บทที่487 ฉันต้องการฟังความจริง
การเคลื่อนไหวของโห้หลีเฉินหยุดลง เขาเงยหน้าขึ้นมา แล้วก็มองหน้าเย้นหว่านด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง
แล้วเขาก็พูดว่า “หยูซือห้านสงสัยว่าฉันคือกู้ซึง แล้วก็เอาแต่ปล่อยข่าวลือที่ตระกูลเย้นไม่หยุด แล้วก็ส่งข่าวมาที่ตระกูลหยู คนในตระกูลหยูสงสัย แล้วก็รีบเรียกฉันอย่างเร่งด่วน
ถ้าเกิดว่าฉันไม่ปรากฏตัว ก็จะทำให้เกิดปัญหาและความสงสัยเป็นอย่างมาก ดังนั้น ฉันก็เลยกลับไปที่ตระกูลหยู”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
กู้ซึงอยู่ที่บ้านตระกูลเย้น โห้หลีเฉินก็ปรากฏตัวที่ตระกูลหยู เพราะฉะนั้นข่าวลือที่ว่าโห้หลีเฉินก็คือกู้ซึงนั้น ก็พังไป
เย้นหว่านรู้สึกวางใจ แบบนี้โห้หลีเฉินก็ไม่ต้องมีความกังวลที่เกี่ยวกับครอบครัวอีกแล้ว
เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาที่เป็นประกาย “ถ้ายังงั้นที่ตระกูลหยู เริ่มสงบแล้วใช่ไหม? ”
“เกือบแล้วล่ะ”
โห้หลีเฉินยังไม่หยุด เขาเช็ดเศษที่อยู่บนแผลของเย้นหว่าน แล้วก็รอยเลือดออกจนหมด
โชคดีที่แผลไม่ได้ร้ายแรงเท่าไหร่ ไม่ต้องทายาโดยทันทีก็ได้
เย้นหว่านพูดว่า “ถ้ายังงั้นนายยังต้องกลับไปตระกูลหยูอีกไหม? ”
“อีกไม่กี่วัน ก็จำเป็นต้องกลับไป จัดการเรื่องอะไรบางอย่าง”
พอโห้หลีเฉินพูดจบ ก็เห็นแสงวิบวับในแววตาของเย้นหว่านนั้นพังทลายลงทันที
เขาลูบใบหน้าเล็กๆ ของเธออย่างปวดใจ “ฉันรับรองว่าฉันจะกลับมาอย่างเร็ว”
ใครจะไปรู้ว่าเย้นหว่านทนไม่ได้ที่จะให้เขาไปแม้แต่วันเดียวด้วยซ้ำ
เธอจับเสื้อของเขาแน่น แล้วก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
โห้หลีเฉินเห็นท่าทางที่เศร้าหมองของเธอ ก็รู้สึกใจอ่อน
เขายิ้มแล้วพูดว่า “ทำไม ไม่อยากอยู่ห่างจากฉันเหรอ? ”
เย้นหว่านทำปากมุ่ย มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วสิ
การแยกกันในหลายวันนี้ ความปั่นป่วน ทำให้เธอเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ วันหนึ่งมี24ชั่วโมง เธอคิดถึงเขาไปแล้ว25ชั่วโมง
เธอดึงแขนเสื้อของเขา หน้าแดง แล้วก็พยักหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
“ฉันคิดถึงนาย”
เสียงนุ่มนวล เหมือนกับขนนก สะกิดเบาๆ ที่หัวใจของผู้ชายคนนี้
โห้หลีเฉินมองเธอ ดวงตาของเขามืดมนลงทันที
เขาโอบเอวของเธอไว้ แล้วก็ดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน พร้อมกับก้มหน้าลง พูดกับเธอทีละคำด้วยระยะห่างที่ใกล้มาก
“เย้นหว่าน ฉันเองก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”
พอพูดจบ ริมฝีปากเขาก็ประทับลงมาที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอ
จูบของเขานั้นเบาบางมาก แต่มันเหมือนเป็นประกายไฟที่ตกลงบนผืนหญ้าในทันที จุดไฟให้กับหญ้าผืนนี้
ทั้งสองคนคิดถึงกันจนเข้ากระดูก กอดอีกฝ่ายไว้แน่น แล้วก็จูบอีกฝ่าย
แทบอดไม่ไหวที่จะหล่อหลอมอีกฝ่ายในอ้อมแขนของตัวเอง
จูบ มันร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถเก็บได้
เย้นหว่านกอดเอวของโห้หลีเฉินไว้ กอดแน่นมาก โห้หลีเฉินก็ขมวดคิ้วแน่น
เย้นหว่านอึ้งไป “ทำไมหลังนายเปียกล่ะ? ”
“มันร้อน เลยเหงื่อออกน่ะ”
โห้หลีเฉินตอบแบบส่งๆ ไป จากนั้นเขาก็จูบที่ริมฝีปากของเย้นหว่านอย่างรุนแรง จูบนั้นดุเดือดแล้วก็เหมือนนักล่า
แม้แต่อากาศ ก็ยังอุณหภูมิเพิ่มขึ้น
ภายใต้ทักษะการจูบที่ยอดเยี่ยมของเขา เย้นหว่านไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านเลย เหมือนเรือที่ล่องไปในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ ทำได้แค่กลิ้งขึ้นลงไปตามคลื่นเท่านั้น
ลมหายใจของทั้งสองคนเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าอากาศจะแผดเผาไปด้วย
ความคิดถึงที่ยาวนานถูกนำมาสู่การปฏิบัติ
เขาต้องการจะครอบครองเธอ
เขาต้องการจะกอดเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...