ภายใต้ความสงสัย ก็เห็นโห้หลีเฉินถอยหลัง เตรียมพร้อมจะวิ่ง
เย้นหว่านก็เข้าใจความคิดของเขาทันที เขาต้องการจะวิ่งข้ามมา!
แต่ว่าระยะห่างนี้ห่างขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งลมแรงฝนตกหนักอีก ภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายเช่นนี้ จะวิ่งข้ามมาได้อย่างไร!
ถ้าหากว่าไม่ทันระวังแล้วตกลงไปล่ะ......
เย้นหว่านแทบไม่กล้าจะคิดถึงผลที่ตามมา จึงรีบตะโกนขึ้น "อย่ากระโดด อย่ากระโดดข้ามมา!"
แต่ว่าเสียงตะโกนห้ามของเธอไม่สามารถหยุดเขาได้ โห้หลีเฉินนั้นได้วิ่งพุ่งมาด้านหน้าแล้ว ร่างกระโดดขึ้น
การกระโดดของเขาครั้งนี้มีพลังอย่างมาก ร่างกระโดดพุ่งขึ้น ข้ามผ่านลมที่กังวานและฝนที่ตกกระหน่ำ มุ่งกระโดดมาทางเย้นหว่าน
แค่เพียงพริบตาเดียว แต่เย้นหว่านกลับกระวนกระวายราวกับว่าผ่านไปหลายศตวรรษ
แม้แต่การหายใจเธอก็รู้สึกว่าลำบาก
มองโห้หลีเฉินพุ่งกระโดดข้ามมาด้วยความหวาดกลัว และเข้ามาใกล้เธอทุกที
มือข้างหนึ่งของเธอจับกลอนประตูไว้ อีกข้างหนึ่งยื่นออกไปด้านนอกเพื่อเตรียมพร้อมตลอดเวลา เธอครุ่นคิด หากว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก็จะรีบไปดึงเขา
โห้หลีเฉินก็คือโห้หลีเฉิน มักจะไม่เสี่ยงทำในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้
การกระโดดของเขาครั้งนี้ค่อนข้างแม่นยำ สามารถกระโดดข้ามมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เย้นหว่านมองดูเขาที่กำลังจะลงมาถึงพื้น จิตใจที่เป็นพะวง ก็ได้เบาใจลงพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลจนสายตาพร่ามัว
แต่แล้ว ขณะที่เธอยังไม่ทันจะได้ดีใจ กลับต้องตกใจเมื่อเห็น หนวดเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามาราวกับแส้เหล็กฟาดเข้าที่ร่างของโห้หลีเฉิน จนร่างกระเด็นไปตกกระแทกห้องตรงข้ามราวกับก้อนหิน
"ตุ้ม" เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น เศษฝุ่นกระจุยกระจายกลางอากาศ
เย้นหว่านตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ราวกับก้อนหิน ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้านั้นเย็นเยือกเป็นน้ำแข็ง
เสียงรอบๆ ทั้งหมดก็ดูเหมือนจะหายไปในบัดดล เวิ้งว้างราวกับฟ้าถล่มดินทลาย ทุกอย่างดูว่างเปล่า
หัวใจของเธอก็ลืมที่จะเต้น
มองไปยังทิศทางที่โห้หลีเฉินกระเด็นไป ตกใจค้างอยู่นานสองนาน สักพักก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
"เสี่ยวหว่าน!"
ถังจุ้ยจับราวจับประตูแล้วเดินมาที่ข้างตัวของเย้นหว่าน จับไหล่ของเธอด้วยความเป็นห่วง "ตรงนี้อันตราย พวกเรารีบไปกันเถอะ"
เห็นได้ชัดว่าหมึกยักษ์ตัวนั้นโมโหโกรธพวกเขาอย่างมาก เป้าหมายคือต้องการจะจับตัวพวกเขาสองคน
ไป?
โห้หลีเฉินอยู่ตรงนั้น จะให้เธอไปที่ไหน
โลกของเย้นหว่านราวกับถล่มทลายลงแล้วในเวลานี้ ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวจากอาการตกใจค้าง แต่สิ่งที่ต้องเผชิญกลับเป็นฟ้าที่ทลายหัวใจที่แตกสลาย
"โห้หลีเฉิน!"
เธอร้องเรียกตะโกนเรียก เรียกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ "โห้หลีเฉิน! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ คุณอยู่ตรงไหน ออกมาสิ คุณออกมาเดี๋ยวนี้!"
"โห้หลีเฉิน ฉันจะมาหาคุณ คุณรอฉันนะ คุณจงรอฉัน"
เย้นหว่านใช้แรงสะบัดถังจุ้ยทิ้ง แล้วจะพุ่งไปข้างหน้า
ดวงตาของเธอแดงก่ำ และตัวเธอก็ดูบ้าคลั่ง ไร้สติสตัง
ในสมองของเธอมีเพียงความคิดเดียว ไปข้างหน้า ไปหาโห้หลีเฉิน ต่อให้ต้องตาย เธอก็อยากจะตายในสถานที่เดียวกันกับเขา
"เสี่ยวหว่าน คุณใจเย็นหน่อย"
ถังจุ้ยได้แต่พยายามสุดชีวิตดึงเย้นหว่านไว้ นอกจากใจเย็นแล้ว เขากลับพูดอะไรไม่ออก
ในสถานการณ์เมื่อสักครู่นั้น เขารู้ดีว่าการโจมตีของหมึกยักษ์นั้นรุนแรงมาก โห้หลีเฉินถูกฟาดเข้าอย่างจังขนาดนั้น เกรงว่าคงจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว
ความหวังที่จะมีชีวิตรอดแทบจะไม่มี
และเป็นเพราะเหตุนี้ เย้นหว่านถึงได้บ้าคลั่งจนเสียสติ ไม่สามารถอธิบายได้
ถ้าเย้นหว่านคือชีวิตของโห้หลีเฉิน โห้หลีเฉินก็คือชีวิตของเธอเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...