ตอน บทที่591 นี่คุณกำลังอิจฉาอยู่เหรอ จาก สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่591 นี่คุณกำลังอิจฉาอยู่เหรอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน ที่เขียนโดย ถางเสี่ยวเถียน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่591 นี่คุณกำลังอิจฉาอยู่เหรอ
ต้วนอานเป็นคนฉลาด เขาจึงรีบเดินเข้าไป ก่อนจะนั่งยองๆลงข้างๆหญิงสาว แล้วยื่นมือไปจับคางของเธอ ให้เธอเงยหน้าขึ้น
หญิงสาวถือว่าเป็นคนหน้าตาสวยคนหนึ่ง แต่กลับไม่เหมือนกู้จื่อเฟยเลยสักนิด
ยิ่งโดยเฉพาะสีหน้าที่ดูหวาดกลัว ยิ่งไม่เหมือนเข้าไปใหญ่
กู้จื่อเฟยเป็นคนร่าเริงสดใส อารมณ์ดีทั้งวัน เป็นคนใจกล้ามาก
เย้นโม่หลินมองหน้าลีซ่าอย่างเกลียดชัง ก่อนจะโยนรูปในมือใส่หน้าผู้จัดการ
“นายคิดว่าฉันตาบอดหรือไง”
พอพูดจบ เย้นโม่หลินก็ดึงปืนกระบอกออกมา และชักไกปืน แล้วเล็งไปที่ศีรษะของผู้จัดการ
คนที่ทำให้เขาเสียเวลา ก็สมควรตาย
ผู้จัดการตกใจจนฉี่ราดกางเกง รีบพูดอย่างตกใจกลัว “ใช่เธอ ใช่เธอจริงๆครับ ตอนเธอแต่งหน้าเสร็จเหมือนในรูปเลยครับ”มือของเย้นโม่หลินที่กำลังเตรียมชักไกปืนชะงักไป
ผู้จัดการเห็นความหวัง จึงรีบตะโกนสั่งลีซ่า “เธอรีบไปแต่งหน้าเดี๋ยวนี้ แต่งให้เหมือนงานเลี้ยงเต้นรำคืนนั้น เร็ว ไปเร็วๆสิ
ลีซ่านั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น ก่อนจะพูดติดๆขัดๆ “ฉัน ฉันกลัว....”
เธอไม่เคยเจอสถานการณ์ร้ายแรงแบบนี้ คนที่มีท่าทางดุร้ายแบบนี้ แล้วยังมีการใช้ปืนยิงคนตายจริงๆอีก
เธอเพิ่งพูดจบ กระบอกปืนสีดำสนิทก็จ่อมาที่ขมับของเธอ
ต้วนอานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณชายของพวกเราไม่เวลามาเสียเวลากับคุณมากถึงขนาดนั้น เราจะให้เวลาคุณสิบนาที ถ้ายังแต่งหน้าไม่เสร็จ ทุกคนในที่นี้ต้องตาย”
“กรี๊ด...ฉันแต่งหน้าค่ะ ฉันจะแต่งหน้า”
ลีซ่าตกใจจนกรีดร้อง ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากพื้น แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางของเธอออกมา
โดยไม่สนใจสภาพเสื้อผ้าของเธอ และไม่สนใจว่าจะมีคนมองเธออยู่เยอะแค่ไหนเธอเริ่มแต่งหน้าด้วยมือที่สั่นเทา
ผู้จัดการเห็นท่าทางของเธอ เขากลัวว่าเธอจะกลัว จนแต่งหน้าไม่ดี หรือแต่งหน้าแตกต่างกันจนเกินไป
เขาจึงรีบพูดอธิบาย “ลีซ่าชอบแต่งหน้าสไตล์สาวจีน ดังนั้นบางครั้งเธอจะแต่งหน้าสไตล์สาวจีน ดูไปแล้ว จะเหมือนสาวลูกครึ่ง ปกติ ปกติ...จะได้รับความนิยมชมชอบจากแขกในร้านมากครับ”
พอได้ยินแบบนี้ แววตาของเย้นโม่หลินก็บึ้งตึงไปเล็กน้อย
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ลีซ่าก็ใช้ใบหน้าที่เหมือนกู้จื่อเฟยไปให้บริการรับแขกน่ะสิ...
