"ได้" โห้หลีเฉินรับปากอย่างหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
แม้ว่าใบหน้าจะเต็มไปด้วยเลือด แต่ก็ยังดูหล่อเหลา
เย้นหว่านมองอย่างคร่ำครวญ อาลัยอาวรณ์ ความรักในหัวใจเหมือนกับไฟป่าที่แผดเผาอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง
"ไป พวกเราไปกันเถอะ"
ถังจุ้ยจับเย้นหว่านดึงเธอไปหันหลัง
เย้นหว่านน้ำตานองหน้า จ้องมองดูโห้หลีเฉิน แต่ทางเดินที่ลาดเอียง ทำให้เขาค่อยๆ ลับสายตา
จนกระทั่งมองไม่เห็นเขาในที่สุด หัวใจของเธอราวกับถูกควักออกมาก็ไม่ปาน ความตระหนกกังวลท่วมท้นอยู่ในจิตใจ
เธอสั่นไปทั้งตัว จับมือถังจุ้ยไว้แน่น น้ำเสียงราวกับกำลังร้องไห้
"ถังจุ้ย ฉันกลัว ฉันกลัว กลัว......"
กลัวอะไรนั้น เธอเองก็บอกไม่ถูก
ดูเหมือนจะเป็นความกลัวจากจิตวิญญาณ กลัวว่าอันตรายจะไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีใครที่จะสามารถหลีกหนีพ้นได้ ประหนึ่งว่าจะไม่สามารถเจอคุณโห้อีก
ถังจุ้ยเจ็บปวดแทนเธอ ได้แต่ปลอบใจ
"ผมจะปกป้องคุณให้ดี พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดออกไปให้ได้ โห้หลีเฉินเดิมทีก็เป็นคนที่เก่งกาจกว่าผม เขาจะต้องทำได้เช่นกัน อีกอย่างฝั่งนั้นยังมีคนของพวกเราอยู่ เมื่อสมทบกับคนของพวกเราแล้ว ก็จะต้องช่วยเขาอย่างแน่นอน"
เหรอ
ก็คงจะเป็นเช่นนี้ และก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เย้นหว่านอยากให้เป็น
อีกฟากหนึ่ง
หลังจากที่ร่างของเย้นหว่านลับหายไปจนมองไม่เห็นแล้วนั้น มุมปากของโห้หลีเฉินก็แข็งทื่อขึ้น จากนั้นก็มีเสียง "เอื๊อก" เลือดกระอักออกมา
รูปร่างที่สูงใหญ่ของเขาล้มดัง "ตึง" ลงไปกองอยู่กับพื้น
ร่างของเขาสั่นเล็กน้อย สายตามองไปทิศทางที่เย้นหว่านจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ นิ้วมือของเขาค่อยๆ ยื่นออกไปทางเธอ
เขาอยากจะลูบสัมผัสผมของเธอ ใบหน้าของเธออีกครั้ง แต่ว่าช่างยากเหลือเกิน......
สายตาของเขาพร่ามัว พลังค่อยๆ ถูกสูบดึงออกจากร่างกาย แผ่นหลังของเขามีแผ่นเหล็กแหลมคมที่แตกร้าวเสียบอยู่......
——
เย้นหว่านกับถังจุ้ยเข้าไปในเรือท่ามกลางการกระแทกและสั่นโยกเยก ในที่สุดก็วิ่งไปถึงเรือชูชีพได้สำเร็จ
เรือชูชีพครึ่งหนึ่งได้จมอยู่ใต้ท้องทะเลแล้ว
โชคดีที่มาทันเวลา
"ผมจะไปเอาเรือชูชีพ รอแป๊บนะ"
ถังจุ้ยรีบไปด้านหน้าเพื่อปล่อยเรือชูชีพทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเมาเรืออย่างรุนแรง จนแทบจะยืนไม่ไหว แต่ด้วยสมรรถภาพทางกายที่แข็งแรงของเขา ทำให้เขาสามารถประคองตัวเองไว้ได้ในยามวิกฤต
เขาเคลื่อนไหวอย่างเร็วในการจัดการกับเรือชูชีพ
"เร็ว รีบขึ้นเรือ พวกเรารีบไปกัน"
เย้นหว่านประจัญสู้กับฝนที่ตกหนักและลมที่กรรโชกในการขึ้นเรือ เธอยื่นมือไปจับมือของถังจุ้ยไว้ แต่ยามนี้กลับมีหนวดขนาดใหญ่แทงทะลุอากาศออกมา ไม่มีเวลาให้ตั้งตัว และได้สูบดึงร่างของเย้นหว่านอย่างรุนแรง
วินาทีนั้นเย้นหว่านรู้สึกว่าร่างของตัวเองราวกับขาดเป็นสองท่อนก็ไม่ปาน
และเธอก็ลอยขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
"เสี่ยวหว่าน!"
ดวงตาถังจุ้ยโกรธจนแทบจะทะลักออกมา กระโจนตัวเพื่อจะคว้าตัวเย้นหว่าน แต่กลับไม่สามารถคว้าตัวเธอไว้ได้ มองดูตัวเธอถูกสูบดึงขึ้นกลางอากาศ จากนั้นร่วงหล่นหลายตลบสู่กลางทะเลเดือด
และฉับพลันก็ถูกกลืนหายไปจนไร้เงา
สมองถังจุ้ยว่างเปล่าไปหมด คิดอะไรไม่ออก ทันใดนั้นก็กระโดดทะเลตามลงไป
คลื่นทะเลซัดขึ้นเป็นระลอกอย่างรุนแรง ดังก้องกังวาน ระลอกคลื่นสูงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้าและเสียงฟ้าร้องที่โครมคราม เรือลำนี้ก็ค่อยๆ ถูกกลืนกิน
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...