เย้นหว่านรู้สึกอบอุ่นใจ จากนั้นก็ยิ้มและพยักหน้า "รู้แล้วน่า ที่จริงฉันก็ไม่ชอบสู้เท่าไหร่หรอก ถ้าเลี่ยงได้ฉันก็ไม่พุ่งเข้าหาปัญหาหรอกนะ นี่ยังมีคนบื้อที่ยอมทำทุกอย่าง รู้ทั้งรู้ว่ารักษาแบบนี้จะต้องเจ็บแขนไปตลอดชีวิตก็ยังจะพุ่งเข้าไป วางใจได้ ฉันไม่โง่เหมือนเขาหรอก"
ป่ายฉีโกรธจนหน้าดำหน้าแดง "พวกเธอสองคนน่ะสิบ้า กล้านินทาว่าร้ายซึ่งๆหน้ากันเลยเหรอ คิดว่าฉันเจ็บแขนแล้วจะไม่กล้าทำอะไรพวกเธอใช่ไหม?"
เย้นหว่านหน้าซีด แล้วรีบฟ้องพี่ชายตัวเอง "พี่คะ ป่ายฉีจะทำร้ายฉัน"
รอบตัวเย้นโม่หลินเต็มไปด้วยแรงอาฆาต เขาเดินไปข้างเตียงอย่างเร็ว แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เย้นหว่าน
สายตาเยือกเย็นที่ดุจดั่งปีศาจกำลังจ้องมองป่ายฉีอยู่ "พวกเธอออกไปก่อนเลย ฉันจัดการเจ้าหมอนี่เอง"
"รับทราบค่ะ พี่ชาย"
เย้นหว่านถือโทรศัพท์แล้วรีบเดินออกไปทันที
ด้านหลังของเธอมีเสียงร้องโอดครวญของป่ายฉีดังขึ้น
"โอ๊ย! เจ็บๆๆ!"
"นี่ เบาหน่อยๆ ฉันเป็นคนป่วยนะ ผู้ป่วยน่ะรู้จักไหม โอ๊ย......เจ็บ......"
"ฉันไม่กล้าแล้ว ฉันไม่กล้าอีกแล้ว......บอกว่าไม่กล้าอีกแล้วไง......โอ๊ย......."
ได้ยินเสียงร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด ทางกู้จื่อเฟยก็หัวเราะจนหยุดไม่อยู่
เย้นหว่านมองดูท่าทางเธอแบบนั้น ปกติคงรังแกป่ายฉีบ่อยมากเลยสินะ
เย้นหว่านพูด "ป่ายฉีบาดเจ็บอยู่เลยนะ เธอไม่กลัวว่าพี่ชายฉันจะสร้างแผลใหม่ให้เขาเหรอ?"
หยอกล้อและทะเลาะกันเป็นบางครั้ง แต่ทุกคนก็คิดกับป่ายฉีเหมือนครอบครัวเดียวกัน และเป็นห่วงสุขภาพความปลอดภัยของเขาเสมอ
กู้จื่อเฟยอมยิ้ม "เธอวางใจได้ พี่เย้นมีประสบการณ์จัดการเขาดี ทำให้เขาเจ็บปวดและไม่สร้างบาดแผลเพิ่มอีก"
ปกติทำแบบนี้บ่อยเลยสินะ
เย้นหว่านแอบจุดเทียนและภาวนาให้ป่ายฉีในใจ เหมือนลืมเรื่องที่เมื่อกี้ตัวเองเป็นคนฟ้องพี่ชายตัวเอง
ต่อมาก็มีเสียงหัวเราะสะใจของกู้จื่อเฟยดังขึ้น
วันถัดมา พวกเขาก็เดินทางไปตามเส้นทางที่หานจื่อหนีไป
พวกเขาไม่ได้ไล่ตามไปในวันนั้นเลย เพราะกลัวว่าฝู้ยวนจะไหวตัวทันก่อน และให้หานจื่อเปลี่ยนเส้นทาง แบบนี้พวกเขาจะตามตัวฝู้ยวนได้ยากกว่าเดิม
เริ่มออกเดินทางตอนวันที่สอง ระยะทางห่างกันมาก และแบ่งกลุ่มออกไปค้นหาหลายๆกลุ่ม แม้ฝู้ยวนจะมีสายคอยจับตาดู ก็คงคิดว่าพวกเขากำลังตามหาโดยไม่มีจุดหมาย
คงไม่สงสัยว่าพวกเขากำลังไล่ตามหานจื่อ
อีกอย่างกลุ่มที่ไล่ตามไปนั้นก็ออกเดินทางเงียบๆไม่ให้เป็นจุดเด่น ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว หานจื่อไม่มีทางรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกสะกดรอยตามแน่นอน
ตอนเย็นวันที่สาม หานจื่อที่รีบเดินทางอย่างรวดเร็ว ก็มาหยุดอยู่ในหุบเขาลึก
ดูจากดาวเทียมแล้ว หุบเขานั้นยังไม่ได้รับการพัฒนา อยู่กลางหุบเขาและไร้ผู้คน
หานจื่อไปที่นั่นโดยไม่มีสาเหตุ มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น ก็คือไปหาฝู้ยวน
และแหล่งกบดานของฝู้ยวนก็อาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้
โชคดีที่ป่ายฉีติดเครื่องติดตามไว้บนตัวหานจื่อ ไม่งั้นต่อให้สายสืบของโห้หลีเฉินตามหาทั่วโลก แต่สถานที่ที่ไม่มีร่องรอยการใช้ชีวิตของมนุษย์ การจะตามหาตัวฝู้ยวน อีกสองปีก็คงหาเขาไม่เจอหรอก
แต่ตอนนี้ คอยดูเถอะฝู้ยวน
ตอนวันที่สี่ ท้องฟ้ามืดลงแล้ว กลุ่มของเย้นหว่านหยุดอยู่บนภูเขาอีกลูกที่ไกลออกจากที่อยู่ของหานจื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...