บทที่ 304 เย้นโม่หลิน
ชั่วขณะนั้นสมาธิทั้งหมดของจูเหลียนอีงถูกดึงดูดเข้าไปแล้ว รีบร้อนเดินไปที่ด้านข้างเตียง
“เฉิน เฉินของย่า”
หล่อนกุมมือของโห้หลีเฉินไว้ น้ำตาในดวงตาหมุนวนไม่หยุด
“คุณหมอ เขาเป็นยังไงบ้าง?”
“คุณนายใหญ่ตระกูลโห้ครับ ขอให้ท่านวางใจ ตอนนี้คุณโห้พ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่ต้องการพักผ่อนดีๆ ช่วงหนึ่ง ถึงจะดีขึ้นครับ”
หมอตอบคำถามด้วยความอดทน และโล่งอกไปทีหนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงอย่างกะทันหันของป่ายฉี เดิมทีพวกเขาคงไม่มีความสามารถในการช่วยชีวิตโห้หลีเฉินได้ ต้องมีส่วนร่วมตามไปอยู่สุสานเป็นเพื่อนโห้หลีเฉินแน่
มีหมอคนหนึ่งทอดถอนใจอย่างทนไม่ไหว
“คุณป่ายฉีช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เลย อายุยังน้อยแต่ระดับฝีมือการรักษาคาดไม่ถึงว่าจะสูงเช่นนี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นคนที่ยื้อแย่งในมือยมโลกเลย ชีวิตนี้ได้มีโอกาสเห็นเขาผ่าตัดสักครั้งด้วยตาตัวเอง ชาตินี้ผมก็ไม่เสียใจแล้ว”
พวกเขาล้วนเป็นหมอชื่อดังไม่เป็นสองรองใครบนโลกนี้ บุคคลชั้นนำในแต่ละสาขาวิชา แต่ว่าพอเจอป่ายฉีเข้า กลับเหมือนเป็นนักเรียนประถม รู้สึกว่าตนเองเข้าใจน้อยเหลือเกิน
อยู่ต่อหน้าป่ายฉี พวกเขาแย่จนไม่มีค่าให้พูดถึงจริงๆ
เห็นบรรดาคุณหมอต่างชมป่ายฉีแบบนี้ คนเหล่านั้นของตระกูลโห้เกิดรสขมในปาก และพูดอะไรไม่ออกอีก
ในที่สุดจูเหลียนอีงก็สงบใจลงมา กุมมือของโห้หลีเฉินแล้วพูดกำชับ
“พาเขาส่งไปห้องคนไข้ คนที่จัดมาดูแล เตรียมพร้อมหมดรึยัง?”
พ่อบ้านรีบตอบกลับ “เตรียมพร้อมหมดแล้วครับ”
จูเหลียนอีงยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ เดินตามเตียงคนไข้ของโห้หลีเฉินไปทางห้องคนไข้ด้วยตนเอง
หล่อนมองใบหน้าซีดขาวของโห้หลีเฉินด้วยความเป็นปลื้ม ทว่าการแสดงออกกลับเป็นความซับซ้อน
การปรากฏตัวของป่ายฉีเกินความคาดหมายของหล่อน ส่วนความสัมพันธ์ของป่ายฉีกับเย้นหว่านก็ทำให้หล่อนตื่นตัว
หล่อนแค่รู้สึกว่าเรื่องราวคงไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
……
เย้นหว่านฝันยาวมากฉากหนึ่ง
ในความฝันเป็นภาพเดียววนซ้ำไม่หยุดอยู่ตลอด เป็นตอนที่โห้หลีเฉินผลักเธอออก ล้มอยู่ในกองเลือด และเขานอนอยู่ในอ้อมอกของเขา และสูญเสียความอบอุ่นไปทีละนิด
และมีคนยื่นมือมาดึงเธอ “ปล่อยเขาไปเถอะ เขาตายแล้ว
เขาตายแล้ว!
ไม่……
เย้นหว่านกรีดร้องต่อต้าน ลืมตาขึ้นอย่างแรง
ด้านหน้าเป็นเพดานที่แกะสลักเป็นลายรูปแบบยุโรปสลับซับซ้อน ในห้องลำแสงส่องสว่าง ไม่มีสีเลือดสักนิดแบบในฝัน
เป็นความฝัน เพียงแค่ความฝัน
เย้นหว่านได้สติกลับมา ไม่นานสติปัญญาแหลมคมก็นึกถึงช่วงก่อนที่เธอสลบขึ้นได้ ทุกอย่างที่เกิดด้านนอกห้องผ่าตัด
ป่ายฉีบอกว่าเขาช่วยชีวิตโห้หลีเฉินได้แล้ว
เขาไม่เป็นไรแล้ว
ในที่สุดเส้นประสาทที่ตึงแน่นของเย้นหว่านค่อยๆ ผ่อนคลายลง และแวบหนึ่งเธอก็ดึงผ้าห่มออก กระโดดลงจากเตียง
เธออยากไปดูโห้หลีเฉิน ไปยืนยันว่าเขาปลอดภัยดีด้วยตนเอง
ยืนยันว่าเขาบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง
เลือดออกมากขนาดนั้น เขาต้องเจ็บมากแน่เลย
เย้นหว่านไม่ทันได้มองสิ่งแวดล้อมในห้องที่แปลกตา รีบร้อนผลักประตูเปิดเดินออกไป
หน้าประตูเป็นระเบียงทางเดินที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เย้นหว่านวิ่งเหยาะๆ ตามระเบียงทางเดินไปสักพัก ถึงมองเห็นบันไดขนาดใหญ่ที่กว้างอลังการ
เธอยืนอยู่หน้าบันได จากนั้นถึงมองเห็นภาพโดยรวมของโถงใหญ่ทั้งหมดนี้
หรูหรา สะดุดตา ใหญ่จนทำให้คนมองเห็นแต่เงิน
ที่นี่เป็นคฤหาสน์หรูเหนือระดับแห่งหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...