ตอน บทที่ 1301 ชุดว่ายน้ำ จาก สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1301 ชุดว่ายน้ำ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ที่เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
"พวก พวกเรารีบไปเล่นที่ชายหาดกันเถอะ ไปไปไป ไปกันเถอะ"
เย้นหว่านตกตะลึงจนไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปข้างใน เธอหันหลังและวิ่งออกไปข้างนอกทันที
โห้หลีเฉินยืนถือกระเป๋าเดินทางอยู่ที่หน้าประตู เขาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเธอ สายตาของเขาดูเศร้าและทำอะไรไม่ถูก จากนั้น เขาก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู
"ช้าหน่อย รอผมด้วย"
เขาตะโกนออกไป ก่อนจะรีบเปิดกระเป๋าเดินทางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบเอาสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้
เย้นหว่านไม่กล้าที่จะรอเขา เสียงของข้างห้องเมื่อครู่นี้มันน่าตื่นเต้นมาก เธอรู้สึกว่าแก้มของเธอร้อนและแดงมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้สึกว่าสายตาของโห้หลีเฉินนั้นเป็นสายตาที่อันตรายมากๆ
ชายหนุ่มที่ถูกกระตุ้น เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เธอเข้าใจเรื่องนี้มากที่สุด แน่นอนว่าเธอจะต้องรีบหลบซ่อนก่อนเป็นอันดับแรก
เย้นหว่านรีบวิ่งลงไปที่ชั้นล่าง จากนั้นเธอก็ไปที่ชายหาด
เธอยืนอาบแดด บนผืนทรายที่นุ่มสบาย และมองดูผู้คนที่สวมใส่บิกินี่บนชายหาด ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเธอจะวิ่งออกมา โดยที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลย
อย่าว่าแต่ครีมกันแดดเลย แม้แต่บิกินี่เธอก็ไม่ได้เอามาด้วย ซึ่งชุดยังคงอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่โรงแรมอยู่เลย
กลับไปเอาตอนนี้เลยไหม?
ทันทีที่เธอหันหลังกลับ ในหัวสมองเธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพนั้น จากนั้นเธอก็ตัวสั่น และเธอก็หันหลังกลับมาที่เดิม
ช่างมันเถอะ ตอนนี้สถานที่ที่อันตรายที่สุด คงจะเป็นในโรงแรม
ไม่มีบิกินี่ก็ไม่เป็นอะไร เธอเดินเล่นบนชายหาด และรู้อิจฉามาก...
เดินไปไม่กี่ก้าว เย้นหว่านก็ได้ยินเสียงผิวปาก
เธอไม่ได้สนใจอะไร เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่เสียงผิวปากก็ยังคงดำเนินต่อไป และก็มีเสียงหลายเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกัน
"เฮ้ คนสวย มานี่สิ"
ชายคนหนึ่งกำลังพูดจาด้วยท่าทีที่ไม่ให้เกียรติ
เย้นหว่านเมินใส่เขา เธอเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่จากนั้น ก็มีชายหนุ่มสามคนที่ใส่แค่กางเกงว่ายน้ำวิ่งมาตรงหน้าเธอ และบังเธอไว้
พวกเขาย้อมผมสีทอง บนร่างกายก็มีรอยสักรูปมังกรและงูมากมาย พวกเขามีรูปร่างที่แข็งแกร่งและเต็มไปท่าทีของอันธพาล
"คนสวย มาเดินเล่นที่ทะเลคนเดียวเหรอ เหงาแย่เลย ไปเล่นกับพวกพี่ไหมล่ะ"
เย้นหว่านรู้สึกตึงเครียด เธอเพิ่งมาที่ชายหาด ยังไม่ทันได้แตะน้ำทะเลเลย แต่ก็ต้องมาเจอกับพวกอันธพาลแล้วเหรอ?
ตอนที่ออกจากบ้านคงจะไม่ได้ดูฤกษ์ ถึงได้ซวยขนาดนี้
เธอพูดด้วยใบหน้าเย็นชา "ไม่สนใจ หลบไปให้พ้น"
"โห เป็นสาวน้อยที่โมโหเป็นด้วย พี่ชอบแบบน้องที่สุดเลย"
ชายหนุ่มผมทองยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ ก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเย้นหว่าน
เย้นหว่านก้าวถอยหลัง และหลบหลีกพวกเขา
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพูดเย้ยหยันอย่างทนไม่ไหว "ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย หลบไปให้พ้น"
"ไม่ว่าน้องจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายอีกกี่ครั้ง มันก็เหมือนเดิม วันนี้พี่ถูกชะตากับน้อง และอยากจะไปเล่นกับน้อง"
ชายผมทองทั้งสามคนล้อมเย้นหว่านไว้ จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปจับเธอ
โห้หลีเฉินที่เพิ่งเดินไปถึงตรงชายหาด เขาก็เห็นกับภาพนี้
รอบตัวเขาก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่แผ่ออกมา
รนหาที่ตาย!