แค่จินตนาการถึงภาพนี้ ไอสังหารของเย้นโม่หลินก็กระจายออกมาจนคนรอบตัวต่างพากันตกใจกลัว
แม้แต่ลีซ่าที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตรเองก็ได้รับอิทธิพลไปด้วย เธอตกใจจนที่เขียนคิ้วในมือกระตุก จนคิ้วที่วาดบิดงอไปด้วย
คนอื่นๆไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ พยายามทำตัวให้ไร้ตัวตนที่สุด แทบอยากจะหายตัวไปจากที่นี่ให้ได้เลย
สิบนาที มาถึงอย่างรวดเร็ว
สำหรับคนที่นี่แล้ว มันกลับทรมานเหมือนผ่านไปหลายชาติภพ
มือที่กำลังสั่นเทาของลีซ่าวางอุปกรณ์แต่งหน้าลง ก่อนจะมองไปทางเย้นโม่หลินด้วยท่าทางหวาดกลัว “ฉัน...ฉันแต่งหน้าเสร็จแล้วค่ะ”
เย้นโม่หลินมองไปที่เธอด้วยแววตาเยือกเย็น
พอได้เห็น รูม่านตาหดตัวลง
เขาพูดด้วยนำเสียงดุดัน “ใครอนุญาตให้เธอแต่งหน้าแบบนี้”
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าตายนัก
ที่แท้ไม่ใช่ว่าจะมีใบหน้าเหมือนกู้จื่อเฟย แต่เป็นเพราะเธอแต่งหน้าแล้วเหมือน ทำให้รูปหน้าดูอ่อนหวานขึ้น พอมาดูตอนนี้ จึงมีส่วนที่คล้ายกู้จื่อเฟยถึงเจ็ดแปดส่วนเลยทีเดียว
และเดิมทีภาพในกล้องวงจรปิดก็เบลออยู่แล้ว ภาพที่ถ่ายออกมาจึงไม่ค่อยชัดเจน ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาเข้าใจผิด คิดว่าคนในรูปภาพคือกู้จื่อเฟย
และที่นี่ยังเป็นสถานเริงรมย์ ที่ผู้ชายมาเสพสุขอีกด้วย
ถ้ากู้จื่อเฟยต้องร่อนเร่พเนจรมาถึงที่นี่ จะเจอเรื่องอะไรบ้าง ไม่ต้องบอกก็พอจะเดาได้
เย้นโม่หลินได้รู้ข่าวนี้ จึงตกใจมากจนร้อนใจ รีบเดินทางมาดู เขากังวลใจมาตลอดทาง อีกทั้งยังรู้สึกโทษตัวเองที่ออกปากไล่กู้จื่อเฟยไป
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาในสถานที่แบบนี้
เขารู้สึกโชคดีมาก ที่ผู้หญิงในสถานเริงรมย์นี้ไม่ใช่กู้จื่อเฟย นั่นแสดงว่าเธอไม่ลำบากจนต้องมาทำงานแบบนี้
แต่ที่ยิ่งน่าโมโหกว่า คือผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาต้องเสียเวลามาที่นี่ แต่กลับยังตามหากู้จื่อเฟยไม่เจอสักที
ได้เห็นเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินผ่านเรื่องราวร้ายๆมาด้วยกันหลายเรื่อง เขาที่เป็นลูกน้องยังรู้สึกซาบซึ้งใจ
จนแทบอยากจะให้พวกเขาแต่งงานกันซะเดี๋ยวนี้เลย
เย้นโม่หลินสีหน้าบึ้งตึง แทบไม่น่าดูเลย
อารมณ์ไม่ดีเอามากๆ
แค่ตามหาคนคนเดียวเขายังหาไม่เจอ อารมณ์เขาเสียไม่มีที่ระบาย พอเห็นโห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านไว้ด้วยสีหน้าพออกพอใจ เขายิ่งรู้สึกอารมณ์เสีย
อารมณ์เสียเอามากๆเลยด้วย
ทั้งพวกดอกไม้ ลูกโป่ง น้ำพุ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่พวกผู้ชายเจ้าชู้เขาเตรียมมาหลอกผู้หญิงให้ดีใจเท่านั้นเอง
จะมีก็แต่เย้นหว่านที่ถูกหลอกเท่านั้นแหละ
ถ้าเป็นกู้จื่อเฟยคงจะไม่ถูก…
เย้นโม่หลินหยุดชะงักไปทันที เขาขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะยิ่งอารมณ์เสียมากขึ้น
เขาแค่กำลังตามหากู้จื่อเฟย เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ ส่วนเรื่องเธอจะชอบการสารภาพรักแบบไหน ชอบผู้ชายแบบไหน เขาไม่จำเป็นต้องสนใจเลยสักนิด
ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
เย้นโม่หลินโยนไอแพดกลับไปให้ต้วนอาน ก่อนจะเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนดาวตก
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “กลับ”
ในเมื่อโห้หลีเฉินฟื้นแล้ว เขาก็ควรจะกลับไปจัดการได้แล้ว
ไม่อย่างนั้นโห้หลีเฉินจะถือโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่ คิดสารพัดวิธีมาหลอกลวงน้องสาวเขาอีก
พอเห็นว่าโห้หลีเฉินพยายามหาสารพัดวิธีมาเอาอกเอาใจเย้นหว่าน เย้นโม่หลินคิดว่า การแต่งงานนี้ เขาจะไม่มีทางเห็นด้วยเด็ดขาด
ต้วนซานรีบเดินตามหลังเย้นโม่หลินไปอย่างรวดเร็ว ในใจอดที่จะบ่นไม่ได้
คุณชายครับ เพราะคุณชายตามหาคุณหนูกู้จื่อเฟยไม่เจอ ก็เลยทนเห็นคุณโห้ทำสำเร็จ มีสาวสวยอยู่ในอ้อมกอดไม่ได้ คุณชายกำลังอิจฉาอยู่รู้ไหมครับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...