บทที่ 356 ออกเดินทางได้แล้วค่ะ
ฉินฉู่เดินไปอย่างไว สีหน้าที่มองเย้นหว่านไม่ค่อยดี น้ำเสียงยิ่งแล้วใหญ่เยาะเย้ยเหน็บแนมมาก
“พี่สะใภ้ บังเอิญจังเลยนะครับ ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอที่นี่”
เย้นหว่านอึ้ง แปลกใจมากที่เจอฉินฉู่
ใบหน้าหล่อเหลาของเย้นโม่หลินกลับห้อยลงมา พี่สะใภ้? ไอ้หมอนี่เรียกมั่วอะไร
เขาไม่พอใจ จึงมองเย้นหว่านแล้วถาม “เพื่อนของเธอ?”
เย้นหว่านเห็นฉินฉู่ ก็นึกถึงโห้หลีเฉินอย่างห้ามใจไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่มีมีอะไรเกี่ยวข้องกับโห้หลีเฉินแล้ว กับฉินฉู่ยังสามารถถือได้ว่าเป็นเพื่อนกันมั้ย?
สุดท้ายเธอก็ได้พยักหน้า และลุกขึ้นมาทักทายด้วยมารยาท
“คุณชายฉิน คุณก็มาเที่ยวที่นี่เหรอคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิครับ ไม่มาจะมาเจอพี่สะใภ้ได้ยังไงล่ะ พี่สะใภ้ว่าใช่มั้ยครับ?”
ฉินฉู่ยิ้ม สายตาเพ่งมองไปที่เย้นโม่หลิน น้ำเสียงเฉียมคม“พี่สะใภ้ ท่านนี้คือใครครับ ไม่เคยเจอหน้าเลย พี่สะใภ้แนะนำหน่อยได้มั้ยครับ?”
น้ำเสียงแปลกประหลาดของฉินฉู่ ทำให้เย้นโม่หลินขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ สายตาที่อันตรายจ้องมองไปที่ฉินฉู่
แว๊บนั้น เหน็บหนาวเหมือนรัศมีเยือกเย็นนับพันนับหมื่น ไม่นานก็ทิ่มอยู่บนตัวของฉินฉู่ ฉินฉู่รู้สึกสันหลังหนาวเย็น รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างห้ามใจไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ ทรงอำนาจจริงๆ!
เขาคือใคร? !
เย้นหว่านไม่ได้รู้สึกถึงการปะทะกันลับๆของเขาสองคนเลย เธอยื่นมือดึงของเย้นโม่หลิน ให้เขาลุกขึ้นมา
ฉินฉู่เห็นมือที่ทั้งสองกุมไว้ด้วยกัน สีหน้ายิ่งแย่แล้ว ความหวาดกลัวพวกนั้นได้กลายเป็นความโกรธและเป็นปรปักษ์อีก
ถึงผู้ชายคนนี้จะทรงอำนาจมากแค่ไหน เป็นศัตรูหัวใจของโห้หลีเฉิน เขาก็จะเกลียด
“พี่สะใภ้ ดูท่าแล้วความสัมพันธ์ของพวกพี่นี่ดีมากเลยน้อ”
ฉินฉู่เอามือกอดอก และยิ้มเยาะ
“อืม ความสัมพันธ์ดีมาก”
เย้นหว่านพยักหน้า ดึงเย้นโม่หลินมาข้างหน้าก้าวนึง“แนำนำให้คุณรู้จักหน่อย เขาชื่อเย้นโม่หลิน เป็นพี่ชายฉัน”
“พี่ชายแท้ๆ”เย้นหว่านพูดเสริมอีกคำ
ฉินฉู่อึ้งในทันที มือที่กอดอกไว้ พริบตาเดียวก็หล่นลงมา
ห๊ะ อะไรนะ? นี่มันบ้าบอคอแตกอะไร? พี่ชายแท้ๆ?
ไม่ใช่แฟนเหรอ
ไม่นึกเลยว่าเขาจะเข้าใจผิด!
ฉินฉู่รู้สึกบนหัวมีอีกาดำกำลังโบยบินอยู่ นี่มันอึดอัดเกินไปแล้ว
สีหน้าที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายของเขา พริบตาเดียวได้กลายเป็นสีหน้าเบิกบาน เขาเช็ดมือไปหลายที จากนั้นก็ยื่นมือออกด้วยความเกรงใจ
“พี่เย้น สวัสดีครับ ผมชื่อฉินฉู่ครับ เป็นเพื่อนของเย้นหว่านครับ”
เย้นโม่หลินไม่ได้ยื่นมือ แต่จ้องมองฉินฉู่ด้วยสายตาเยือกเย็น
ริมฝีปากบางอ้าเล็กน้อย พูดคำพูดเย็นชาออกมา“นายเรียกเธอพี่สะใภ้ทำไม?”
น้องสาวเขายังเป็นสาวบริสุทธิ์และสาวโสดอยู่เลยนะ
รู้สึกได้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจอย่างมาก ฉินฉู่แค่อยากเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอย่างบ้าคลั่ง เดิมทีเขามาหาเรื่อง แต่วิธีนี้ไม่ถูก ไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่กลับถูกตำหนิติเตียนซะงั้น
ท่านนี้เป็นพี่ชายของเย้นหว่าน สิ่งที่ไม่พอใจเขา งั้นจะไม่พาลโกรธใส่โห้หลีเฉินเหรอ?
ถ้าให้โห้หลีเฉินได้รับความเดือดร้อนเพราะเหตุนี้ ฉินฉู่รู้สึก ถึงเขามีเก้าชีวิตก็ไม่พอตาย
เขายิ้มอย่างอึดอัด และพูดอย่างเอาใจ “เอ่อคือ.....ล้อเล่นครับๆ”
เวลานี้ ยอมให้ตัวเองถูกฝ่ายตรงข้ามตีตาย ก็แฉโห้หลีเฉินไม่ได้
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว น้ำเสียงเคร่งขรึม เหมือนคำสั่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
“ต่อไปห้ามเรียกแบบนี้”
“ครับๆๆ ฟังพี่ทุกอย่างครับ”
ฉินฉู่ยิ้มอย่างเอาใจ ขาดก็แค่เดินไปยื่นบุหรี่ให้และดื่มเหล้าแสดงความเคารพแล้ว
ทีนี้สีหน้าของเย้นโม่หลินถึงดูดีขึ้นมาหน่อย
เย้นหว่านยืนอยู่ข้างๆ กลับค่อนข้างจิตใจเหม่อลอย
เมื่อก่อนเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับโห้หลีเฉิน ดังนั้นฉินฉู่ถึงเรียกเธอพี่สะใภ้ ตอนนี้กลับบอกว่าล้อเล่น.......
ที่แท้ตอนนี้ถึงอยู่ในสายตาของคนนอก เธอกับโห้หลีเฉินก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...