บทที่256 ความห่างไกลที่ใกล้ที่สุด
เธอไม่ทันได้คิดอะไรก็พูดขึ้น “คุณโห้ งั้นฉันขอตัวไปห้องพักก่อนนะ”
ห้องพักนั้นเป็นผู้จัดงานเป็นคนจัดเตรียมให้ เย้นหว่านก็ยังไม่รู้ว่าห้องของเธอนั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้นจึงต้องไปถามพนักงานที่ใกล้ที่สุด
เมื่อพนักงานคนนั้นเห็นนามบัตรของเย้นหว่าน ก็แปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็เปี่ยมเต็มไปด้วยความชื่นชอบ
“คุณเย้น ห้องพักของคุณกับคุณโห้อยู่ที่ชั้นบนสุดห้องดีลักซ์สูทA ต้องการให้ดิฉันนำไปไหมคะ? ”
เย้นหว่านแปลกใจเล็กน้อย นี่คนนั้นไม่ได้พูดอะไรผิดไปใช่ไหมนะ
ห้องเธอกับโห้หลีเฉินอย่างนั้นหรอ?
ห้องพักไม่ได้อยู่กันคนละห้องหรอกหรอ
เย้นหว่านสงสัย กำลังจะถามพนักงานคนนั้นว่ามันยังไง โห้หลีเฉินก็เดินมาถึงเธอพอดี
เขาเอื้อมมือขึ้นมาแตะไหล่พนักงานคนนั้น ก่อนจะออกคำสั่งกับเธอ “เธอไปทำงานเธอเถอะ”
“ได้ค่ะ คุณโห้ หากต้องการอะไรบอกได้เลยนะคะ”
พนักงานเดินออกไปด้วยความเคารพ
ทันทีที่คนคนนั้นเดินจากไป เย้นหว่านก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่ชายหนุ่มที่หันข้างอยู่ด้วยความสงสัย
ใบหน้าของเขาดูไม่แยแส และเดินมาทางเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เรื่องที่พวกเขาอยู่ห้องเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มปาก ก่อนจะเริ่มอธิบายให้เย้นหว่านฟัง
“เธอเป็นคนที่ฉันพามา เป็นคู่ควงของฉัน อีกอย่างผู้จัดงานเองก็รู้ว่าพวกเราเป็นคู่หมั้นกัน ดังนั้นจึงจัดให้อยู่ห้องเดียวกัน
โห้หลีเฉินได้ประกาศต่อหน้าสาธารณชนไปแล้วว่าเย้นหว่านเป็นคู่ควงของเขาและที่งานเลี้ยงนี่ส่วนใหญ่ก็รู้กันหมดแล้ว
การที่ผู้จัดงานจัดห้องให้แบบนี้ก็ดูจะเหมาะสมดีแล้ว
เพียงแต่ว่า……...
เย้นหว่านมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ด้วยความหดหู่ รู้สึกไม่เป็นตัวเอง ด้วยเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาอยู่ห้องเดียวกับเขา
ในขณะที่เย้นหว่านกำลังหดหู่ใจอยู่นั้น โห้หลีเฉินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สบายๆ
“ไว้เข้าพักเพียงแค่ช่วงบ่ายเท่านั้นแหละ อีกอย่างห้องก็กว้าง อยู่สองคนไม่แออัดหรอก”
หยุดไปพักหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกด้วยเสียงเข้ม “ถ้าเธอรู้สึกไม่สบายใจ ฉันไม่เข้าไปพักก็ได้นะ”
“งั้นคุณจะไปไหนหล่ะ? ” เย้นหว่านถามขึ้นทันที
โห้หลินเฉินยักไหล่ “ที่นี่ออกจะกว้าง ออกไปเดินเล่นรอบๆ เดี๋ยวก็คงจะบ่ายเองแหละ”
ไปเดินเล่นอะไร เดินจนถึงบ่าย?
เย้นหว่านรู้สึกผิดขึ้นมา การที่เธอนอนเล่นอยู่ที่ห้องพักคนเดียวแล้วให้โห้หลีเฉินไปเดินเล่นรอบห้องโถงนั่นนั้น มันก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย
เมื่อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เย้นหว่านก็อดไม่ได้ที่จะพูด “งั้นก็อยู่ที่ห้องพักด้วยกันนั่นแหละ มันเป็นห้องชุดนี่ ยังไงก็มีโซฟา”
ก็แค่พักช่วงบ่ายเฉยๆ นอนที่โซฟาเดี๋ยวเดียวก็ได้
อีกอย่างก่อนหน้านี้เธอกับโห้หลีเฉินก็เคยนอนบนเตียงเดียวกันมาก่อน ในหัวเธอก็เลยคิดไปไกลโดยอัตโนมัติ ตอนนี้ถึงถึงแม้จะไม่อยากจะอยู่ใกล้นัก แต่ถ้าแค่อยู่ห้องเดียวกันก็เป็นอะไรที่พอจะรับได้
โห้หลีเฉินพยักหน้า ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกใดๆ
แต่ภายใต้ดวงตาที่ลึกลับนั้น กลับมีประกายรอยยิ้มขึ้นมา
ด้วยเพราะเหตุผลของนิทรรศการครั้งนี้ ห้องพักในโรงแรมทั้งหมดถูกจองจนหมดแล้ว โดยแขกแต่ละคนก็ต่างได้ห้องพักที่เตรียมไว้ให้
ห้องพักในโรงแรมนั้นมันก็มีทั้งดีและไม่ดี มีระดับต่างกัน อีกทั้งเย้นหว่านก็แทบจะมั่นใจได้เลยว่ามันเป็นเพราะโห้หลีเฉิน เธอจึงสามารถที่จะได้ห้องสูทหรูหราแบบนี้ได้
ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม อุปกรณ์ถูกจัดเตรียมอย่างครบครัน คุณภาพระดับที่ดีกว่าโรงแรมทั่วไป
คาดว่าน่าจะจัดเตรียมให้แก่โห้หลีเฉินเป็นพิเศษ
ดูท่า เย้นหว่านดูจะอาศัยบารมีของโห้หลีเฉินล้วนๆ
เธอกวาดตาดูรอบห้องอย่างรวดเร็ว ก็จะเดินตรงไปยังโซฟาที่กว้างใหญ่และแสนนุ่ม
“งั้นฉันนอนตรงนี้สักพักก็ได้”
โห้หลีเฉินมองตามไป การที่เย้นหว่านทำแบบนี้ มันเห็นได้ชัดว่าเป็นการรักษาระยะห่างจากเขา โดยไม่อยากจะนอนเตียงเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...