บทที่ 629 เมื่อตกลงเงื่อนไขได้เรื่องราวก็จะบรรลุผลสำเร็จ
ต้วนอานหัวเราะเยาะอย่างชั่วร้าย “ไม่ทรมานแกตอนเป็นคนให้น่าสมเพชที่สุด ฉันก็ยังไม่อยากให้แกตายจริงๆ”
ท่านอาวุโสผมสีเงินยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง ทนมองต่อไปไม่ไหวจริงๆ กระซิบเบาๆว่า
“ไปเถอะ!”
ต้วนอานจึงได้เอามือออกจากตะปูตอนนี้
หมุนตัวไปอย่างหยิ่งยโส สาวเท้าเดินออกไปข้างนอก
ท่านอาวุโสผมสีเงินมองหยูซือห้านแวบหนึ่งอย่างมีนัย รีบเดินตามต้วนอาน เดินออกไปข้างนอก
หยูซือห้านมองสองคนเดินจากไป จิตใจวุ่นวาย
เขามีความหวังแล้ว ก็เริ่มไม่สบายใจ คำพูดของท่านอาวุโสใหญ่เห็นชัดว่ายังพูดไม่จบ เขาต้องการจะพูดอะไรกันแน่
คือวางแผนจะช่วยเขาใช่มั้ย จะให้เขาร่วมมืออย่างไร
หยูซือห้านคิดอย่างกระวนกระวาย เริ่มเตรียมแผนการหลังจากนั้น เวลานี้ กลับมองเห็นด้วยความตกตะลึง ท่านอาวุโสใหญ่ที่เดินอยู่ด้านหลังต้วนอาน ตอนที่เดินถึงประตู จู่ๆก็ลงมือทันที
มีดเล่มหนึ่งสับไปที่คอของต้วนอาน ต้วนอานก็หมดสติไปทันที ร่างเขาคดงอล้มลง
ท่านอาวุโสใหญ่เตรียมพร้อมไว้แต่แรกแล้ว อุ้มต้วนอานจากทางด้านหลังอย่างปราดเปรียวว่องไว จากนั้นก็เตะประตูที่เปิดอยู่ให้ปิด
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างนอกมองมา เห็นต้วนอานเป็นคนปิดประตู ก็วางใจ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไร
ประตูปิดแล้ว ท่านอาวุโสใหญ่ก็รีบโยนต้วนอานที่หมดสติไปที่พื้น
เขาหมุนตัว สาวเท้าเดินไปหาหยูซือห้าน
“ฉันจัดเตรียมคนที่จะมารอรับข้างนอกแล้ว ตอนนี้ฉันจะช่วยเธอออกไป!”
หยูซือห้านมองท่านอาวุโสใหญ่อย่างตื่นตกใจ สีหน้าปีติยินดี แล้วก็มีความลังเลสงสัยเล็กน้อย
“คุณเอาผมไปอย่างนี้ ตระกูลเย้นจะต้องมาเอาตัวคน สร้างความเดือดร้อนกับตระกูลหยู ”
หากตระกูลหยูถูกบังคับ ตระกูลหยูอาจจะยังประนีประนอมได้ในท้ายที่สุด
ท่านอาวุโสผมสีเงินส่ายหน้า พูดว่า“วางใจเถอะ ฉันเตรียมการไว้พร้อมแล้ว ใช้คนที่ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตระกูลหยูมาช่วยนายออกไป เมื่อสืบขึ้นมา ก็จะพูดว่าลูกน้องนายมาช่วยนายไป ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหยู”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลเย้นต่อให้สงสัยตระกูลหยู ก็ไม่มีหลักฐาน ไม่สามารถทำอะไรตระกูลหยูได้
เป็นวิธีที่ดีมาก!
หยูซือพยักหน้าทันที พูดว่า “รอให้ผมเป็นอิสระ ก็จะติดต่อคนของผม ถึงเวลาพวกเย้นโม่หลินก็จะต้องตกที่นั่งลำบาก”
การต่อสู้กับความตายของเขา จะทำให้เย้นโม่หลินและโห้หลีเฉินปวดหัวแทบตาย จนไม่มีเวลามาหาเรื่องตระกูลหยู
ตอนนั้น หยูซือห้านก็จะซ่อนตัวในตระกูลหยู แอบวางแผนเรื่องทายาท
ขอเพียงเขาควบคุมอำนาจในมือ หลังจากจัดการโห้หลีเฉินขึงไว้กลางอากาศ เขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
ส่วนตระกูลหยู ก็เป็นผู้สนับสนุนที่มั่นคงที่สุดของเขา
“ตอนนี้ฉันจะช่วยเอาตะปูที่ตรึงนายเอาไว้ออก เจ็บหน่อยนะ อดทนไว้!”
ท่านอาวุโสผมสีเงินพูดพลาง ก็ลงมือทันที มือที่แห้งเหี่ยว กลับมีเรี่ยวแรงดีมาก ไม่นานก็แกะหมุดที่ตรึงข้อมือซ้ายขวาเขาลงมาได้
ทันใดนั้น ก็มีความเจ็บปวดจากการฉีกขาดส่งมา เจ็บจนร่างของหยูซือห้านกระตุกไปทั้งตัว
ตรงหน้าเขาคือความมืดมิดอีกแล้ว สายตาพร่ามัวไม่ชัดเจน เกือบจะทนไม่ไหวหมดสติไป
แต่ตอนนี้ เขาจะหมดสติไปไม่ได้เด็ดขาด
เขาต้องไปจากที่นี่
หยูซือห้านฝืนทนอย่างไม่คิดชีวิต รักษาสติเอาไว้ กัดฟันให้ตัวเองตื่นตัวบ้างเล็กน้อย
สายตาที่ย้อมสีแดงเลือดของเขา พร่ามัวไม่ชัดเจน แต่กลับหนักแน่น คมกริบ
เขาพูดเสียงนิ่งว่า “แกะต่อไป!”
ความเจ็บนิดหน่อยนี้ เมื่อเทียบกับอิสระที่เขาจะได้หนีออกไป เทียบอะไรไม่ได้เลย
ตายไม่ได้ เขาอดทนได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...