บทที่473 ตรวจสิ
นี่เป็นวิธีที่ลำบากครั้งเดียวก็จะสุขสบาย และเป็นวิธีที่สมบูรณ์ที่สุดในการแก้ไขความขัดแย้งนี้
ลุงป้าตระกูลเย้นที่มุงอยู่รอบ ๆ ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย
“ความจริงวิธีนี้ก็ไม่เลว เราทุกคนเชื่อมั่นในทักษะการแพทย์ของป่ายฉี ขอแค่เขาบอกว่าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่”
“ใช่แล้ว เสี่ยวหว่าน ปล่อยให้ข่าวลือแพร่ไปแบบนี้อีกมันจะทำลายชื่อเสียงของเธอ จะดีกว่าถ้าให้ป่ายฉีลงมือ ให้ทุกอย่างชัดเจน”
“เสี่ยวหว่าน เธอก็ยอมรับเถอะ เธอเอาแต่ขัดขวาง นี่มันร้อนตัวหรืออะไร พวกเราเห็นกับตาแล้ว ถ้าเธอไม่ยินยอมจริง ๆ ก็ยอมรับตรง ๆ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ....”
แต่ละคำ เหมือนกับมือที่มองไม่เห็น ผลักเธอให้เข้าสู่กองไฟ
เดิมทีเธอก็ไม่มีทางถอยอยู่แล้ว
สีหน้าของเย้นหว่านซีดเผือด จิตใจกระวนกระวาย เธอรู้บทสรุปดี พอป่ายฉีลงมือ โห้หลีเฉินก็จะถูกเปิดเผย
ถึงตอนนั้น ทั้งหมดก็จะเปลี่ยนเป็นแบบที่เลวร้ายที่สุด
นั่นคือสิ่งเธอไม่ต้องการตั้งแต่แรก
แต่ถึงจะยอมรับตอนนี้ ก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกเปิดโปงจนจนมุม เมื่อถึงตอนนั้นการหลอกลวงนี้ก็ยังคงไม่ได้รับการให้อภัยหรือความเข้าใจใด ๆ ....
เย้นหว่านยืนตัวแข็งทื่อ ทั้งร่างเย็นยะเยือก หรือเธอกับโห้หลีเฉิน จะไม่มีหนทางที่จะอยู่ด้วยกันได้จริง ๆ งั้นเหรอ?
“เสี่ยวหว่าน ไม่เป็นไรหรอก”
เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นข้างหูของเย้นหว่าน
กู้ซึงก้าวไปยืนข้างกายเย้นหว่าน ก่อนหันมองเธอ มุมปากยกยิ้มอย่างอ่อนโยน
เย้นหว่านเงยหน้ามองเขา สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว
ในลอคอของเธอราวกับมีหินก้อนใหญ่ติดอยู่ รู้สึกแย่จนอยากจะร้องไห้ แต่กลับไม่อาจไม่ยับยั้งกล้ำกลืนเอาไว้
เขาไม่อยากจะยอมรับที่นี่ ยอมให้ป่ายฉียืนยันใบหน้ายังดีกว่า
ส่วนผลลัพธ์.....
เย้นหว่านหลับตาลง มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาและเธอล้วนไร้หนทางอื่นแล้ว
“ตรวจสิ”
จากนั้นไม่นาน เย้นหว่านก็เอ่ยในลำคอออกมาสองสามคำ
เหมือนกับถูกสูบเรี่ยวแรงไปอย่างกะทันหัน ไม่มีแรงที่จะต่อสู้และคาดหวังอีกต่อไป
เธอกับโห้หลีเฉินอยู่ด้วยกัน เดิมทีก็แอบลักลอบกันเอง ถูกทุกคนปฏิเสธ ไม่ยอมรับ ตอนนี้ฝันที่สวยงามที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนั้น คงไม่พ้นถูกฉีกทำลาย
ไม่ความเป็นไปได้ที่จะไปต่อได้อีก
เย้นหว่านไม่มีแรงจะยืนอยู่ ขณะกำลังจะล้มลงนั้น ข้างหลังก็พลันมีแขนแกร่งข้างหนึ่งประคองเธอเอาไว้
เบื้องหน้า คือชายที่เธอเจอหน้ากันทุกวันในช่วงนี้
กู้ซึงพยุงเธอ เอ่ยอย่างอ่อนโยน “แค่ตรวจสอบหน้าเท่านั้น แม้จะเสียศักดิ์ศรีนิดหน่อย แต่เพื่อเธอแล้วฉันยอมได้ เธอเหนื่อยมากแล้ว ไปนั่งพักผ่อนรอฉันก่อนนะ”
ไม่มีการลดเสียงลง จึงทำให้คนอื่นในที่นั้นได้ยินกันหมด
การปลอบประโลมอย่างใกล้ชิดนั้น ก็อธิบายเหตุผลแล้วว่าทำไมเย้นหว่านถึงเสียอาการขนาดนี้
ก็เพราะการตรวจสอบใบหน้าต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก สำหรับลูกผู้ชายแล้ว มันเสียศักดิ์ศรี เย้นหว่านก็เจ็บปวดกับเขา
เหล่าคนที่เดิมทีแน่ใจในตัวตนของกู้ซึงเพราะท่าทีของเย้นหว่านนั้น ก็เริ่มระงับความคิดนั้นอีกครั้ง
บทสรุปในท้ายที่สุดแล้วนั้น ยังต้องรอคำพูดของป่ายฉี
หยูซือห้านมองกู้ซึงพลางยิ้มเย็น มาถึงตอนนี้แล้วยังจะเสแสร้งอีก จะสู้จนหยดสุดท้ายเลยสิ! พอป่ายฉีลงมือ ทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้ง ถึงตอนนั้นต่อให้กู้ซึงจะพูด ก็พูดอะไรไม่ได้อีก!
เย้นหว่านคว้ามือของกู้ซึงเอาไว้อย่างร้อนรน เบ้าตาแดงเห่อ น้ำเสียงแผ่วเบาต่ำจนราวกับมาจากก้นบึ้งในลำคอ
“ขอโทษนะ”
เธอรู้สึกผิดและทุกข์ใจ ที่ทำให้เขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
อยู่กับเธอ ที่เขาต้องเสียมันมากเกินไป
มือเล็กอันอ่อนนุ่มจับตัวเขาเอาไว้ กู้ซึงชะงักเล็กน้อย แววตาหม่นลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...