บทที่ 2 ไม่น่าเชื่อว่าจะจัดงานหมั้นวันเดียวกับแฟนเก่า
วันที่สอง งานหมั้นจัดขึ้นที่โรงแรมหรูที่สุดในเฉิงหนานโรงแรมอ้าวเฟย
และยิ่งไปกว่านั้นสถานที่จัดงานจัดอยู่บนสวนลอยฟ้าของชั้นบนสุด ว่ากันว่าในเฉิงหนาน
คนที่มีสิทธิ์จัดงานบนสวนลอยฟ้ามีไม่เกินสิบคน เย้นหว่านใส่ชุดเดรสสีขาวยาวประดับเพชร
ใบหน้าแต่งได้สวยสง่ามาก เหมือนภูตน้อยที่หลงมายังโลกยังไงอย่างงั้น
เธอเดินเข้าไปที่ห้องโถงของโรงแรม กำลังมุ่งหน้าเดินไปทางลิฟท์
แต่กลับเห็นภาพงานแต่งงานที่อยู่ข้างๆโดยไม่ได้ตั้งใจ บนนั้นเป็นรูปแต่งงานของคู่บ่าวสาว
และเป็นคนที่เย้นหว่านคุ้นเคยที่สุดในชีวิตนี้ คนนึงเป็นแฟนเก่าเธอ อีกคนคือคู่กัดที่อยู่มหาลัยมาสี่ปี
คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะแต่งงานวันนี้ แถมยังแต่งในโรงแรมเดียวกันกับเธอ..........
สีหน้าเย้นหว่านซีดเล็กน้อย ในใจเหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับไว้ มีความรู้สึกถูกเหน็บแนมอย่างบอกไม่ถูก
“เย้นหว่าน แกมาทำอะไรที่นี่?!” จู่ๆเสียงต่อว่าของผู้หญิงดังขึ้นมา เห็นแต่โอวน่อหย่า
ที่สวมใส่ชุดงานแต่งสีขาวมาด้วยความโมโห ข้างหลังเธอมีเจ้าบ่าวสวมใส่ชุดสูทเข้ารูปกำลังเดินตามมา
คนๆนั้นก็คือซือหนานนั่นเอง เขามองเย้นหว่านด้วยสายตาซับซ้อน ริมฝีปากบางเม้มไว้อย่างแน่น
เย้นหว่านมองดูทั้งสอง ภาพที่เคยถูกทำร้ายจากการหักหลังโผล่ขึ้นมาอีก ทำให้หัวใจเธอเย็นวูบ
โอวน่อหย่าเดินเข้ามามองดูชุดของ เย้นหว่านใกล้ๆแล้วสีหน้ายิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“แกยังไม่ตายใจจากซือหนานอีกหรอ? แกถูกทิ้งไปแล้วยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรอ?”
เสียงของเธอไม่เบาแถมยังเต็มไปการเหยียดหยาม ทันใดนั้นก็ดึงดูดผู้คนใช้สายตามุงดู
ดวงตาหลายคู่ที่มีความคิดเห็นมองมาที่ เย้นหว่าน สำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
แม้กระทั่งบางคนยังซุบซิบเสียงเบาอยู่ เย้นหว่านมองดูทั้งสองอย่างเกลียดชัง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฉันไม่มีสนใจงานแต่งพวกคุณหรอก อย่าเอาดีใส่ตัวหน่อยเลย”
“งั้นแกใส่แบบนี้มาทำไม? ชุดเดรสยาวสีขาวแบบนี้ก็มีแต่งานแต่งกับงานหมั้นเท่านั้นถึงจะใส่”
น้ำเสียงของโอวน่อหย่าดูถูกที่สุดอย่างหาที่สุดมิได้ เหมือนกำลังดูตัวตลกคนนึงที่ไม่เจียมเนื้อเจียมตัว
“ถ้าแกไม่ใช่หน้าด้านมาแย่งเจ้าบ่าว หรือแกหมั้นกับคุณโห้หรอกหรือ?” วันนี้ที่นี่ก็มีแค่สองงาน
งานหมั้นของตระกูลโห้กับงานแต่งของตระกูลซือ แต่เท่าที่โอวน่อหย่าดู
อย่าบอกว่า เย้นหว่านจะหมั้นกับโห้หลีเฉินเลย แม้แต่งานหมั้นของตระกูลโห้เธอก็ยังไม่มีสิทธิ์มาร่วมงานเลย
เพื่อนเจ้าสาวของโอวน่อหย่าก็หัวเราะออกมาอย่างดูถูก “คุณโห้เป็นใคร แล้วนังนี่คือใคร
หล่อนจะมีสิทธิ์เป็นว่าที่ภรรยาของคุณโห้ได้ยังไง? ” มองดูทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยคอยเหยียดหยามเธอ
เย้นหว่านแข็งตึงไปทั้งตัว ในใจมีไฟลุกท่วมขึ้นมา เธออยากบอกมากว่าเธอนั่นแหละคือเจ้าสาวของโห้หลีเฉิน
แต่สถานการณ์แบบนี้เธอพูดไม่ออกด้วยซ้ำไป......... ไม่มีใครเชื่อคำพูดเธอหรอก
“ดูสิ พูดอะไรไม่ออกแล้วใช่ไหมล่ะ? เย้นหว่าน ฉันว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องมายั่วซือหนานแน่ๆ! ”
โอวน่อหย่าชี้หน้าเย้นหว่านไว้อย่างโกรธ “ฉันกับซือหนานก็แต่งงานกันแล้ว เธอยังจะมายุ่งกับซือหนานอีก เธอนี่มีศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้หญิงบ้างไหมเนี่ย?” คนที่อยู่ข้างๆก็เริ่มจู้จี้ เย้นหว่าน
ราวกับว่าเธอเป็นเมียน้อยที่ไร้ยางอาย ซือหนานยืนตัวตรงไว้แล้วขมวดคิ้ว สายตาที่ดูเย้นหว่าน
ก็เหมือนจะแฝงด้วยคำถาม เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ หยุดได้แล้ว คุณกลับไปเถอะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...