เขาวิ่งเข้าไปด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ จากนั้น วินาทีต่อมา ฝีเท้าของเขาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน
เขามองไปด้วยความตกตะลึง ภรรยาตัวน้อยของเขานั้นจับมือของชายผมทองไว้ ก่อนจะหักข้อมือของชายคนนั้น และก็เตะพวกเขาทีละคน จนพวกเขาล้มลงไปอยู่บนพื้น
ท่าทีของเธอดูชำนาญมากๆ และก็ดูโหดเหี้ยมมากๆ
โห้หลีเฉินอดไม่ได้ที่ยิ้มออกมา ต่อมาเขาก็เชื่อแล้วว่า ในงานเลี้ยงคืนนั้นของฟีเจ๊กมอน เย้นหว่านไม่ได้แอบโจมตีเด็กหนุ่มคนนั้น จนกลายเป็นสภาพนั้น แต่เธอโจมตีอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา
เธอดุร้ายขนาดนี้ ใครที่เข้ามายั่วยุก็คงรนหาที่ตาย
ดังนั้น โห้หลีเฉินก็เลยไม่รีบร้อน เขาใส่รองเท้าแตะแบบหนีบเดินอยู่บนทราย เขาเดินไปทางเย้นหว่านอย่างช้าๆ
ชายผมทองทั้งสามถูกทุบตีจนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระดูกหักตรงไหนหรือเปล่า พวกเขาพยุงกันและกัน ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นอย่างยากลำบาก
เมื่อมองไปยังเย้นหว่าน ก็เหมือนกำลังมองนางมารร้าย
โห้หลีเฉินกำลังจะเดินเข้าไป
เย้นหว่านรีบหยุดเขาอย่างรวดเร็ว "คุณจะทำอะไร"
"เข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าไง" โห้หลีเฉินพูดอย่างมั่นใจ โดยที่ไม่มีการเขินอายใดๆ และเขาก็ไม่สนใจด้วยว่านี่คือห้องแต่งตัวส่วนตัว
ใบหน้าของเย้นหว่านแดงขึ้นมาทันที "ฉันเปลี่ยนคุณก่อนแล้วคุณค่อยเปลี่ยน คนสองคนเบียดอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าคนข้างนอกเห็นเข้าคงจะน่าอายแย่"
ที่สำคัญ เธอไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้ากับโห้หลีเฉิน และยิ่งอยู่ในพื้นที่เล็กๆ แคบๆ แบบนี้ด้วย
"ไม่เป็นไร ไม่มีใครเห็นหรอก"
โห้หลีเฉินดันเปิดประตูโดยไม่สนใจอะไร เขาเข้าไปข้างใน
จากนั้น เขาก็หันหลังและล็อกประตูจากด้านใน
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามีขนาดเล็กอยู่แล้ว เมื่อมีร่างสูงใหญ่ของโห้หลีเฉินเข้ามาอยู่ด้วย มันทำให้ในนี้แคบลงกว่าเดิมมากๆ
เย้นหว่านถอยหลังจนติดอยู่กับผนังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า "ในนี้แคบเกินไป คุณเปลี่ยนก่อนก็ได้ ฉันจะออกไปรอคุณข้างนอก"
เย้นหว่านพยายามหลีกเลี่ยงโห้หลีเฉิน โดยการออกไปข้างนอก จากนั้น เธอก้าวเพียงสองก้าว โห้หลีเฉินก้าวไปด้านข้างเพียงก้าวเดียว เขาก็บังตัวเธอจนมิด
มุมปากของเขาเต็มไปด้วยความขี้เล่น เขาก้มศีรษะลง และใบหน้าที่หล่อเหลานั้นก็เอนมาข้างหน้าเธอในทันใด
ไอร้อนเวลาที่เขาพูด มันกระทบลงบนใบหน้าเธอเรื่อยๆ "คุณภรรยา เปลี่ยนเสื้อผ้ากับผมเถอะ คุณกำลังกลัวอะไรอยู่?"
กลัวอะไร?
เย้นหว่านกัดฟัน นี่เขาจะยังไม่รู้อีกเหรอ?
คนเลว
"ก็แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันก็เท่านั้นเอง คุณทำอะไรฉันในนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ฉันจะไปกลัวอะไรได้ล่ะ"
เย้นหว่านพูดออกไปด้วยความกล้า
เธอจงใจใช้วิธีการเชิงรุก เพื่อป้องกันไม่ให้โห้หลีเฉินคิดที่จะทำอย่างอื่น
โห้หลีเฉินพยักหน้า "คิดแบบนี้ถูกแล้ว มานี่สิ คุณภรรยา ผมช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...