
พอเห็นเลขาเจียงเดินออกไป เย้นหว่านก็วางส้อมลง แล้วตั้งใจจะลุกขึ้นยืน
แต่ทันทีที่เธอเคลื่อนไหว โห้หลีเฉินก็ดึงเธอกลับลงมาอีกครั้ง
เย้นหว่านหันศีรษะมองมาที่เขา "ฉันจะไปแล้ว อย่ามาเล่น ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ค่ะ"
"ที่รักครับ คุณใช้งานผมเสร็จจะทิ้งไปแบบนี้ไม่ได้นะครับ มันไม่มีความรับผิดชอบไปหน่อยหรือเปล่า?" โห้หลีเฉินบ่น
เย้นหว่านมองเขานิ่ง "แล้วคุณต้องการอะไร"
"ผมอยากให้กำไรหรือดอกเบี้ยสักนิดก็ยังดี"
"กำไรอะไร" เย้นหว่านเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ
คิดไม่ถึง ว่าจะติดกับดักของโห้หลีเฉินเข้า
มุมปากของเขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาเธอทันที "กำไรนี้ไงครับ"
พอพูดจบ ริมฝีปากของเขาก็กดจูบที่ริมฝีปากบางของเย้นหว่าน
"อื้อ!"
เย้นหว่านตกใจแล้วผลักเขาออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่แขนของเขาเหมือนเหล็กหนีบที่รัดเธอไว้แน่น ทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวได้
จูบของเขาเป็นเหมือนพายุที่รุนแรง มันบดจูบอย่างดุเดือด สักพัก เธอก็ตัวอ่อนจนมึนงงไปหมด
ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน หรืออาจจะนานหลายศตวรรษแล้ว ในที่สุดโห้หลีเฉินก็ยอมปล่อยเธอออกอย่างไม่เต็มใจ
เย้นหว่านรู้สึกเจ็บที่ริมฝีปากของเธอเล็กน้อย
เย้นหว่านหน้าแดง ทั้งอายทั้งโมโห "โห้หลีเฉิน คุณนี่มัน..."
"มันอะไรครับ?" โห้หลีเฉินมองเธอด้วยรอยยิ้ม ระยะห่างใกล้มาก ตอนที่เขาพูดไอร้อนก็กระทบใบหน้าของเธอ
เธอสามารถมองเห็นแสงไฟที่แผดเผาในดวงตาของเธอ
แววตาแบบนั้น เธอคุ้นเคยที่สุด ทุกครั้งที่เขามองด้วยสายตาแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ตอนนี้ มันทำไม่ได้แล้ว
เพื่อความปลอดภัย เย้นหว่านจะไม่ทำต่อเด็ดขาด เธอพยายามจะดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนของเขา แล้วถอยห่าง และรักษาระยะห่างกับเขาไว้
"ฉันยังไม่ยกโทษให้คุณ คุณห้ามกอดห้ามจูบฉันแบบนี้อีก"
ไม่อย่างนั้น บทลงโทษที่เธอจะไร้ประโยชน์ คงจะไม่สำคัญอะไรมาก
โห้หลีเฉินยิ้มเจ้าเล่ห์ "ที่รักครับ เมื่อตะกี้ผมแค่ขอกำไรเท่านั้นเอง"
แสร้งทำเป็นรักกัน ก็เพื่อหน้าตาของเขา ไม่ได้กำไรตรงไหนกัน? ทำไมคุณถึงยังจะขอกำไรจากเธออีก?
เย้นหว่านถูกเขาเล่นอุบายใส่ พอได้สติหลับมา เขาก็โกรธกับความไร้ยางอายของเขามาก
"ฮึ!"
เธอส่งเสียงด้วยต่อต้าน แล้วถอยหลังหนีจากเขา
โห้หลีเฉินมองไปทางด้านหลังของเธอ แล้วเรียกเธอด้วยรอยยิ้ม "ที่รักครับ คุณเลขาเย้น ถาดของคุณยังไม่ได้เก็บไปเลย"
ยังกินไม่หมด จะเก็บได้ยังไง?
เย้นหว่านเพิ่งทิ้งคำพูดโอ้อวดไว้ข้างนอก ว่าเธอเอาอะไรให้โห้หลีเฉินก็จะกิน แล้วเธอจะเอาถาดขนมที่ยังเหลือออกไปได้ยังไงกัน
แต่ถ้าอยู่รอดูโห้หลีเฉินกินต่อไป เธอก็ทนไม่ไหว
พอคิดได้แล้ว เธอก็พูดโดยไม่หันกลับมามอง "หลังจากกินเสร็จ ให้ใส่จานในชั้นเก็บของก็แล้วกันค่ะ"
โห้หลีเฉิน "..." คนฉลาดอย่างเขาเอง ยังไม่รู้จะตอบยังไงไปขั่วคราว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...