บทที่ 269 พูดถึงหึงหวง คนไหนเด่นกว่า
ภายใต้เสน่ห์อันเย้ายวนเพื่อให้การงานของตนเองก้าวหน้า บวกกับหนังสือที่ขนมาหมดแล้ว เย้นหว่านครุ่นคิดหนึ่งวินาที จากนั้นตัดสินใจอ่านหนังสืออยู่ในห้อง
พอโห้หลีเฉินเห็นว่าเย้นหว่านเห็นด้วย มุมปากก็ฉีกรอยยิ้มที่แผนการร้ายบรรลุผล
สำหรับฉูรั่วไป๋คนนั้นยังคงอยู่ที่ห้องทำงานรอแก้ไขข้อสงสัยให้เย้นหว่าน รออย่างโง่ๆ อยู่ต่อไป
ดังนั้นเย้นหว่านจึงนำหนังสือพวกนี้ที่โห้หลีเฉินนำมาให้ขึ้นอ่านมาแล้ว
โห้หลีเฉินนั่งอยู่บนโซฟาอีกด้าน อ่านหนังสืออย่างอื่น ลักษณะท่าทางตั้งใจจริงจัง
ดูเหมือนบรรยากาศทั้งห้องกลับดูกลมกลืนกันอย่างชัดเจน
สายตาของเย้นหว่านเงยขึ้นจากในหนังสือ ค่อยๆ แอบมองโห้หลีเฉินนิดหน่อย มองเขาที่เป็นแบบนี้ อยู่ด้วยกันเธออย่างกลมกลืนแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกว่าความจริงแบบนี้ไม่เลวมากจริงๆ
ตอนที่โห้หลีเฉินไม่ทำเรื่องที่กำกวมพวกนั้นกับเธอ พออยู่ด้วยกันกับโห้หลีเฉิน ทำให้เย้นหว่านดื่มด่ำความสุขอย่างมาก
“ติ๊ดๆๆ……”
ในห้องที่เงียบสงบ เสียงวีแชทของมือถือเย้นหว่านดังขึ้นมา
เวลานี้ คนส่งวีแชทหาเธอมีไม่มาก
เย้นหว่านสงสัยนิดหน่อย วางหนังสือลงแล้วหยิบมือถือขึ้น
พอเปิดออกดู คาดไม่ถึงว่าเป็นฉูรั่วไป๋ส่งมา
ฉูรั่วไป๋: เสี่ยวหว่าน คุณอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่มาที่ห้องทำงาน?
เย้นหว่าน: วันนี้ฉันไม่ไปแล้ว
ฉูรั่วไป๋: เมื่อวานคุณไม่ได้บอกว่าอยากศึกษาวิจัยเนื้อหาการออกแบบPJเหรอ ทำไมถึงไม่มากะทันหันแล้วล่ะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?
จากนั้นเย้นหว่านถึงนึกได้ว่าเมื่อวานเธอเคยพูดกับฉูรั่วไป๋เรื่องอยากศึกษาการออกแบบPJ ฉูรั่วไป๋คิดจะช่วยเธอด้วย
เย้นหว่านรู้สึกผิดอยู่หน่อย รีบตอบกลับ
เย้นหว่าน: คุณโห้เอาหนังสือของPJเข้ามาที่ห้องของฉันให้หมดแล้ว ตอนนี้ฉันอ่านยังไม่หมดเลย ย้ายไปอีกก็ไม่ดี เลยศึกษาอยู่ในห้อง
ฉูรั่วไป๋: ถึงแม้จะมีหนังสือ แต่ว่าความรู้พวกนั้นยังต้องอธิบายด้วย ถ้าไม่งั้นผมไปช่วยคุณที่ห้อง?
เย้นหว่าน: ไม่ต้องหรอก คุณโห้ก็อยู่ที่ห้องฉันด้วย เขาบอกจะอธิบายให้ฉันฟังเอง
ฉูรั่วไป๋: เขาอยู่ที่ห้องคุณ? เขาไม่ใช่คนของวงการออกแบบ PJเป็นเนื้อหาที่ลึกซึ้งขนาดนั้น เขาน่าจะยังไม่เข้าใจมั้ง
เย้นหว่าน: เป็นไปได้ว่าเขาคือคนประหลาดมั้ง เมื่อกี้ฉันถามเขาถึงปัญหาสองสามข้อ เขาเข้าใจทั้งหมดเลยจริงๆ
ฉูรั่วไป๋: ……
ฉูรั่วไป๋: แต่ว่าพวกคุณอยู่ในห้องกันตามลำพังเหรอ? ผมไม่ค่อยวางใจเท่าไร
ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ตัวหนังสือ แต่เย้นหว่านกลับมองความกังวลที่ฉูรั่วไป๋มีต่อเธอออกผ่านทางหน้าจอ
คืนนั้นเรื่องที่เย้นหว่านเกือบถูกโห้หลีเฉินกินไป ถึงแม้เย้นหว่านจะไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าฉูรั่วไป๋เป็นคนฉลาดขนาดนั้น ย่อมรู้มามากมาย
แม้กระทั่งคืนนั้นเย้นหว่านพักห้องข้างนอก ล้วนเป็นห้องที่ฉูรั่วไป๋เปิดให้เธอ
ฉูรั่วไป๋พูดแบบนี้ เย้นหว่านเหมือนจะนึกเรื่องเมื่อก่อนได้โดยจิตใต้สำนึก เธอกับโห้หลีเฉินเกือบจุดประกายไฟติดอยู่แล้ว
ตอนอยู่ในห้องเดียวตามลำพังกับโห้หลีเฉิน ในช่วงเวลานั้นเธอรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่อันตรายเรื่องหนึ่งมาโดยตลอด
และหลบหลีกโห้หลีเฉินสารพัดวิธี
แต่ว่าตอนนี้……
เย้นหว่านเงยหน้ามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ท่วงท่าตามสบาย ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่ง อ่านด้วยท่าทางมีสมาธิจริงจัง ลืมตัวไปโดยสิ้นเชิง
และรอบตัวเขาล้อมไปด้วยกลิ่นอายหนังสือ ทำให้เขาสงบนิ่งมาก เป็นสุภาพบุรุษอย่างชัดเจน
คล้ายๆ กับ ช่วงเวลาสงบดี
สำหรับเขาที่เป็นแบบนี้ เย้นหว่านไม่มีความระแวดระวังใดๆ สักนิด
และคิดไปถึงสองสามวันที่ผ่านมา โห้หลีเฉินเป็นสุภาพบุรุษไปทุกที่ และไม่เคยทำเรื่องแบบคืนนั้นกับเธออีก สำหรับเธอแล้ว ความห่างเหินและการป้องกันต่อเขา บรรเทาเงียบลงตั้งนานแล้ว
และภายในใจลึกๆ ของเธอ เย้นหว่านก็เข้าใจมากขึ้นเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...