บทที่255 ตื่นเต้นนิดหน่อย
ปวดหัวเล็กน้อย ที่จริงเธอแค่พูดพอเป็นพิธี จะคิดที่ไหนว่ามันจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้? เธอในตอนนี้ ไม่ควรที่จะไปเถียงกับโห้หลีเฉินใช่ไหม
เม้มริมฝีปาก พร้อมอธิบายว่า : “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
โห้หลีเฉินค่อยๆยกมุมปากค่อยๆ และพูดว่า :
“อืม ความผิดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ คราวหลังก็ระวังหน่อยละกัน ”
เสียงของเขาเพราะมาก เป็นการเตือนที่เรียบง่ายที่สุด และก็ยังเป็นการเป็นห่วงที่อบอุ่น
เย้นหว่านยิ่งไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว ได้แต่พยักหน้า
กิจกรรมสิ้นสุดลงพอดี เธอก็ยืนขึ้น : “ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยนะ”
พูดจบ เธอก็วิ่งไปอย่างไว
ในห้องน้ำ เย้นหว่านยืนอยู่ที่หน้ากระจก นึกถึงเรื่องเมื่อกี้ที่ถูกโห้หลีเฉินจูบต่อหน้าสาธารณชน หัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นทันที
เธอรีบเปิดก๊อกน้ำอย่างเร็ว ล้างมือในน้ำเย็นๆ ถึงทำให้เธอสงบขึ้นมาหน่อย
เธอเอาแต่บอกตัวเองไม่หยุด ว่าที่โห้หลีเฉินจูบเธอ ก็แค่เป็นแผนรับมือชั่วคราวที่เหมาะสม ไม่ได้มีความหมายอื่นๆ
ระหว่างเธอกับเขา ที่จริงแล้วเป็นความเข้าใจที่ดีแล้วว่าเป็นความสัมพันธ์แบบต้องเว้นระยะห่างซึ้งกันและกัน
หลังจากเตรียมใจเสร็จเรียบร้อย เย้นหว่านถึงออกมาจากห้องน้ำ
พึ่งจะเดินกลับมา ยังห่างอยู่หลายเมตร เธอเห็นโห้หลีเฉินถูกสาวสวยสามสี่คนล้อมรอบอยู่
ผู้หญิงสามสี่คนนี้แต่ละคนก็ต่างเป็นคนที่จะบอกว่ามีออร่าก็มีออร่า จะบอกว่าสวยก็สวย มองแว๊บแรกก็รู้ว่าเป็นสุภาพสตรีชั้นสูง สวยงดงามมาก
แล้วอีกอย่างสายตาของพวกเธอ ก็ต่างมองตรงไปที่โห้หลีเฉินอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหลงใหล และกระตือรือร้นที่จะอยากลองดู
ผู้หญิงหนึ่งในนั้นคนนึงถือแก้วไวน์ โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ทำให้เนินร่องของเธอปรากฏขึ้นต่อหน้าของโห้หลีเฉิน
เธอคลี่ยิ้มที่มีเสน่ห์ นิ้วขาวๆถือแก้วไวน์อยู่ แล้วก็ยื่นไปตรงหน้าโห้หลีเฉิน”
“คุณโห้ ฉันรู้คุณชอบดื่มไวน์ นี่คือLLที่คุณชอบที่สุด ลองดูสิคะ”
ผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดอยู่ ไวน์ก็ถูกดันจนมาเกือบถึงตัวของโห้หลีเฉิน อีกอย่างร่างกายของเธอยิ่งเอนไปข้างหน้า และเกือบจะล้มลงบนตัวของโห้หลีเฉิน
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการเอาตัวเอาโถมเข้าไปใส่คนอื่น
แล้วอีกอย่างผู้หญิงคนนี้สวยมาก เธอมีเสน่ห์ไปทั่วทั้งร่างกายจนทำให้คนอื่นแทบทนไม่ไหว แม้มองจากไกลๆ เย้นหว่านยังอยากจะช่วยพยุงเอวที่อ่อนแอของเธอเลย
ฝีเท้าของเย้นหว่านที่กำลังเดินไปข้างหน้าก็หยุดตาม เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่โห้หลีเฉินกำลังเลือกดอกไม้อยู่ เธอในตอนนี้ไม่ควรจะไปรบกวน
คิดแบบนี้แล้ว เย้นหว่านก็อยากจะเปลี่ยนเดินไปทางอื่น
“ขอโทษนะครับ คู่หมั้นของผมไม่ชอบให้ผมดื่มไวน์ข้างนอก”
โห้หลีเฉินถอยไปข้างหลังก้าวหนึ่ง เพิ่มระยะห่างที่ผู้หญิงคนนี้ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นช่างเย็นชาไม่แยแส มีเกียรติ ไม่มีการเคลื่อนไหวเนื่องจากการยั่วของผู้หญิงแม้แต่นิด
ผู้หญิงตัวแข็งทื่อ ใบหน้าแทบยื้อไม่ไหว
ฝีเท้าของเย้นหว่านก็หยุดลงทันที มองไปที่โห้หลีเฉินอย่างประหลาดใจ
ประโยคที่เขาพูดไปเมื่อกี้ เธอได้ยินอย่างชัดเจน
คู่หมั้นของเขาคือเธอไม่ใช่เหรอ? เธอพูดเมื่อไหร่ว่าไม่ชอบให้เขาดื่มไวน์ข้างนอก
แล้วอีกอย่างช่วงเวลาที่กำลังเลือกดอกไม้อยู่นี้ ที่จริงแล้วเขาบริสุทธิ์ใจแค่ไหน ถึงได้เอาคู่หมั้นอย่างเธอคนนี้ออกมาเป็นโล่
ประโยคนี้ของโห้หลีเฉิน เท่ากับว่าปฏิเสธผู้หญิงคนอื่นไปทั้งหมดแล้ว
พวกเธอไม่พอใจ หนึ่งในนั้นพูดว่า : “ถึงแม้คุณโห้ไม่ชอบดื่ม งั้นพวกเราคุยเรื่องอื่นกันดีกว่า การออกแบบหรือธุรกิจก็ได้ ฉันพอรู้บ้างเล็กน้อย ”
เริ่มชวนคุยแบบนี้ คนปกติก็ไม่น่าจะปฏิเสธ ยังไงก็ต้องพูดไปตามมารยาทสักสองประโยค
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปาก แล้วก็พูดประโยคหนึ่งออกมาอย่างเย็นชา
“คู่หมั้นผมมาแล้ว เกรงว่าจะไม่มีเวลาคุยเป็นเพื่อนพวกคุณแล้ว ”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้น โห้หลีเฉินก็ก้าวยาวมาทางเย้นหว่านทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...