แต่เธอทำไม่ได้
ตอนนี้เธอไม่ใช่แค่กลับบ้าน ไม่ใช่แค่กำลังมีความรัก แต่กำลังอยู่ในสนามรบ กำลังทำสงคราม
สักพัก เย้นหว่านจึงควบคุมตัวเองได้ จากนั้นโทรหาใครบางคน
เธอเปลี่ยนเบอร์ใหม่ สายติดต่อออกไปเนิ่นนานกว่าจะมีคนรับ
ในสายมีเสียงเย็นชาน่าฟังของชายหนุ่มดังขึ้น "คุณเป็นใคร"
"ป่ายฉี ฉันเอง" น้ำเสียงของเย้นหว่านนั้นเบาและอ่อนโยน
คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศเงียบนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้น เสียงตะโกนก้องเสียดหูก็ดังเข้ามา
"เสี่ยวหว่าน นั่นคุณใช่ไหม"
เย้นหว่านถือโทรศัพท์ ในหัวนั้นเห็นภาพท่าทางกระโดดโลดเต้นดีใจของป่ายฉี มุมปากอดไม่ได้ยกยิ้มขึ้นมา
เวลาผ่านไปกว่าสามปี ในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงเขาด้วยตัวเอง ติดต่อกับเขาได้แล้ว
รอยยิ้มงดงามปรากฏบนใบหน้าของเธอ ในรอยยิ้มนั้น มีหยดน้ำตาที่กั้นเอาไว้ไม่อยู่ "ฉันเอง ฉันกลับมาแล้ว"
"สวรรค์ ในที่สุดคุณก็ติดต่อผมมาแล้ว คุณไม่รู้ว่าผมคอยดูข่าวเมืองหนานอยู่ตลอด รู้ว่าคุณกลับมาแล้ว แทบอดไม่ได้ที่จะขับเครื่องบินไปหาคุณ"
แทบอดไม่ได้ที่จะมาหาเธอ แต่ก็ไม่มา
มีเรื่องราวและข่าวสารมากมาย
เย้นหว่านปวดใจขึ้นมา แม้ตลอดสามปีนี้เธอจะไม่อยู่ แต่เธอรู้ดี ตระกูลเย้น ป่ายฉี ลำบากเพราะเธอมามาก
เมื่อวานเธอทำลายการเซ็นสัญญาของโห้หลีเฉิน คนรู้ไปทั้งโลก ป่ายฉีเองก็คงรู้ว่าเธอกลับมาแล้ว
เที่ยงวันนี้ยังมากินข้าวอย่างยิ่งใหญ่ ทำไมพวกเขาจะไม่รู้
หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงมาถึงเห็นที่สุด แต่ตอนนี้ กระทั่งคิดถึงเธอจะจะเป็นบ้าแต่ก็ไม่มา
เย้นหว่านเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ พยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง "ป่ายฉี ฉันโทรมาหาคุณ มีเรื่องสำคัญต้องบอก คุณฟังฉันให้จบ ทำตามที่ฉันบอก เรื่องที่ฉันติดต่อคุณ อย่าพึ่งบอกพี่ชายของฉัน คุณมาหาฉันที่เมืองหนาน ฉันจะรอคุณ"
"ผมเหรอ" ป่ายฉีแปลกใจ "ทำไมแม้กระทั่งเรื่องที่คุณติดต่อผมมาก็บอกพวกเขาไม่ได้ล่ะ"
"แต่อย่าพึ่งบอกตอนนี้เพียงเท่านั้น เรื่องอื่น คุณมาถึงแล้วฉันจะคุยต่อหน้า"
ป่ายฉีนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยถาม "เสี่ยวหว่าน หากไม่มั่นใจว่าเป็นเสียงของคุณ ฉันคงคิดว่ากำลังมีคนปลอมตัวเป็นคุณ หลอกผมไปเมืองหนานแล้วกักขังผมเอาไว้"
เย้นหว่านหัวเราะ "เพราะรู้ว่าคุณแค่ฟังเสียงก็รู้ว่าจริงหรือปลอม ฉันถึงได้ติดต่อคุณไง รู้ว่าตัวเองมีความสามารถ โชคดีหรือเปล่า"
"โชคดีสิ โชคดี ผมดีใจเป็นบ้าเลย ในที่สุดก็ได้ยินเสียงของคุณแล้ว"
ป่ายฉีอารมณ์ดี ฟังแล้วเหมือนกำลังเคลื่อนไหว "ฉันจะไปขับเครื่องบินตอนนี้ ไม่นานก็ถึงเมืองหนาน โชคดีที่ผมเผื่อใจ ยังไม่กลับบ้าน กำลัง..."
"อย่าพึ่งพูดเลย"
เยี่ยนหว่านเอ่ยขัดคำพูดของป่ายฉี "คุณมาแล้วโทรหาฉันก็พอ อย่างอื่นอย่าพึ่งพูด"
ป่ายฉีเงียบไปชั่วครู่ คล้ายกำลังนึกอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นบอกเสียงเรียบ
"ได้ รอผมนะ" ชะงักไปชั่วครู่ เขาจึงกำชับ "เสี่ยวหว่าน ดูแลตัวเองให้ดี คุณเป็นองค์หญิงของตระกูลเย้น สำคัญกว่าใครทั้งนั้น เพื่อคุณตระกูลเย้นยอมแลกทุกอย่าง"
"อืม"
เย้นหว่านวางสาย
เธอมองหน้าจอโทรศัพท์เหม่อลอย น้ำตากลิ้งไปมาอยู่ที่ขอบตา
เธอไม่ให้ป่ายฉีพูด เพื่อเตือนว่าโทรศัพท์ของเธออาจถูกดักฟัง ดังนั้นประโยคสุดท้ายของป่ายฉี เพื่อบอกกับเธอ และเตือนคุณที่กำลังดักฟัง
เตือนพวกเขา หากแตะต้องเธอ ตระกูลเย้นจะทำทุกทางเพื่อเอาคืนแน่
เมื่อนัดหมายกับป่ายฉีแล้ว เยี่ยนหว่านจึงกลับมาที่ห้องเลขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...