ปิดผนึกริมฝีปากของเธอด้วยรอยจูบ
โห้หลีเฉินจูบอย่างเผด็จการมาก เหมือนกับว่าเป็นจอมโจร ทั้งดุร้ายทั้งรุนแรงรวดเร็ว เหมือนกับแยกออกเป็นชิ้นๆและกลืนลงท้องไป
พระเจ้ารู้ดีว่าเขาตกใจแค่ไหนมาทั้งวัน และเขาก็แทบบ้าเมื่อหาเขาไม่พบ
เขานึกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังกระโดดออกมาจากกำแพงแล้ว แล้วก็จับเย้นหว่านไป เขาจับตัวเก่อหรูซวนมาด้วยความโกรธจัด ฉีกหน้ากากของตัวเองออกแล้วก็บีบถามเธอ
เธอถึงได้ยอมพูดว่าเย้นหว่านหายไปเอง
แต่ว่าเขาก็ไม่เชื่อ พร้อมกลับไปหาคนนั้น โยนคำพูดที่ไร้ความปราณีออกไป และความสัมพันธ์ที่ร่วมมือกันที่เปราะบางอยู่แล้ว ก็ทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น
เขาแม้แต่ยอมยกสิทธิ์ของตัวเองขึ้น แล้วก็ฮุบรับบริษัท ตี้เหา จำกัดไป
ตอนนี้ตำแหน่งประธานของโห้หลีเฉิน มันเกือบตายจะเป็นฉันที่ว่างเปล่า ไม่มีอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือเขาเลย
โชคดี ที่เย้นหว่านไม่ได้เป็นอะไร
ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเป็นบ้าไปแล้ว คงจะฆ่าเก่อหรูซวนโดยที่ไม่สนใจอะไร แล้วก็บุกเข้าไปในองค์กร
จูบนั้นเปื้อนเลือด และทำให้ริมฝีปากเจ็บปวด แต่ว่าเย้นหว่านกลับรูปเหมือนกับปีศาจ เธอยื่นมือไปกอดเขาไว้
ทั้งร่างกายของเธอแนบอยู่ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินตอบสนองเขาให้ดีที่สุด แม้กระทั่งพยายามยึดตำแหน่งโจมตีหลัก
การที่เย้นหว่านทำตัวเหมือนก้านไม้แห้งในกองไฟแบบนี้ ทำให้โห้หลีเฉินไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไป เขาเป็นบ้ายิ่งกว่าเดิม
จูบนั้นรุนแรงและยาวนาน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ก่อนที่อีกคนจะปล่อยออกอย่างหมดแรง
เย้นหว่านตกอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาที่ชัดเจน
"คุณโห้ ไปส่งฉันที่อาคารส้ายน่าเถอะ"
เธอไม่อยากจะอยู่ที่บริษัท อยากจะกลับบ้าน โห้หลีเฉินก็ต้องตกลงอยู่แล้ว
เขารีบออกคำสั่งกับคนขับรถในทันที แล้วก็เปลี่ยนทิศทาง
พอมาถึงอาคารส้ายน่า เย้นหว่านก็เว้าวอนให้โห้หลีเฉินไปส่งเธอเข้าไปข้างใน
เพราะว่าเวลาล่าช้ามานานแล้ว จะขาดไปอีกไม่กี่นาทีก็มีค่าเท่ากัน โห้หลีเฉินก็เลยไปส่งเธอข้างใน
หลังจากนั้น พอเข้าประตูไป เย้นหว่านก็ปิดประตู แล้วก็พุ่งเข้าไปหาโห้หลีเฉิน กดเขาที่แผงประตู ยืนเขย่งปลายเท้าและจูบริมฝีปากของเขา.
เธอจูบอย่างบ้าคลั่งดุจไฟ
โห้หลีเฉินปฏิเสธลงที่ไหนกัน เขากอดตอบโต้เธอ แล้วก็ยกระดับการจุดขึ้น
ราวกับว่ามีไฟไหม้ในห้องโถง
เสื้อผ้าแต่ละชิ้นถูกถอดออก
เมื่อเธอสัมผัสถึงความนุ่มนวลของเธอ โห้หลีเฉินโอ้โหยหาอย่างสุดซึ้ง แต่ในชั่วพริบตาเขาก็ฟื้นคืนสติได้
เขาผลักเธอออก น้ำเสียงแหบแห้งเป็นอย่างมาก
"เย้นหว่าน ตอนนี้ไม่ได้ ฉันต้องกลับไปจัดการธุระที่ทำงาน"
ถ้าเกิดว่าปล่อยให้ล่าช้าอีกต่อไป เรื่องหลายอย่างปลาทูไปให้ล่าช้าออกไป คนในองค์กรก็จะยิ่งหงุดหงิดเขามากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าคืนนี้เขาไม่กลับไป อำนาจของเขาทั้งหมดต้องถูกลิดรอนอย่างแน่นอน
ถ้าถึงเวลานั้น เมื่อเขาหมดประโยชน์แล้ว ก็ต้องถูกจับเป็นเชลย
เรื่องราวมันก็จะเปลี่ยนไปกลายเป็นแย่ขึ้น
"ฉันยอมมอบตัวเองขนาดนี้แล้ว แต่ว่านายกลับปฏิเสธ คุณโห้ นายยังรักฉันอยู่ไหม?"
น้ำเสียงของเย้นหว่านนั้นออดอ้อนเป็นอย่างมาก
ร่างกายที่อ่อนนุ่มและไร้กระดูกของเธอยังคงเกาะติดกับร่างกายของโห้หลีเฉิน นิ้วของเธอก็จุดไฟทุกที่
ไฟที่ชายคนนั้นไม่สามารถระงับได้นั้นถูกทำให้แรงขึ้น
เขาหายใจแรงมาก ร่างกายแน่นตึง พระเจ้ารู้ดีว่าเขาใช้พลังใจมากแค่ไหนในการยับยั้งเอาไว้ในที่สุด
เขากัดฟันแน่น "เย้นหว่าน เธอจะมาใช้วิธีนี้ในการหยุดยั้งไม่ให้ฉันไปทำงานไม่ได้นะ ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเรื่องของบริษัท ฉันไม่มีทางถอยให้แน่นอน"
ความกระตือรือร้นของเย้นหว่านเหมือนกับว่าถูกเทลงในแอ่งน้ำเย็น แล้วเธอก็หงุดหงิดขึ้นมาในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...