"ฉันสำรวจเส้นทางข้างหน้า ถังจุ้ยคอยระวังหลัง"
เย้นโม่หลินสั่งเสียงเบา พวกเขาเดินไปยังป่าด้านล่างอย่างระมัดระวัง ภายใต้ความมืดมิด
เครื่องติดตามแสดงว่า หานจื่ออยู่ที่นี่
โห้หลีเฉินเดินตามหลังเย้นโม่หลิน เย้นหว่านตามหลังโห้หลีเฉิน ต่อมาก็เป็นป่ายฉี เธอยืนอยู่ตรงกลาง ได้รับการคุ้มครองจากพวกเขาอย่างดี
พวกเขาเหมือนหลอมละลายไปกับความมืดมิด เดินอยู่ในป่าทึบเงียบๆ
พวกเขาระมัดระวังมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่มีทางเห็นพวกเขาได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นตรงที่ที่พวกเขาเดิน ขนาดต้นหญ้ายังไม่ขยับเลย
เย้นโม่หลินถืออุปกรณ์พิเศษไว้ สามารถสแกนกล้องวงจรหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆที่อยู่รอบข้างได้
อุปกรณ์ทุกอย่างเพียบพร้อม ยากมากที่พวกหานจื่อจะไหวตัวทัน
หลังจากลงมาถึงข้างล่างแล้ว เย้นโม่หลินก็ดูตำแหน่งบนหน้าจอที่ติดไว้ยังข้อมือ ยืนอยู่หนึ่งในที่ที่หานจื่ออยู่
เขาพูดเสียงเบาว่า: "ที่นี่แหละ เครื่องติดตามแสดงว่าหานจื่ออยู่ที่นี่ เธอน่าจะอยู่ข้างล่างนะ"
มองดูผืนหญ้าแฉะๆ เป็นเหมือนกับที่พวกเขาเดาไว้ไม่มีผิด หานจื่อหลบอยู่ใต้ดินจริงด้วย
ตอนเช้า เย้นโม่หลินก็สำรวจพื้นที่นี้ครั้งหนึ่งแล้ว และคาดเดาทางเข้าที่อาจจะเป็นไปได้
ตอนนี้ก็กำลังตรวจสอบอยู่ ไม่นานก็เจอประตูเล็กที่อยู่ใต้หน้าผา
เย้นหว่านดีใจมาก เธอมองประตูนั้นเข้าไป ด้านในมืดมาก แต่ก็เห็นบันไดในนั้นรางๆ
"ทุกคนรอฉันที่นี่ ฉันลงไปดูก่อน"
เย้นโม่หลินเข้าไปก่อน ไม่นาน แผ่นหลังกว้างของเขาก็หายไปจากประตูเล็กๆนั้น
เย้นหว่านเป็นห่วงอย่างมาก เธอจับมือโห้หลีเฉินไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
โห้หลีเฉินตบหลังมือเธอเบาๆ "วางใจได้ พี่ชายเธอเก่งจะตายไป ไม่เป็นอะไรหรอก"
เย้นหว่านพยักหน้า และยังคงมองทางเข้านั้นไม่ละสายตา
ผ่านไปสักพัก เริ่มมีเงารางๆปรากฏขึ้น เย้นโม่หลินปีนขึ้นมาแล้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย "บันไดลงไปข้างล่างเรื่อยๆ ถ้าไม่เกิดอันตรายขึ้น ด้านล่างน่าจะเป็นพื้นที่ใหญ่พอสมควร แต่ตลอดทางมีกล้องวงจรและเลเซอร์สีแดง ต้องจัดการก่อนถึงจะเข้าไปได้"
"ฉันจัดการต่อเอง"
ถังจุ้ยเอาโน้ตบุ๊กออกมาจากกระเป๋า แล้ววางไว้บนมือ
เย้นหว่านแปลกใจ "ถังจุ้ย นายแฮ็กเป็นเหรอ?"
"ฉันเพิ่งเรียนเมื่อสามปีนี้เอง" ถังจุ้ยตอบ
ป่ายฉีบ่น "ไม่ต้องไปฟังเขาหรอก เรียนอะไรกัน เจ้าหมอนี่เป็นอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ มีพรสวรรค์อย่างมาก แค่ได้จับคอมก็ทำเป็นทั้งหมดแล้ว ตอนนี้เป็นเทพแห่งวงการแฮ็กไปแล้วล่ะ"
"ตอนนี้พวกเราออกไปทำภารกิจ ถ้าเจอปัญหาด้านอิเล็กทรอนิกส์ ก็ให้เขาจัดการทั้งหมด แถมยังเร็วมากด้วยนะ และรับรองว่าไม่มีใครจับได้แน่นอน"
เย้นหว่านตะลึง เธอยกนิ้วโป้งให้ถังจุ้ย "สุดยอดเลย"
ถังจุ้ยยิ้มอย่างเขินอาย "ก็แค่โชคน่ะ เธอให้โอกาสฉันทั้งนั้น ไม่งั้นคงไม่มีฉันในวันนี้หรอก"
ถังจุ้ยยังคงจำได้ว่า เย้นหว่านช่วยเขาออกมาจากเหตุการณ์นั้น
เย้นหว่านรู้สึกอบอุ่นใจ กำลังจะพูดอะไรนั้น ด้านข้างกลับมีเสียงเย็นชาของโห้หลีเฉินดังขึ้น
"เลิกพูดมากได้แล้ว รีบจัดการให้เสร็จสิ"
เย้นหว่านกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนหน้านี้โห้หลีเฉินยังไม่รีบร้อนเลย ทำไมถึงร้อนใจกะทันหันแบบนี้ล่ะ เขาไม่ได้ตั้งใจด่าถังจุ้ยใช่ไหม?
ถังจุ้ยก็เป็นคนดีนะ ไปขัดใจเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...